ปรัชญาขวดน้ำ
ขอนอกเรื่องจากวิ่งและปั่นจักรยานอีกแล้วนะครับ 😁😁
ถ้าเราเปรียบคนเหมือนขวดน้ำ คุณค่าของคนก็จะอยู่ที่ของที่เติมในขวด
ขวดเปล่า...หากใส่ น้ำเปล่า... จะมีค่า 5 บาท
ขวดเปล่า...หากใส่ น้ำหวาน... จะมีค่า 10 บาท
ขวดเปล่า...หากใส่ น้ำผึ้ง... จะมีค่า 300 บาท
ขวดเปล่า...หากใส่ น้ำหอม... จะมีค่า 10,000 บาท
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องนี้ ผมได้อ่านเรื่องนี้จากโพสต์ของคุณ Sharing & Learning ใน Blockdit นี้เอง
แต่ผมมาคิดต่อ ยุคนี้คุณค่าที่มี ที่สั่งสมมาอาจไม่เพียงพอซะแล้ว
ยุคนี้เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปซะด้วย แต่เป็นเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็ว รุนแรง สามารถทำให้ธุรกิจเก่าๆ ล้มหายตายจากไปได้เลย ถ้าปรับตัวไม่ทัน นั่นคือที่เราเรียกกันว่า Disruption นั่นเอง
Digital disruption เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทุกวงการในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมต่างๆ, การศึกษา, การเงินการธนาคาร และอื่นๆอีกมากมาย และเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจมานานแล้ว และหลายอย่างกำลังเกิดขึ้น มีใช้งานจริงจังกันแล้วในยุคนี้
เรื่องอย่าง เทคโนโลยีในการสื่อสาร 5G, เทคโนโลยี Cloud, Big Data, Robotics, Machine Learning, AI, AR/VR, 3D printing และอื่นๆ เป็นเรื่องใกล้ตัวแล้วตอนนี้
เพราะฉะนั้น ขวดของเราจะรองรับการเปลี่ยนแปลงนั้นได้หรือไม่
🌍🌍 ถ้าคุณค่าที่เรามี ไม่มีประโยชน์ซะแล้วในยุคนี้ละ ถ้าน้ำหอมไม่มีค่า เพราะยุคนี้ต้องการน้ำส้ม คุณจะปรับตัวได้มั้ย จะยอมเททิ้งน้ำหอมที่สะสมมาตลอดชีวิต เพื่อเติมน้ำส้มแทนได้มั้ย
🌍🌍 ถ้าคุณค่าที่มียังมีประโยชน์ แต่ไม่เพียงพอละ คุณจะยอมเททิ้งของเก่าบางส่วน เพื่อเติมของใหม่ หรือจะหาทางขยายขวดของคุณให้ใหญ่ขึ้นเพื่อเติมสิ่งใหม่ๆลงไปได้มั้ย
🌍🌍 ถ้าขวดของคุณเก่าเกินไป มีรูรั่วซะแล้ว แถมยังเล็กเกินไปอีกละ คุณจะยังมีแรงซ่อมแซม ปรับปรุง ขยายขวดของคุณเพื่อรองรับสิ่งใหม่ๆอยู่มั้ย
ในยุคนี้ คุณต้องเติมความรู้ใหม่ๆ เสมอๆ ต้องพร้อมเปลี่ยนแปลง หรือถึงขั้น disrupt ตัวเอง ถ้าขวดคุณเต็ม เติมอะไรไม่ได้ ก็ไปต่อลำบาก ถ้าคุณไม่กล้าปรับเปลี่ยนของในขวดที่คุณมีให้เหมาะสมกับยุค ก็ลำบาก ถ้าคุณขยายขวดของคุณไม่ได้ ก็ลำบาก
หลังจากอ่านเรื่องขวดน้ำเลยลองคิดต่อเล่นๆนะครับ ยังไงเราก็ต้องสู้กันต่อไป แต่ยังงัยก็อย่าลืมดูแลสุขภาพนะครับ ขวดของเราจะได้แข็งแรง 😁 สู้ๆครับ 🏃 🚴
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
