22 ก.พ. 2020 เวลา 18:51 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
“ต้นแมนชินีล” แอปเปิ้ลมรณะ ต้นไม้ที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก ห้ามจับ ห้ามกินผล ห้ามยืนใต้ต้นไม้ !
1
ลองจินตนาการว่า "คุณได้ไปเที่ยวชายหาดแห่งหนึ่งแล้วเผอิญเดินไปเจอกับต้นไม้ประหลาดที่มีผลสีเขียวกลิ่นหอมหวานคล้ายแอปเปิ้ล ด้วยความไม่รู้อิโหน่อิแหน่คุณเลยหยิบมันขึ้นมากัดชิมหนึ่งคำ แม้กลิ่นจะหอมหวานแต่หลังจากกัดเข้าไปมันกลับให้สัมผัสคล้ายกลิ่นพริกไทย แต่แล้วคุณก็รู้สึกว่าปากเริ่มไหม้ ลำคอเริ่มกลืนลำบากและร้อนผุผองตามมาเจ็บปวดสุดแสนทรมานที่ยากจะบรรยายถึงแปดชั่วโมง!!!!!"
แม้จะฟังดูเป็นบทพูดจากนิยาย แต่เชื่อมั้ยครับเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงกับนักรังสีวิทยาอย่าง Nicola Strickland ในปี ค.ศ. 1999 เมื่อเธอไปเที่ยวทะเลคาริบเบียนกับเพื่อนแล้วเผอิญไปหยิบกินผลไม้ประหลาดดังกล่าวเข้า โดยต้นไม้ที่ว่านี้คือ ต้นแมนชินีล (Manchineel Tree) ต้นไม้สุดอันตรายที่สุดในโลกชนิดหนึ่งก็ว่าได้ โดยคำว่าแมนชินีล โดยมีรากศัพท์มาจากภาษาสเปนคือ manzanilla ที่แปลว่า "แอปเปิลผลน้อย" ส่วนในปัจจุบันเรียกมันในภาษาสเปนว่า "manzanilla de la muerte"หรือ แอปเปิลผลน้อยแห่งมัจจุราช แค่ฟังชื่อก็ขนพองสยองเก้าแล้ว เรามาทำความรู้จักกันหน่อยว่าอะไรเป็นที่มาของชื่อสุดแสนอันตรายนี้
ถิ่นกระจายพันธุ์ของต้นแมนชินีล ครอบคลุมในเขตทะเลแคริบเบียนและอเมริกากลาง รวมถึงฟลอริดาและสหรัฐฯบางส่วน อ้างอิงจาก https://www.discoverlife.org/mp/20q?search=Hippomane+mancinella&flags=col1:&res=640
ทำไมต้นแมนชินีล (Manchineel Tree) ถึงได้มีพิษร้ายขนาดนี้ ?
แมนชินีลมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hippomane mancinella จัดเป็นไม้ที่อยู่ในวงศ์ยูโพเบีย (Euphorbiaceae) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความมีพิษอย่างร้ายแรง มันเป็นไม้เฉพาะถิ่นของอเมริกาที่เป็นที่รู้จักกันมานานของชาวพื้นเมืองเรื่องความเป็นพิษ ซึ่งไม่ใช่แค่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งแต่ทั้งต้นของไม้ชนิดนี้เป็นพิษหมด ทั้งดอก ผล ใบ ยางไม้ ราก ไม่เว้นแม้กระทั่งน้ำที่ผสมกับส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นก็เป็นพิษหมด โดยส่วนมากพิษของมันจะอยู่ในส่วนยางสีขาวน้ำนมที่ไหลออกมาจากส่วนต่างๆ ของต้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลดิบและเปลือกลำต้นจะมีมากเป็นพิเศษ โดยความเป็นพิษหลักมาจากสารพิษที่มีชื่อว่า "phorbol" ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม ester diterpene ที่ละลายน้ำได้ดีมาก และสารประกอบอินทรีย์หลายชนิดที่ไม่สามารถแยกชนิดได้อีกจำนวนมาก
1
Cr. https://owlcation.com/stem/The-Manchineel-Tree
ความที่มันละลายน้ำดีมากนี้เองทำให้เมื่อมีฝนตกแล้วไหลไปรวมกับยางไม้เข้าทำให้ฝนมีพิษด้วย ฉะนั้นห้ามเข้าไปยืนใต้ต้นแมนชีนิลเด็ดขาดเมื่อฝนตก แม้กระทั่งคุณเอารถเข้าไปจอดไว้ก็ไม่ปลอดภัยเพราะฝนที่ผสมกับยางไม้มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงขนาดทำให้สีรถหลุดลอกได้!!! ยิ่งไปกว่านั้นหากมันโดนผิวหนังคนโดยตรง จะทำให้ผู้เคราะห์ร้ายเกิดผิวหนังผุผองอย่างรุนแรง โดยเรียกอาการนี้ว่า "Manchineel keratoconjunctivitis" ที่อันตรายถึงตายได้หากรักษาไม่ทัน ในปัจจุบันบางเขตท่องเที่ยวถึงกับต้องติดป้ายห้ามเข้าไปใกล้ต้นไม้ชนิดนี้ ด้วยป้ายสีแดงขนาดใหญ่เพื่อบ่งบอกความอันตรายของมัน
อาการ Manchineel keratoconjunctivitis จากการสัมผัสยางต้นแมนชินีลหรือน้ำฝนที่ไหลผ่านต้นนี้ก็อันตรายร้ายแรงถึงชีวิตแล้ว อ้างอิงจาก British3Journal ofOphthalmology 1993; 77: 284-288
ในเมื่อต้นแมนชินีล (Manchineel Tree)มีพิษร้ายขนาดนี้ทำไมถึงไม่ตัดทิ้ง ?
