19 ก.พ. 2020 เวลา 14:31 • ธุรกิจ
กรณี ศึกษา
เชฟโรเลตประเทศไทย ทำไมถึงเจ๊ง
หลังจากที่มีข่าวสายฟ้าแลบออกมาว่าทางบริษัท GM ที่ทำธุรกิจขายเชฟโรเลตในไทยจะเลิกกิจการ ก็ทำให้มีคำถามเกิดขึ้นมามากมายเลยว่า
อะไรคือเหตุผล ? ที่ทำให้เชฟโรเลตในประเทศไทยเจ๊ง
ซึ่งจริงๆแล้วเชฟโรเลตก็ไม่ได้เลิกขายเฉพาะในไทยนะ แต่รวมไปถึงการยกเลิกกิจการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเลยทีเดียว
ก่อนอื่นก็ต้องมาทำความเข้าใจเรื่องราวกันก่อน ว่าถ้าหากย้อนกลับไปในปีพ.ศ. 2539 นั้น GM หรือ เจเนรัลมอเตอร์ บริษัทแม่ที่เป็นบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกาได้ทำการเลือกประเทศไทยให้เป็น “ฐานทัพ” ของการผลิตประจำเอเชียแปซิฟิก
หลังจากนั้น เม็ดเงินกว่า 30,000 ล้านบาทก็ได้ถูกนำมาลงทุนบนนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ดในจังหวัดระยอง ด้วยเทคโนโลยีที่สุดทันสมัยและดีเป็นอันดับต้นๆของภูมิภาคในตอนนั้น
1
จนต่อมาเมื่อปีพ.ศ. 2543 เชฟโรเล็ตก็ได้เริ่มผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกและขายรถยนต์ในประเทศอย่างเป็นทางการภายใต้แบรนด์ Chevrolet และ Holden
หลังจากนั้น Chevrolet (ประเทศไทย) ก็ได้ปล่อยรถยนต์ออกมาเพื่อแข่งขันในตลาดบ้านเราไปพร้อมๆกับการสร้างโรงงานแห่งที่ 2 รวมไปถึงลงทุนเพื่อพัฒนาฐานการผลิตมาอย่างต่อเนื่อง แต่แล้วในปีพ.ศ. 2552 เหตุการณ์ที่ทุกคนไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น
เนื่องจาก GM ที่เป็นบริษัทแม่ของ Chevrolet ได้ยื่นฟ้องลมละลาย ทำให้ความเชื่อมั่นและแบรนด์เชฟโรเล็ตที่กำลังบูมอยู่ในไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ถึงอย่างไร Chevrolet ก็ยังสามารถเอาตัวรอดและสร้างความเชื่อมั่นกลับมาได้ในเหตุการณ์ครั้งนั้น
รถยนต์รุ่นแรกที่ Chevrolet ได้ทำออกมาขายนั้นมีชื่อว่า Zafira (มินิแวน) ส่วนรุ่นต่อๆมาที่ได้รับความนิยมตลอดกาลและเป็นที่รู้จักของ Chevrolet ในไทยก็คงจะเป็นกระบะอย่าง Colorado
หากทุกคนยังจำกันได้ รถเก๋งรุ่นล่าสุดที่ Chevrolet ปล่อยออกมาก็คือ Sonic ตอนปีพ.ศ. 2555 แต่หลังจากนั้นบริษัทก็ไม่ได้ปล่อยรถเก๋งรุ่นใหม่ๆออกมาเลย และนั่นแหละคือสัญญาณแรกของการ “ถดถอย” ของเชฟโรเล็ตประเทศไทยและภูมิภาค
หลังจากนั้น Chevrolet ก็หยุดทำตลาดรถเก๋ง จะเหลือก็แต่เพียงรถกระบะ, รถ PPV(Trailblazer) และ SUV อย่าง Captiva
อีกทั้งในปีพ.ศ. 2558 บริษัทแม่อย่าง GM ก็ได้เริ่มทำการปรับโมเดลธุรกิจในภูมิภาคแอเชียแปซิฟิกจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ เชฟโรเล็ตประเทศไทย เคยมีโครงการปล่อยให้พนักงานลาออกโดยสมัครใจอีกด้วย
จากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย บวกกับยอดขายที่ลดลงของ Chevrolet ในไทยก็ทำให้หลายๆคนก็เฝ้าจับตามองอยู่ว่าพวกเขาจะไปต่อได้อีกนานแค่ไหน จึงทำให้มีข่าวแว่วๆมาโดยตลอดว่าบริษัทนั้นกำลัง “แย่”
ซึ่งก็มีความคิดเห็นกันในหลายๆแง่มุมมาโดยตลอด จากทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ
แต่ในที่สุดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่องนี้ก็ได้เป็นจริงขึ้นมา !! เมื่อ GM ได้ประกาศยุติการขายรถยนต์เชฟโรเล็ตในประเทศไทย...
