คลีโอพัตรานางพญารักบันลือโลกตอนที่ 6
ต่อจากตอนที่5
ความทะเยอทะยานของหญิง ไปสู่หายนะของบุรุษ
กล่าวกันว่า หากพระนางคลีโอพัตรา มีความพึงใจกับการเป็นนางพญาแห่งอียิปต์ก็เพียงพอแล้ว ประวัติศาสตร์ยุคนั้นอาจพลิกหน้า แต่เพราะความทะเยอทะยานเกินไปของพระนาง ทำให้กลับกลายเป็นชะตากรรมของ จูเลียส ซีซาร์
ประเด็นแรกเริ่มจาก ครีโอพัตราต้องการให้ จูเลียส ซีซาร์ ประกาศแต่งตั้งให้ ปโตเลมี ซีซาร์ หรือ ซีซาเรียน เป็นรัชทายาท โดยสิทธิ์การเป็นลูกชายสืบสายเลือดคนเดียวของซีซาร์ แต่ซีซาร์ปฏิเสธ เขาเลือกให้
ออกัสตุส ซีซาร์ อ็อกตาเวียน แม่ทัพหนุ่มผู้เป็นหลานตา เป็นรัชทายาท
จูเลียส ซีซาร์ ยึดมั่นในสายเลือดแห่งโรม ยิ่งกว่าสายเลือดของตัวเอง ถึงซีซาเรียนจะเป็นลูกชายแท้ๆ แต่ก็เป็นเลือดลูกครึ่งอยู่ดี มองไปในอนาคต โรมจะมีเลือดลูกครึ่งครองบัลลังก์ได้อย่างไร
การที่ซีซาร์ใช้เวลาอยู่กับคลีโอพัตราเป็นเวลานานโดยไม่ยอมเดินทางกลับโรม ทำให้บรรดาฝ่ายต่อต้านเขาในสภาซีเนทพากันกล่าวโจมตีเขาว่าหลงเสน่ห์ผู้หญิง จนกระทั่งลืมหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเอง ในขณะนั้นก็มีข่าวเข้ามาถึงซีซาร์ว่าเกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นในเอเชียไมเน่อร์ โดยฝ่ายต่อต้านโรมันได้ก่อการกบฏขึ้นและได้จับแม่ทัพโรมันที่ประจำการอยู่ที่นั่นประหารชีวิต
ซีซาร์จึงยกกองทัพออกไปปราบปราม และเมื่อปราบปรามพวกกบฏราบคาบแล้วจึงเดินทางกลับกรุงโรม เมื่อกลับถึงกรุงโรมแล้วซีซาร์ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและสภาซีเนทท่วมท้นแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งผู้เผด็จการแห่งโรม ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของอาณาจักรโรมัน และเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจดำเนินการบริหารงานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เนื่องจากประชาชนชาวโรมันต้องการตอบแทนความดีที่เขาทำให้อาณาจักรโรมัน โดยเป็นผู้พิชิตดินแดนต่างๆและเป็นผู้ปกครองโลกแห่งดินแดนรอบชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียนทั้งหมด
จูเลียตซีซาร์รูปจากหนังสือประวัติศาสตร์โรมัน
ประชาชนจำนวนมากพากันมาต้อนรับซีซาร์ในฐานะวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขา และหลังจากนั้นสภาซีเนทโดยความสนับสนุนของประชาชนก็ได้แต่งตั้งให้ซีซาร์ดำรงตำแหน่งผู้เผด็จการแห่งโรม ซึ่งเป็นตำแหน่งบริหารสูงสุดของอาณาจักรโรมัน
