COVID - 19 กำลังบอกอะไรเรา ?
มนุษย์กำลังเผชิญหน้ากับ "โรคระบาด" ครั้งใหญ่
มันคือผลจากการกระทำของมนุษย์ที่ได้ล้ำเส้นของธรรมชาติ และตอนนี้ธรรมชาติก็กำลังลงโทษเราเสียแล้ว
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าไวรัส Covid นั้นส่งผลกระทบเสียหายเป็นวงกว้างต่อทั้งชีวิตและเศรษฐกิจ โดยที่มาของโรคระบาดนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ลงความเห็นเป็นเสียงส่วนใหญ่ว่ามาน่าจะมาจาก"สัตว์ป่า"
ในธรรมชาติสัตว์ป่าถือว่าเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะ ค้างคาว หนู หรือ หมูป่า แต่สัตว์เหล่านี้ได้มีการปรับตัวและวิวัฒนาการมาแสนนานเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อโรค ทำให้เชื้อโรคร้ายสามารถอยู่ในตัวของสัตว์ป่าได้ โดยสัตว์ป่าไม่แสดงอาการเจ็บป่วยใด
แต่มนุษย์เรานั้น นับแต่อดีตกาล มนุษย์ได้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนอยู่รอด และประดิษฐ์สิ่งตอบสนองความต้องการของตนเอง เช่น การสร้างเครื่องทุ่นแรง ด้วยความฉลาดหลักแหลมจึงทำให้มนุษย์อยู่สูงสุดในห่วงโซ่อาหาร
.
มนุษย์อยู่รวมตัวกันเป็นสังคมเพื่อชดเชยสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถทำได้
ภาระหน้าที่ต่าง ๆ จึงถูกแบ่งขึ้นภายในสังคมมนุษย์
นี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของระบบนิเวศอย่างรวดเร็ว และด้วยเหตุผลนี้ทำให้การวิวัฒนาการของมนุษย์ไม่ได้มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างร่างกายจากเมื่อก่อน มนุษย์ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพัฒนาสิ่งภายนอก ให้เข้ากับตนเอง
ต่างจากสัตว์ที่มีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
มนุษย์ใช้เวลาเพียงไม่นานจากจุดเริ่มต้น
ก็ได้ถลุงทรัพยากรบนโลกใบนี้ไปแล้วกว่า 80% ทรัพยากรถูกทำลายอย่างรวดเร็วจากความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์
โลกจึงตอบสนองต่อการทำลายโดยการสร้างมัจจุราชขึ้นมาเพื่อหยุดยั้งการทำลายที่มนุษย์กำลังดำเนินอยู่ มัจจุราชตนนี้มีนามว่า.....
.
"โคโรน่า หรือ Covid -19" ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์มาเพื่อทำลาย
การระบาดนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายปี 62 จากตลาดค้าสัตว์ป่า ในมณฑลอู๋ฮั่น ประเทศจีน ตลาดแห่งนี้มีการค้าสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น งูเห่า ลิ่น และ ค้างคาวที่ตกเป็นจำเลย
.
และวันที่ 3 มกราคม 2563 จีนได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าอาการปอดอักแสบ เกิดจากเชื้อโรคชนิดใหม่ ( COVID-19 ในปัจจุบัน ) ที่วิวัฒนาการอย่างรวดเร็วจนสามารถเเพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ หลังจากนั้นเพียงไม่นานการแพร่ระบาดก็ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศจีนได้มีการสั่งปิดประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
.
