22 ก.พ. 2020 เวลา 14:17
Pay It Forward หากใจเราพร้อมจะให้ (ใจ) เราจะได้มากกว่าหนึ่ง
ทำความดี เพื่อส่ง...ต่อ...ต่อ...ต่อ...ก่อสิ่งดี
ผ่านมา 20 ปีแล้วสินะกับแนวคิด “Pay It Forward” การจ่ายล่วงหน้า (หากถอดความตามตัวอักษร) หรือ “การส่งต่อความดี” ประเด็นหลักของหนังที่ต้องการจุดประกายให้คนในสังคมมาร่วมกันส่งความดี ต่อ ต่อ ต่อ กันไป เพียงเพื่อหวังเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น
แต่ดูเหมือนความปรารถนาดังกล่าวยังไปไม่ถึงไหน ยี่สิบปีที่ผ่านไป สภาพจิตใจของผู้คนในสังคมยังคงเดินสวนทางกับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มากขึ้นทุกวัน
ดังเห็นได้จาก การส่งต่อความเลวของฆาตกรที่ดูราวกับเป็นฮีโร่ กับข่าวดังในช่วงที่ผ่านมา
การสร้างข่าวปลอมทำลายผู้อื่นในสื่อสังคมออนไลน์
การใช้ความโลภของมนุษย์เป็นเครื่องมือเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตนในธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ฯลฯ
หลากหลายเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นึกถึงหนังเรื่องนี้ และอยากเชิญชวนท่านผู้อ่านมาร่วมกัน “ส่งต่อความดี” ต่อ ต่อ ต่อ กันไป เหมือนหนัง “Pay It Forward หากใจเราพร้อมจะให้ (ใจ) เราจะได้มากกว่าหนึ่ง” หลังอ่านข้อเขียนนี้จบลง
Pay It Forward จัดเป็นหนังเล็กๆที่ทำรายได้ไม่มากนักในสมัยนั้น แต่สารของหนังที่ต้องการบอกกับคนดูมันได้ไม่เล็กเลย
มีการจัดเสวนา สร้างกลุ่ม สร้างเว็บไซต์ เพื่อนำสารจากหนังไปต่อขยาย โดยหวังว่าจะสร้างกระแส จุดประกายความคิดนี้ออกไปสู่วงกว้าง แต่มันก็ทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เมื่อวันเวลาผ่านไป กระแสต่างๆมันค่อยๆมอดดับไป
ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมามีคนหยิบยกหนังเรื่องนี้ขึ้นมากล่าวถึงเป็นระยะ แต่การพูดถึงเรื่องดีดี ความคิดทัศนคติเชิงบวก อาจไม่เป็นที่สนใจ ไม่สามารถสร้างกระแสได้เท่าการพูดถึงเรื่องในเชิงลบ กอปรพฤติกรรมการแชร์ การส่งต่อข่าวสารต่างๆ มันไม่เอื้อเหมือนปัจจุบัน
ณ.ปีเริ่มต้นของทศวรรษ 2020 ยุดเริ่มต้นของ 5 จี ที่มีพร้อมทั้งเทคโนโลยีและพฤติกรรมของมนุษย์ อยากรู้เหมือนกันว่าสังคมออนไลน์หลากหลายรูปแบบที่มีอยู่ในขณะนี้ มันจะนำพาแนวคิด “การส่งต่อความดี” ไปได้ไกลแค่ไหน
ที่มาของแนวคิดเพย์ อิท ฟอร์เวิร์ด การจ่ายล่วงหน้าหรือการส่งต่อความดี เริ่มต้นจากโจทย์การบ้านของครูสอนวิชาสังคมศึกษา ยูจีน ซิโมเน็ต (เควิน สเปซีย์) ที่ว่า
“คิดหาแนวทางเปลี่ยนแปลงโลก แล้วนำไปปฏิบัติ”
"Think of an idea to change our world and put it into action"
จากโจทย์ทำให้เทรเวอร์ แม็คคินนีย์ (ฮาร์ลี่ย์ โจเอล ออสเมนต์) นักเรียนในห้องได้สร้างแนวคิดนี้ขึ้น เพื่อนำมาส่งครู
