28 ก.พ. 2020 เวลา 07:50 • ธุรกิจ
Startup ไทยจะก้าวหน้าต้องมีรัฐบาลสนับสนุน
วันนี้ขออนุญาตใช้รูปเก่าขอลงทุนแมนที่เคยโพสต์ไว้เมื่อปีที่แล้ว เพราะว่าตรงกับหัวข้อที่อยากจะแชร์ ขออนุญาตลงทุนแมนไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ภาพจากเพจลงทุนแมน
Startupไม่ใช่แค่อยากทำแล้วจะทำได้ หรืออยากจะทำให้ได้ดีแล้วทำได้เลย Startupจำเป็นต้องมีหน่วยงานSupportด้วย นอกจากFundingจากบรรดาAngels หรือ investor แล้ว การสนับสนุนจากรัฐบาลมีส่วนสำคัญมาก มากถึงมากที่สุด
ในวันนี้โบว์อยากจะนำความรู้และประสบการณ์ที่เคยรทำเมื่อครั้งทำงานบริษัทStartupที่ประเทศจีน ทั้งStartupเล็ก และStartupระดับUnicorn นั่นคือBytedance Inc. หรือบริษัทแม่ของTikTokนั่นเอง วันนี้โบว์อยากแชร์ให้ทุกคนได้ฟัง โดยจะขอแชร์สัก3ข้อจาก2เมืองคือปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ (เคยทำงานอยู่แค่2เมืองนี้ ใครอยู่เมืองอื่นมาแชร์ความรู้กันได้ค่ะ) หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ
1.ปักกิ่ง : นอกจากเงินกองทุนที่รัฐsupport ซึ่งเป็นจำนวนมหาศาลมากกว่า一个亿หรือร้อยล้านหยวนแน่นอนแล้วนั้น รัฐบาลจีนรู้ว่าstartupในจีนส่วนใหญ่ถ้าทำตลาดในประเทศติดแล้วก็มักจะexpandไปตลาดGlobal
ทีนี้การทำตลาดGlobal จำเป็นต้องใช้Google, FB, YouTube ในการทำตลาด แต่เจ้ากรรมในเมื่อในประเทศblock accessในการเข้าเว็บไซต์เหล่านี้ รัฐบาลจึงอนุญาตให้บริษัทที่จะทำตลาดต่างประเทศ (รวมstartupด้วย) สามารถไฟล์เอกสารส่งไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐฯ เพื่อยื่นเรื่องขอเปิดaccess ได้
เพียงเท่านี้เราก็สามารถเข้าGoogle, FB, YouTubeและทุกเว็บไซต์ที่รัฐฯสั่งห้ามได้โดยไม่ต้องผ่านVPN
แต่แน่นอนขั้นตอนมันไม่ง่ายขนาดนั้นและรายละเอียดมันก็เยอะ เพราะฉะนั้นก็จะมีแต่บริษัทใหญ่ๆ Startupที่กำไรเยอะๆเท่านั้นแหละที่จะทำได้ ส่วนstartupที่เพิ่งเริ่มจากศูนย์ก็อาจเริ่มต้นจากวิธีซื้อVPNไปใช้ก่อน หรือเช่าDomainจากตปท ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้ของฮ่องกงและสิงคโปร์เป็นหลัก
2.ปักกิ่ง : จากที่เคยไปเข้าร่วมประชุมกับรัฐบาลปักกิ่งเมื่อปี2018 เค้าเคยมีเกริ่นๆมาว่าต้องการให้ปักกิ่งเป็นเหมือนSilicon Valley ถึงแม้หลายคนจะคิดว่าSilicon Valley จีนคือเสินเจิ้นก็ตาม555