โดยจะทำการขายกิจการเชฟโรเล็ตประเทศไทยรวมไปถึงโรงงานผลิตที่ระยองให้กับ Great Wall Motors ซึ่งเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีน
💰 ถ้าหากเราย้อนไปดูผลประกอบการของบริษัท เชฟโรเล็ต เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็จะพบว่า
ปี 59 รายได้ 12,775 ล้านบาท
กำไร -1,567 ล้านบาท
ปี 60 รายได้ 13,177 ล้านบาท
กำไร -1,421 ล้านบาท
ปี62 รายได้ 15,404 ล้านบาท
กำไร -527 ล้านบาท
ผลประกอบการก็ดูเหมือนกำลังจะดีขึ้น แต่ด้วยความที่ GM คงเห็นว่าสู้ต่อไปก็คงจะไม่เติบโตเท่าไหร่ เพราะการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยก็ถือว่าสูงมาก อีกทั้งช่วงหลังๆรถยนต์ของ Chevrolet ก็ไม่สามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมาได้มากสักเท่าไหร่นัก
ซึ่ง GM ก็จะยกเลิกการทำธุรกิจของ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) และ เชฟโรเล็ต เซลล์ (ประเทศไทย) ภายในสิ้นปี 2563 นี้และทำการส่งต่อให้กับทาง Great Wall Motors ที่กำลังมองหาการเติบโตในเอเชีย
นอกจากนี้ แบรนด์ Holden ที่อยู่ในเครือของ GM ก็ได้ประกาศยุติการจำหน่ายในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ไปพร้อมๆกันกับ Chevrolet ในไทย
ปิดตำนานแบรนด์รถยนต์สัญชาติอเมริกันในไทยไปเรียบร้อยสำหรับ Chevrolet ประเทศไทย
ซึ่งก็ตรงกับกลยุทธ์ของ GM ที่จะ “ดับเครื่อง” ธุรกิจรถยนต์สำหรัยตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่จะไปเน้นที่ตลาดอเมริกา, อเมริกาใต้, จีน และเกาหลีใต้ให้มากขึ้น
สำหรับบทเรียนที่ได้จากเรื่องนี้ ก็คงจะเตือนใจพวกเราได้เป็นอย่างดีว่า
เมื่อเราคิดที่จะลงทุนหรือทำอะไรนั้น เราต้องรู้ด้วยว่าโอกาสชนะของเรามีมากแค่ไหน ? ชนะแล้วจะทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายได้มากขึ้นหรือเปล่า ??
เพราะถ้าเราไม่รู้ในสิ่งพวกนั้น มันก็เหมือนการไปต่อสู้, ไปเสี่ยง, ไปเหนื่อยในสนามที่ชนะยาก แถมชนะไปแล้วก็ยังไม่ได้อะไรมากอีกต่างหาก
ตรงกับสุภาษิตไทยที่ว่า
“งมหาเข็มในมหาสมุทร” นั่นเอง...
เรื่องนี้ ก็ต้องมาติดตามดูกันต่อไป...
อีกหนึ่งช่องทางของเราใน App blockdit
กดมาเลย
ฝากติดตามพวกเราด้วยนะครับ 🙏🙏
โฆษณา