แม้จะมีพิษร้ายเหลือคณาด้วยพิษที่รุนแรงขนาดนี้ แต่ชาวอินเดียนพื้นเมืองในแถบแคริบเบียนก็รู้จักใช้ประโยชน์จากมันอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะยางไม้ถูกนำมาทำเป็นสารเคลือบลูกธนูพิษสำหรับล่าสัตว์ รวมถึงล่าคนด้วย นอกจากนี้ใบของต้นเมื่อแช่ในบ่อน้ำดื่มจะทำให้น้ำเป็นพิษดื่มไม่ได้อีกต่อไป กรณีที่โด่งดังที่สุดคือความตายอย่างอนาถของนักสำรวจชื่อดังชาวสเปน Juan Ponce de León ที่ถูกธนูพิษของต้นแมนชินีลสังหารขนาดเดินทางสำรวจแถบเปอร์โตริโก
ธนูเคลือบยางพิษต้นแมนชินีลคือหนึ่งในอาวุธร้ายที่ชาวอินเดียนชอบใช้ อ้างอิงจาก https://www.express.co.uk/travel/articles/683155/world-s-most-dangerous-tree-kill-Manchineel-toxic-fruit-sap-deadly
นอกจากนี้แล้วช่างไม้พื้นเมืองแถบคาริบเบียนรู้จักใช้ไม้แมนชินีลนำมาทำเครื่องเรือนใช้้นับศตวรรษแล้ว โดยค่อยๆแปรรูปแล้วนำไม้ไปตากแดดให้ยางพิษแห้งหมดพิษไปก่อนจึงนำมาใช้งาน เหตุผลสำคัญที่ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกตัดมากนักนอกจากเรื่องพิษแล้วคือ ความสำคัญของมันต่อระบบนิเวศน์ชายหาด เพราะด้วยความที่มันเป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ (shrub) เพียงไม่กี่ชนิดที่เติบโตได้ดีบนชายหาดที่ขาดสารอาหาร มันจึงเป็นตัวต้านลมและป้องกัดหาดเซาะอย่างดี นอกจากนี้ผลของมันที่ว่ากันว่าเป็นพิษที่สุดนั้นกลับเป็นอาหารของสัตว์อีกหลายชนิดทั้งนกและสัตว์บก ที่รู้จักกันดีอย่างอิกัวน่าหลังดำ ( black-spined iguana : Ctenosaura similis) ก็ถึงกลับกินผลแมนชินีลบนต้นกันเลยทีเดียว นับว่ามันมีประโยชน์อย่างสูงที่ช่วยหล่อเลี้ยงระบบนิเวศน์ริมหาดแบบนี้
1
แม้ต้นแมนชีนิลจะขึ้นชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่อันตรายที่สุดในโลก ที่แม้กระทั่งห้ามเข้าใกล้และสัมผัสมันเด็ดขาด แต่นั้นก้เป็นกลไกการป้องกันตัวที่วิวัฒนาการมอบมาให้เพื่อประโยชน์บางอย่าง โดยเฉพาะกับสัตว์และระบบนิเวศน์ที่จำเป็นต้องพึ่งต้นแมนชินีล ซึ่งเปรียบเสมือนพี่ใหญ่ในโลกของชายหาด
2
ลืมบอกไปนะครับ Strickland ที่เผลอกินผลแมนชินีลเข้าไปในตอนต้นนั้น เธอรอดมาได้และตัดสินใจเล่าประสบการณ์ตรงลงในวารสารการแพทย์ชื่อดังอย่าง The British Medical Journal โดยกล่าวว่า " หลังจากกินผลแมนชินีลเข้าไปทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดสุดคำบรรยายร่วมกับอาการอาเจียนอย่างรุนแรงและท้องร่วง ทำให้ร่างกายขาดน้ำ เกือบแปดชั่วโมงจนอาการเริ่มทุเลาลง" แน่นอนว่าประสบการณ์อันมีค่านี้จะช่วยเตือนให้ผู้คนส่วนใหญ่ระมัดระวังตัวยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ใกล้แมนชินีล แอปเปิ้ลปีศาจที่ทั้งน่ากลัวและมีประโยชน์ในเวลาเดียวกัน
ติดตามผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้ที่
โฆษณา