รัฐบาลมองเห็นแล้วว่าถ้าต้องการสร้างภาพลักษณ์จีนใหม่ต้องส่งออกบริษัทจีนเยอะๆ พี่แกเลยร่างนโยบายและเงื่อนไขในการขอวีซ่าทำงานให้กับคนต่างชาติใหม่ อาทิเช่น ถ้าเรียนจบมหาลัยที่อยู่ในกลุ่ม985 และ 211 และมีประสบการณ์ทำงานที่ตรงสายอย่างต่ำ1ปีถือว่าคุณสมบัติครบ (สมัยก่อนอย่างต่ำ 2ปี) ซึ่งเงื่อนไขเดิมมันแสนยาก แสนวุ่นวาย (โบว์อยู่มาทั้งสองยุค ตั้งแต่ยุคเงื่อนไขเดิม ใครอยู่ในยุคwork permit เป็นรุ่นสมุดเล็กๆอยู่จะรู้ดี -*-
นอกจากนี้เค้าก็เพิ่มหมวดสำหรับบริษัทเทคฯโดยเฉพาะ กล่าวคือ ถ้าบริษัทจดทะเบียนอยู่ในเขต中关村 (Zhongguancun) จะสามารถขอวีซ่า创业者หรือวีซ่าentrepreneursให้กับคนต่างชาติที่(บริษัทคิดว่า)มีความสามารถแต่ขาดคุณสมบัติบางประการในการขอวีซ่าทำงาน เช่น อายุ, การศึกษา, ประสบการณ์ทำงานไม่ตรงสาย, ตำแหน่งงาน เป็นต้น
อย่างไรก็ดีวีซ่านี้เนื่องจากไม่ใช่วีซ่าทำงานเพราะฉะนั้นก็จะไม่ได้รับBenefitต่างๆที่รัฐบาลจีนมอบให้ (เช่นค่าบ้าน ค่าตั๋วเครื่องบินนำไปลดหย่อนภาษีได้ เป็นต้น)
3.เซี่ยงไฮ้ : มีนโยบายคล้ายปักกิ่ง บริษัทstartupที่จดทะเบียนในเขต张江高科技园区 (Zhangjiang High Technology Park ) บริษัทจะได้รับส่วนลดในการเสียภาษี, ส่วนลดค่าเช่าอาคารสำนักงาน (บางที่ให้เช่าฟรี), มีเงินทุนสำรองจากรัฐ และมีที่พักให้กับพนักงานระดับManagerขึ้นไปในราคาที่ถูกมาก
ตอนโบว์ทำงานที่เซี่ยงไฮ้ก็ทำในZhangjiang Tech เช่นกันและได้ถูกจับเข้าร่วมโครงการ海外人才 หรือ Overseas Talents ซึ่งจะได้สวัสดิการบ้านพักฟรี อยู่ติดออฟฟิศเลย แต่ต้องไปลงทะเบียนต่อคิวซึ่งต้องรอข้ามปีเลยขอบาย -*-
และที่กล่าวไปด้านบน ทุกคนก็คงจะเริ่มเห็นภาพเดียวกันแล้วว่าเมื่อรัฐบาลสนับสนุนขนาดนี้ Startupเล็กๆก็จะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งที่กล่าวไปเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสนับสนุนStartupของรัฐบาลจีน
วิสัยทัศน์ของรัฐบาลสำคัญมากและส่งผลต่อการเติบโตแบบก้าวกระโดดของstartup ซึ่งโบว์ก็เชื่อว่าstartupไทยเก่งๆเยอะมาก ไอเดียดี ถ้ามีfinancial support ที่ดี มีรัฐบาลช่วยผลักดันดีๆก็ไปไกลได้และไม่ใช่ไกลแค่ระดับregionalนะคะแต่อาจไกลถึงถึงระดับGlobal
การสนับสนุนที่เป็นระบบจากรัฐบาลมันสำคัญมากจริงๆ ค่ะแต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ก็ขอให้ภาวนากันต่อไปนะคะพี่น้องชาวไทย มันต้องมีวันนั้นที่เป็นของเรา🤘🏻
เป็นกำลังใจให้ Startup สัญชาติไทยทุกคนค่ะ
โฆษณา