24 ก.พ. 2020 เวลา 05:16 • ธุรกิจ
ทุกวันนี้ Barcode Scanner มีขายทั่วไปหลากหลายยี่ห้อ ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่นบาท คำถามที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักมีกันก็คือ..
ทำไมถึงมีหลากหลายราคา และแต่ละรุ่น แต่ละแบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร โดยวันนี้ SeniorSoft จะมาบอกว่าทำไม? ราคาของ Barcode Scanner นั้นถึงแตกต่างกัน ทั้งๆที่ก็ยิงบาร์โค้ดได้เหมือนๆกัน
👉 6 เหตุผลหลัก ที่ราคาแตกต่าง?
✅ คุณภาพ และความแม่นยำ สแกนได้แม้ขนาด Barcode ขนาดเล็ก จิ๋ว หรือแท่งบาร์โค๊ดไม่คมชัดก็สามารถอ่านบาร์โค๊ดได้ รวมไปถึงสามารถอ่านบาร์โค๊ดจากหน้าจอมือถือ หน้าจอคอมพิวเตอร์ได้
✅ ประเภทของหัวอ่านและความเร็วในการสแกน ความสามารถในการอ่าน Barcode แต่ละชนิด 1D 2D หรือ QR-Code
✅ รองรับการสแกนบาร์โค๊ดทั้ง TH/EN เมื่อแป้นคีย์บอร์ดอยู่ในโหมด TH (Thai Keyboard) กว่า 90% ส่วนใหญ่จะไม่สามารถอ่านบาร์โค๊ดได้เลย
✅ Drop Test ความทนทานในการตกจากที่สูง 1.5 เมตร
✅ ลักษณะการเชื่อมต่อ USB/Bluetooth/Wireless หรือแบบสัญญานวิทยุ
✅ ระยะเวลาการรับประกันของสินค้า
แน่นอนว่าของถูกและดีนั้น ไม่มีอยู่จริง เช่นเดียวกันกับ Barcode Scanner คุณภาพของสินค้า ก็จะตามราคา บางรุ่นต้องสแกนในระยะใกล้ 0-5 นิ้ว เท่านั้นและบาร์โค้ดต้องชัด ขนาดใหญ่ หากไม่อย่างนั้น จะไม่สามารถอ่าน Barcode นั้นๆได้
นอกทางนี้หาก หากบาร์โค้ดที่ต้องการสแกนนั้นอยู่บนหน้าจอโทรศัทพ์ หรือคอมพิวเตอร์ ก็ต้องเลือกรุ่นที่สามารถรองรับการทำงานได้ด้วยเช่นกัน
ควมเร็วในการอ่านนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยมีความเร็วตั้งแต่ 50-2,000 ครั้ง/วินาทีให้เลือกซื้อ เร็วกว่าย่อมดีกว่า ลูกค้าไม่ต้องรอชำระเงินนานพนักงานนั้นสามารถสแกนขายสินค้าได้ไวขึ้น
อีกทั้ง Barcode นั้นมีอยู่หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น 1D, 2D , QR Code โดยในแต่ละประเภทก็มีความสามารถที่จะอ่านชนิดของแท่งบาร์โค้ดได้แตกต่างกันไป EAN-13, EAN-8 หรือ UPC-A เป็นต้น
ไม่มีใครอยากต้องมากดปุ่มเปลี่ยนภาษาเพื่อให้แป้นคีย์บอร์ดเป็น EN (English Keyboard) ทุกครั้ง ก่อนที่จะทำการแสกน Barcode บนตัวสินค้าแน่ๆ
แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้น หากเลือกที่จะสั่งซื้อ Barcode Scanner จากแหล่งที่ไม่มีความชำนาญ หรือไม่เข้าใจธรรมชาติของการขายสินค้าในไทยและยิ่งหากเป็นสินค้าที่สั่งซื้อจากผู้ผลิตต่างชาติโดยตรง 99.99% มักจะพบปัญหานี้ คือ ไม่รองรับแป้นคีย์บอร์ดแบบภาษาไทย TH
Scanner Barcode ควรผ่านมาตรฐานการทดสอบ Drop Test ขั้นต่ำที่ 1.5 เมตร ขึ้นไป ซึ่งระดับความสูงนี้ส่วนใหญ่จะสูงพอดีกับจุด Cashier
Scanner Barcode จะมีหลอดไฟแหล่งกำเนิดแสง Laser เพื่อใช้ในการอ่านแท่งบาร์โค้ดบนตัวสินค้า (Reader Scan Engine)
อย่าลืมว่าการใช้จริง ย่อมมีการตก กระแทก หรือทำหล่นเกิดขึ้น ดังนั้นเราจึงควรเลือก Scanner Barcode ที่ผ่านการทดสอบ Drop Test มาใช้งาน
หัวอ่านบาร์โค๊ดก็ไม่แตกต่างกับหลอดไฟ หากพัง ขาด เสียหายก็ต้องซื้อตัวใหม่มาทดแทน
Scanner Barcode แต่ละรุ่นจะมีลักษณะการเชื่อมต่อที่ต่างกัน รุ่นที่ใช้สาย USB ส่วนใหญ่จะมีความยาวของสายอยู่ 1-1.5 เมตร
รุ่นที่ใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ก็จะมีให้เลือกทั้งแบบใช้สัญญาณ Bluetooth, Wireless หรือแบบคลื่นวิทยุ
แน่นอนว่าระยะการใช้งานของ Scanner Barcode แบบไร้สายแต่ละตัวนั้น จะมีระยะการใช้งานที่ไม่เท่ากัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 20 ไปจนถึง 200 เมตร ขึ้นอยู่กับความแรงของคลื่น และประเภทของตัวรับ-ส่งสัญญาณ
ดังนั้นต้องเลือก Scanner Barcode ให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยต้องคำนึงสถานที่ และตัวสินค้า เช่น สินค้าเรามีขนาดใหญ่หรือไม่ หากไม่สามารถหยิบมาสแกนที่ Cashier ได้ ต้องเลือกใช้ Scanner Barcode แบบไร้สาย เพื่อเดินไปยิงอ่านบาร์โค้ดแทน ดังนั้นในการเลือกซื้อก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งานและลักษณะของธุรกิจแต่และประเภท
Scanner Barcode ที่มีจำหน่ายมีตั้งแต่ไม่รับประกันสินค้า และมีการรับประกันหลากหลายให้เลือก ตามคุณภาพของสินค้านั้น ๆ เช่น ประกัน 3 เดือน 6เดือน 1 ปี ไปถึงจน 2 ปี หรือหากสินค้าอยู่ในประกัน สามารถเปลี่ยนตัวใหม่ได้ทันที ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อและเงื่อนไขการรับประกันของแต่ละร้านค้าเอง สินค้าดีร้านค้าก็กล้าที่จะรับประกันมากกว่า
โฆษณา