ต้นตอของสาเหตุนั้นอาจมาจากการบริโภคสัตว์ป่าทั้งนี้อาจเกิดจากการสัมผัส เลือดสัตว์ อวัยวะภายใน หรืออื่น ๆ
ความกลัวในการบริโภคสัตว์ได้ถูกฝังลงไปในจิตใต้สำนึกคนทีละเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก ประเทศจีนได้มีการสั่งปิดตลาดค้าสัตว์ป่า และออกกฎห้ามมิให้ประชาชนกินหรือค้าสัตว์ป่า โดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของจีน และหลายประเทศก็ยังได้รับบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ทั่วโลกต้องเจอกับ "วิกฤตเศรษฐกิจ" ที่เกิดขึ้นจากพิษของไวรัสโคโรน่า
เศรษฐกิจชะลออย่างเห็นได้ชัด หลายอาชีพได้รับผลกระทบไปตามๆ ทำให้ผู้คนใช้เงินลดลง เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน เพราะกลัวติดเชื้อ สถานประกอบการต่าง ๆ ต้องหยุดพักกิจการ หรือมีกิจการซบเซ้า แหล่งบันเทิงยิ่งแล้วใหญ่ ทำให้เมืองที่เกิดจากระบาดของโรคหนัก แทบจะกลายเป็น "เมืองร้าง" ส่งผลต่อเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวทั่วโลก
ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยตอนนี้ที่ราคาหุ้นดิ่งลงเรื่อย ๆ
ที่ SET หลุด 1400 ถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี ผู้ประกอบการร้านค้าในห้างต่างออกมาประท้วงให้ลดค่าเช่าพื้นที่ เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีนักท่องเที่ยว ขายของไม่ได้
เมืองอู่ฮั่นในวันที่โคโรน่าระบาดหนัก
แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีเรื่องราวดีๆ อยู่เสมอ และเป็นโอกาสอันดีสำหรับโลกของเราก็ว่าได้
.
สิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตนี้แต่อย่างใด
กลับฟื้นตัวซึ่งสวนทางกับเศรษฐกิจ ผู้คนเก็บตัวอยู่ในบ้าน ไม่มีการใช้รถใช้ถนน ทำให้การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง
การใช้ถ่านหินของโรงไฟฟ้าหลัก 6 แห่งในประเทศจีน (เส้นสีแดงของปี 2020)
ไวรัสโคโรน่าทำให้มหายักษ์ใหญ่อย่างจีนต้องทำการปิดประเทศ มีการศึกษาพบว่าการปิดประเทศของจีนสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 6% จากการเผาไหม้ถ่านหินและการเดินทางที่ลดลง ดังรูปด้านบน ปี 2020 ในช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน มีการเผาไหม้ถ่านหินต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
เมื่อผู้คนเก็บตัว ไม่ได้ออกไปทำงานตามปกติ ก็ไม่มีการเดินทาง
การใช้ยานพาหนะต่างๆ รวมถึงน้ำมันก็ลดลง กิจกรรมต่าง ๆ ถูกชะลอไว้ก่อน
โรงงานหยุดการผลิตทำให้ทรัพยากรไม่ถูกทำลายเพิ่ม และไม่ปล่อยของเสีย ขยะจากการบริโภคก็น้อยลงเช่นกัน
โลกได้มีโอกาสพักหายใจ เพื่อฟื้นฟูตัวเองจากการทำลายของมนุษย์
ชะลอการสูญเสีย พังทลาย โลกได้ปกป้องตัวเองด้วยการสร้าง มัจจุราชขึ้นมา
มนุษย์สร้างเศรษฐกิจขึ้นตอบสนองตนเอง แต่เศรษฐกิจที่เติบโตโดยไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การเติบโตแบบก้าวกระโดดภายในระยะเวลาเพียงไม่นานย่อมไม่ใช่ผลดี ผลจากความต้องการที่ไม่คำนึงถึงสิ่งใดกำลังย้อนกลับมาหาเราอย่างช้า ๆ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าวิกฤตของโรคระบาดนี้เกิดจาก "มนุษย์" ที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการระบาด
บทเรียนจาก COVID-19 คือหนึ่งในเหตุการณ์ที่ธรรมชาติบอกเรา หากเมื่อเหตุการณ์นี้สงบลงแล้วมนุษย์ยังบริโภคสัตว์ป่าและใช้ทรัพยากรอย่างต่อเนื่องไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในอนาคตโลกย่อมสร้างมัจจุราชตนใหม่ขึ้นมาเพื่อหยุดยั้ง และมัจจุราชตัวต่อไปย่อมมีพลังที่รุนแรงกว่าตนเก่าแน่นอน…
ข้อคิดจาก: คนเข้าป่า
"ธรรมชาติไม่เคยก้าวกระโดด หากก้าวไปอย่างรวดเร็วสิ่งนั้นย่อมพบจุดจบอย่างรวดเร็วเช่นกัน"
เรียบเรียงโดย : เรื่องเล่าคนเข้าป่า
.
- 13
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
