21 ก.พ. 2020 เวลา 08:00 • ประวัติศาสตร์
Galvarino ชาวเผ่าผู้ถูกตัดมือทั้งสองข้าง แต่นำมีดมาใส่แทนมือและสู้รบ
ชาวเผ่า Mapuche คือกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในแถบประเทศชิลีและอาร์เจนติน่ามาตั้งแต่โบราณ
แต่ในยุคค.ศ.1500-1800 (พ.ศ.2043-2442) สเปนก็ได้ขยายอำนาจเข้ามาในภูมิภาคนี้ และชาวเผ่า Mapuche ก็ได้ต่อสู้กับกองทัพสเปนเป็นเวลานานกว่า 200 ปี
Galvarino เป็นหนึ่งในนักรบของ Mapuche และได้ทำสงครามกับสเปน
แต่ในปีค.ศ.1557 (พ.ศ.2100) ทัพ Mapuche นับพันก็ได้พ่ายให้แก่กองทัพสเปนที่มีอาวุธปืนที่ทันสมัย และทหาร Mapuche กว่า 150 คนก็ถูกกองทัพสเปนจับตัว
ผู้บัญชาการกองทัพสเปนสั่งให้ตัดมือขวาและจมูกของทหาร Mapuche ทุกคน แต่สำหรับผู้นำอย่าง Galvarino นั้นถูกตัดมือทั้งสองข้าง
Galvarino ถูกตัดมือทั้งสองข้าง
กองทัพสเปนเลือกที่จะไม่ประหารชาว Mapuche แต่เลือกที่จะตัดมือ ตัดจมูก เพื่อขู่ให้คนอื่นๆ กลัวและยอมตกอยู่ใต้อำนาจของตน ไม่ขัดขืน
แต่ Galvarino ไม่ยอมแพ้ ภายหลังจากที่ถูกตัดมือทั้งสองข้าง เขาก็ได้นำมีดมาใส่แทนมือทั้งสองข้าง และนำกำลังทหารกว่า 3,000 ออกสู้กับกองทัพสเปนในปีค.ศ.1557 (พ.ศ.2100) หลังจากถูกตัดมือเพียงไม่นาน
แต่ถึงจะกล้าหาญแค่ไหน ก็ไม่สามารถสู้กับปืนใหญ่ของสเปนได้อยู่ดี โดยฝ่ายสเปนนั้นไม่เสียกำลังพลเลย เสียแต่เพียงม้าแค่ไม่กี่ตัว
Galvarino ถูกจับได้และถูกนำตัวไปประหารชีวิต
ถึงแม้ Galvarino จะปลดปล่อยคนของตนจากสเปนไม่สำเร็จ แต่ความกล้าหาญของเขาก็ยังถูกพูดถึงและเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้
โฆษณา