บันทึกการเดินทาง สโลวีเนีย ประเทศนี้มีดีกว่าที่คิด EP.1
สวัสดีครับ วันนี้จะขอเลี้ยวลงมาทางตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรปบนคาบสมุทรบอลข่านกันบ้าง ที่ประเทศ สโลเวเนีย ประเทศนี้ฟังดูชื่ออาจจะไม่คุ้นหูมากนัก แต่รับรองว่าทัศนียภาพสวยงามแปลกตา และน่าไปเยือนมากๆ เลยทีเดียวครับ
เราเลือกลงเครื่องที่เวียนนา แล้วขับรถลงใต้มาประมาณ 300 กม. เพื่อไปยังเมือง Maribor แต่ก่อนจะข้ามเขตแดนจากออสเตรียมาที่สโลวีเนีย เราต้องแวะจ่ายค่าใช้ทางหลวงของสโลวีเนียก่อนครับ วิธีการก็สะดวกมาก เพียงแค่แวะที่ปั้มน้ำมันแถวๆ ชายแดน แล้วซื้อสติ๊กเกอร์ค่าผ่านทางที่น่าตาน่ารักมากๆ มา 1 อัน เรียกว่า Vignettes และติดที่กระจกหน้ารถ จำได้ว่าระยะเวลา 15 วันประมาณไม่ถึง 20 ยูโร เท่านี้เราก็เอารถผ่านเข้าสโลวีเนียได้อย่างถูกต้องแล้วครับ
Maribor เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของสโลวีเนีย ถึงจะเป็นเมืองใหญ่อันดับสอง แต่ที่นี่ก็มีประชากรเพียงแค่ไม่ถึง 100,000 คนเท่านั้นเองครับ น่าจะน้อยกว่าบางเขตของ กทม. นะเนี่ย 🤣🤣 เมืองนี้ตั้งขึ้นตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 13 บนฝั่งแม่น้ำ Drava ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรมของภาคตะวันออกของสโลวีเนียครับ
หลังจากเข้าที่พัก ซึ่งโชคดีมากที่ได้ที่พักที่จตุรัสกลางเมืองแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินชมเมือง แม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูหนาวที่ หนาวมากกกกกกกก และเป็นวันอาทิตย์ ร้านรวงปิดเกือบหมด แต่ก็ได้ชมแหล่งวัฒนธรรมเก่าๆ ของเมืองก็ยังดี
สถานที่แรกที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่ คือสะพาน Old Bridge ซึ่งเป็นสะพานเหล็กทอดข้ามแม่น้ำ Drava ทิวทัศน์สองข้างสะพานสวยงามตามแบบสะพานกลางเมืองเก่าทั่วไป แต่ที่พิเศษคือ ฮิตเลอร์ เคยมาเยือนและถ่ายรูปบนสะพานแห่งนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อตอนที่เยอรมันบุกมาถึงที่นี่ในปี 1941 สมัยที่สโลวีเนียยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศยูโกสลาเวีย และเมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ที่ถูกทำลายโดยฝ่ายสัมพันธมิตรมากที่สุดในประเทศด้วยครับ
ริมฝั่งแม่น้ำ Drava ยังมีสถาปัตยกรรมอื่นๆ เช่น Maribor Water Tower ซึ่งเป็นป้อมสำคัญทำด้วยอิฐก้อนใหญ่ๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหน้าเขตเมือง โบสถ์ Franciscan Church ที่ดูใหญ่โตสวยงามด้านนอกประดับด้วยอิฐสีแดงเข้ม และปัจจุบันยังใช้เป็นที่ประกอบศาสนพิธีอยู่ นอกจากนี้ ก็ยังมีที่ทำการของเมือง (Maribor Town Hall) ที่ถ้าไม่มีหอคอยด้านบนผมคงคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของบ้านข้างๆ ไปแล้ว เพราะว่าสร้างติดเป็นเนื้อเดียวกันราวกับทาวน์เฮ้าส์เลย
เมืองนี้จริงๆ ต้องถือว่าเป็นเมืองผ่านครับ เพราะตอนที่แพลนการเดินทางเราไม่ต้องการจะขับรถแต่ละวันนานเกินไป แต่พอได้แวะมาแล้วก็พบว่าเป็นเมืองสวยงามคุ้มค่ากับที่ได้มา เช้าวันรุ่งขึ้นจะออกจากเมืองนี้แล้วเริ่มต้นการเข้าสู่โหมดการท่องเที่ยวสถานที่แบบธรรมชาติๆ ซึ่งสโลวีเนียก็มีให้ชมอีกหลายแห่ง และรับรองไม่ซ้ำกับการไปกับทัวร์ทั่วไปแน่นอนครับ
ถ้าชอบบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองที่สอดแทรกเกร็ดเล็กน้อยของสถานที่ที่ได้ไปแบบนี้ รบกวนกดไลค์ กดแชร์ หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสำหรับท่านที่เคยไปด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆ ครับผม 🙏🙏
ริมฝั่งแม่น้ำ Drava, Water Tower, Franciscan Church และ สติ๊กเกอร์ Vignettes
Old Bridge (Cr. Wikipedia)
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