ประมาณหนึ่งปีกว่า (ประมาณ 46ปี ก่อนคริสตกาล) หลังจากนั้น ซีซาร์ได้เชิญคลีโอพัตราเดินทางไปเยือนกรุงโรมอย่างเป็นทางการพร้อมกับซีซาเรี่ยนบุตรชาย
คลีโอพัตราจัดเต็มขบวนกับความเป็นนางพญาแห่งอียิปต์ หากแรงทะเยอทะยานกว่านั้นคือ การจงใจเพื่อประกาศตัวว่าพระนางคือจักรพรรดิณีแห่งโรมในฐานะเมียของ จูเลียส ซีซาร์ และยังเอาลูกชายคือซีซาเรียนไปด้วย เพื่อให้ชาวโรมเห็นว่า นี่คือลูกชายของ จูเลียส ซีซาร์ ที่สมควรเป็นรัชทายาทแห่งโรม
ขบวนเต็มพระนางคลีโอพัตรา
ชาวโรมันพากันแตกตื่นมารอดูราชินีสาวที่ร่ำลือกันว่างดงามยิ่งนัก คลีโอพัตรายกขบวนมาอย่างมโหฬารโดยมีซีซาเรี่ยนนั่งอยู่ข้างกาย กล่าวกันว่าแม้ซีซาเรี่ยนจะมีผิวออกคล้ำแบบชาวอิยิปต์ทั่วไป แต่ใบหน้านั้นแทบจะถอดพิมพ์ออกมาจากซีซาร์ทีเดียว
คลีโอพัตราและซีซาเรี่ยนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนชาวโรมันจำนวนมาก ขณะที่นางเดินทางเข้าประตูกรุงโรมมาพร้อมกับขบวนแห่แหนที่ยิ่งใหญ่อลังการณ์
ทว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่พระนางคิด กระทั่งถึงโรม จูเลียส ซีซาร์ ยังไม่พานางเข้าบ้านคฤหาสน์ในโรมของเขา แต่ให้ไปอยู่ที่บ้านชานกรุงโรม เพราะในสังคมโรม จูเลียส ซีซาร์ มีเมียแล้วคือ คัลพูร์เนีย พิโซนิส ที่บิดาของนางก็เป็นนักการเมืองที่มีอำนาจในโรมด้วย
ซีซาร์จัดบ้านพักที่ใหญ่โตหรูหราให้คลีโอพัตราพักอาศัย และใช้เวลาอยู่กับนางที่บ้านหลังนี้เป็นส่วนใหญ่ เขาใช้ชีวิตที่รื่นรมย์กับนางท่ามกลางบรรยากาศอันอบอวลด้วยกลิ่นไอแบบตะวันออก
คลีโอพัตราอ้อนซีซาร์อย่างไร เขาก็ยอมตามใจ แม้แต่การบัญชาให้หล่อรูปทองคำพระนางคลีโอพัตราเท่าตัวจริง ไปเปลี่ยนแทนรูปปั้นเทพธิดาไอซิสเก่าแก่ดั้งเดิมในวิหารวีนัส เจเนทริกซ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำตระกูลซีซาร์ กระแสการต่อต้านคลีโอพัตราในทุกสังคมชนชั้นมากขึ้นทุกที
คลีโอพัตราก็ยังไม่นำพากับการปฏิเสธของชาวโรม ปฏิบัติตนเป็นนางพญาแห่งอียิปต์ ด้วยขบวนแห่แสดงความมั่งคั่ง นางโปรยทานด้วยเหรียญทองคำไปตามทาง ไม่ต่างกับที่กระทำในอียิปต์ที่มีผู้คนแซ่ซ้องสรรเสริญ แต่ที่โรม ผู้คนไม่ปฏิเสธเงินทอง แต่ตะโกนสาปแช่ง นังโสเภณีต่างแดนผู้หลงตัวเองของซีซาร์
จูเลียส ซีซาร์ ย่อมเป็นเป้ากระทบด้วย การยอมให้นางพญาอียิปต์ทำตามอำเภอใจในโรม และไม่ปฏิเสธว่า ซีซาเรียนนั้นเป็นลูกของตัวเอง ทำให้ชาวโรมรู้สึกว่า จอมทัพขุนทหารยอดนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของโรมได้เปลี่ยนไป ไม่ใช่วีรบุรษของแผ่นดินอีกต่อไปแล้ว