โดยหลักการของเพย์ อิท ฟอร์เวิร์ด เริ่มต้นที่ การทำความดีมิได้หวังผลตอบแทนแต่ทำดีเพื่อส่งต่อ โดยผู้ได้รับการช่วยเหลือจะต้องส่งต่อความดีให้กับผู้อื่นอีก 3 คน ไม่จำเป็นต้องตอบแทนใดๆกลับไปยังผู้ให้ความช่วยเหลือ
แต่การช่วยนั้นต้องเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างแท้จริง ต้องช่วยในสิ่งที่ผู้นั้นช่วยตัวเองไม่ได้ หลังจากช่วยแล้วบอกให้ทำต่อในแบบเดียวกันนี้กับผู้อื่นอีกสามคน
และคนแรกที่เป็นจุดเริ่มต้น “การส่งต่อความดี” คือ คนจรจัดติดยา ที่เทรเวอร์เห็นคุ้ยหาเศษอาหารในกองขยะ เขาพาคนจรจัดเข้ามาที่บ้านเพื่อช่วยเหลือ เลี้ยงอาหาร และมอบเงินเก็บบางส่วนให้ พร้อมทั้งบอกแนวคิดส่งต่อความดีนี้ไปด้วย โดยหวังว่าคนจรจัดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ท้ายสุดเขากลับไปเสพยา ใช้ชีวิตไม่ต่างจากเดิม
คนต่อมา ครูยูจีน ที่เทรเวอร์วางแผนให้ครูได้รู้จักกับแม่ผู้ติดหล้า (เฮเลน ฮันท์) ก่อนพ่อจะกลับมาหลังจากทิ้งครอบครัวไปช่วงเวลาหนึ่ง เพราะไม่ต้องการเห็นภาพพ่อแม่ทะเลาะเบาะแว้งขนาดลงไม้ลงมือกันเหมือนที่ผ่านมา เทรเวอร์อยากให้แม่คบกับชายคนใหม่ที่ไม่ใช่พ่อของตน
แต่ปมในใจตอนวัยเด็กของครูยูจีนกลายเป็นกำแพงปิดกั้นตัวเอง ไม่พร้อมจะเปิดใจให้ใครเข้ามาในชีวิต ความต้องการของเทรเวอร์ที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ของคนทั้งสองจึงไม่สำเร็จ
หนังบอกคนดูให้รู้ว่า การทำความดีบางครั้งมันไม่ง่าย อาจไม่เห็นผลได้ในทันที แต่ถ้าได้ทำแล้วมันยังคงอยู่ ความดีมันจะขับเคลื่อนตัวเองไปอย่างช้าๆ เฉกเช่นเดียวกับแนวคิดเพย์ อิท ฟอร์เวิร์ด เมื่อมันถูกจุดขึ้นแล้ว มันกำลังทำหน้าที่ส่งต่อ ต่อ ต่อ ออกไป โดยที่เจ้าของความคิดไม่รู้เลย
หนังจบลงด้วยแนวคิดเพย์ อิท ฟอร์เวิร์ดถูกกระจายออกไปสู่วงกว้าง จนนักข่าวต้องสืบหาต้นตอความคิดนี้เริ่มจากใคร ภาพและเสียงจากคำสัมภาษณ์ของเทรเวอร์ในฉากนี้ มันสร้างคำถามมากมายในใจ ผสมปนเปไปกับน้ำตาที่ค่อยๆเอ่อล้นออกมา
“ผมคิดว่ามันยาก สำหรับบางคนที่เคยชินกับสิ่งต่างๆในแบบที่เขาเป็น”
“แม้จะรู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดี...เพื่อเปลี่ยน”
“เขาก็เลยยอมแพ้ เมื่อเขายอม เราทุกคนก็เลยพ่ายแพ้”
“I guess it’s hard for some people who are used to things the way”
“They are even if they’re bad ….to change”
“I guess they kind of give up and when they do every body kind of loss"
Pay It Forward ออกฉายในปี 2000 หลังจากเจ้าหนูฮาร์ลี่ย์ โจเอล ออสเมนต์ดังเป็นพลุแตก จาก The Sixth Sense / 1999 ได้รับการเสนอชื่อรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมบทยอดเยี่ยมฝ่ายชาย แต่พ่ายแพ้ให้กับไมเคิล เคน จาก The Cider House Rules / 1999