อย่างไรก็ตามกลุ่มฝ่ายต่อต้านซีซาร์ในสภาซีเนทกลับพากันวิตกกังวลว่า คลีโอพัตราจะยุยงให้ผู้เผด็จการแห่งโรมเกิดความมักใหญ่ใฝ่สูง รวบอำนาจมาจากรัฐสภาตั้งตัวขึ้นเป็นกษัตริย์แบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และพากันปล่อยข่าวดังกล่าวให้กระจายออกไปสู่ประชาชน
ข่าวลือสำคัญที่ว่า จูเลียส ซีซาร์ จะใช้อารยธรรมอียิปต์กับโรม โดยสถาปนาตัวเองเป็นฟาโรห์แห่งโรม และอภิเษกสมรสกับคลีโอพัตรา ยกให้เป็นราชินีแห่งโรม ซีซาเรียนคือเจ้าชายรัชทายาท และวางแผนจะย้ายเมืองหลวงแห่งอาณาจักรโรมันไปที่
อเล็กซานเดรีย อียิปต์
บางทีข่าวลือเช่นนี้ จะเป็นที่มาของการสังหาร จูเลียส ซีซาร์ ในวันที่ 15 มีนาคม ปี 44 ก่อนคริสตกาล
จูเลียส ซีซาร์ ตายเพราะความกลัวของโรม
กลัวเขาจะเปลี่ยนไปเพราะความหน้ามืดหลงใหลคลีโอพัตรา ชนชั้นสูงสภาซีเนตกลัวซีซาร์จะยึดอำนาจเป็นจักรพรรดิเผด็จการ ชนชั้นชาวบ้านลืมวีรบุรุษยอดนักรบของพวกเขา กลัวซีซาร์จะเห็นพวกอียิปต์ดีกว่าโรมัน
กลุ่มสมาชิกสภาซีเนทที่ไม่ต้องการให้ซีซาร์ก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิ์ของโรมัน วางแผนสังหารซีซาร์ในที่ประชุมสภาด้วยมีดสั้นที่แอบซ่อนติดตัวเข้าไปเขาถูกสมาชิกสภาโรมรุมแทง ไม่เว้นแม้แต่ มาร์คุส จูลินุส บรูตัส ลูกเลี้ยงที่ซีซาร์ไว้วางใจที่สุด ก็ยังเสียบแทงเขาด้วยมีด และช่วยกันรุมแทงซีซาร์จนเสียชีวิต
จูเลียสซีซาร์ถูกลุมแทงกลางสภา
จูเลียส ซีซาร์ ตายคาบันไดสภาโรมนั่นเอง ขณะนั้นคลีโอพัตราก็ยังอยู่ในโรม
มรณกรรมของซีซาร์จึงเป็นการดับฝันของคลีโอพัตรา ที่จะเห็นโรมและอิยิปต์รวมตัวกันภายใต้กษัตริย์องค์เดียวโดยมีซีซาเรี่ยนเป็นรัชทายาท เนื่องจากพินัยกรรมของซีซาร์นั้นได้ระบุให้ออคตาเวี่ยนหลานชายที่เขารับมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมเป็นทายาทตามกฎหมาย และจะได้สืบทอดตำแหน่งผู้เผด็จการแห่งโรมต่อจากเขา จึงเหลือเพียงความจริงและภาระหน้าที่ที่เหลืออยู่สำหรับนางคือ จะต้องรักษาเอกราชของอิยิปต์ให้ได้อยู่ประการเดียว นางจึงพาซีซาเรี่ยน
กลับอเล็กซานเดรียอย่างโศกเศร้าและขมขื่น
ถ้าซีซาร์ไม่นำคลีโอพัตรามาโรม เขาคงไม่ตาย ที่แท้แล้ว ผู้ที่หยิบยื่นความตายให้กับซีซาร์ ก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นคลีโอพัตราหญิงยอดรักของเขา นั่นเอง
( อ่านต่อตอนต่อไป.. )
ฝากกดไลค์กดแชร์กดติดตามเพจเจเจ้มีสาระด้วยนะคะขอบคุณค่ะ
- 12
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