การแสดงของเจ้าหนูฮาร์ลี่ย์ (ตอนนี้กลายเป็นเจ้าหมู) กับตัวละครซึ่งมีปูมหลังชีวิตที่ต้องทนอยู่กับครอบครัวที่แตกแยกมาโดยตลอด สีหน้า แววตา ท่าทางการแสดงที่รับส่งกันกับสองนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างเฮเลน ฮันท์ และ เควิน สเปซีย์ ทำให้คนดูเชื่อสนิทใจว่าเด็กอายุแค่ 12 ทำไมมีแนวคิดที่โตกว่าอายุได้มากขนาดนี้
ฮาร์ลี่ย์ โจเอล ออสเมนต์ ยังคงมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แม้จะไม่โด่งดังเท่าผลงานในวัยเด็กก็ตาม
แต่ละคนต่างมีเหตุผลในการทำความดีที่แตกต่างกัน
ทำดีเพราะหวังผลจากการทำความดี
ทำดีชาตินี้เพื่อจะได้สุขสบายในชาติหน้า
ทำดีเพื่อลบสิ่งที่เคยทำไม่ดีในอดีต
ทำดีเพราะทำแล้วมีความสุข อื่นๆ อีกมากมาย
ไม่ว่าเหตุผลใด มันก็ทำให้เราได้เริ่มต้นทำความดี
แต่พึงตระหนักไว้เสนอว่าหากทำดีแล้วความดีนั้นยังคงอยู่ อาจไม่เห็นผลในทันที อาจต้องใช้เวลาในการสั่งสม ส่วนจะนานแค่ไหนก็แล้วแต่ตัวบุคคล ไม่มีใครตอบได้
ดังนั้น เพื่อให้เราสบายใจในการทำความดีแบบไม่คาดหวังว่ามันจะได้อะไรกลับมาในอนาคต ก็แค่คิดง่ายๆว่า
“ทำความดี ก็เพราะมันดี ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ดี เราก็ทำ...”
คิด...เพียงแค่นี้เราก็สุขใจทันที ทุกๆครั้งที่ได้ทำในสิ่งที่ดี
ป.ล. ทำความดีแล้ว อย่างลืม “ส่งต่อความดี” ต่อ ต่อ ต่อ ไปอีก 3 คน ด้วยนะ ไม่แน่แนวคิด “เพย์ อิท ฟอร์เวิร์ด” อาจเกิดขึ้นจริง โดยมีคุณเป็นส่วนหนึ่งในนั้น
...-------------------...
จินตกาล กาง-แปรง
22 / 02 / 2020
.
จินตกาล กาง-แปรง
กาง-แปรง กาง-แปรง
ผลงานที่ผ่านมาของ ฮาร์ลี่ย์ โจเอล ออสเมนต์
01. Forrest Gump / 1994
02. Mixed Nuts / 1994
03. For Better or Worse / 1995
04 Bogus / 1996
05.Beauty and the Beast / 1997
06. The Sixth Sense / 1999
07. I'll Remember April / 1999
08. Pay It Forward / 2000
09. Spot the Dog / 2000
10. A.I. Artificial Intelligence / 2001
11. Edges of the Lord / 2001
12. The Hunchback of Notre Dame II / 2002
13. The Country Bears / 2002
14. SecondhandLions / 2003
15. The Jungle Book 2 / 2003
16. Home of the Giants / 2007
17. Montana Amazon / 2012
18. Sassy Pants / 2012
19. I'll Follow You Down / 2013
20. Tusk / 2014
21. Sex_Ed_poster / 2014
22. Wrestling Isn't Wrestling / 2015
23. The World Made Straight / 2015
24. Entourage / 2015
25. Me Him Her / 2016
26. Yoga Hosers / 2016
27. Almost Friends / 2016
28. Izzy Gets the Fck Across Town / 2017
29. CarGo / 2017
30. Extremely Wicked, Shockingly Evil and Vile / 2019
31. The Devil Has a Name / 2019
ขอขอบคุณ : ข้อมูลจากวิกพีเดีย บางส่วนจากอินเตอร์เนต , ภาพจากอินเตอร์เนต , คลิปจากยูทูป
#Quality EN
#จินตกาล กาง-แปรง
โฆษณา