คนรวยชอบซื้อของ "แบรนด์เนม"
เพราะนั้นอาจจะเป็น "การลงทุน" ในแบบนึง!
.
- การลงทุนที่ดี ต้องสามารถใช้คุณค่า และเพิ่มมูลค่าได้ด้วยตัวมันเองด้วย เช่น ซื้อรถกระบะไว้ใช้งาน ส่งของทุกวันได้กำไรกลับมาทุกวัน แบบนี้เรียกว่าเป็นทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่า
.
- แต่นั้นคือกรณีคนทั่วไป สำหรับคนรวยนั้น ด้วย mindset ที่ถูกปรับให้มองทุกอย่างด้วยมูลค่า และคุณค่า เวลามองอะไรจึงจะเห็นได้ทะลุมากกว่าคนทั่วไป มองลึกถึงหลายเลเวล
.
- เช่น เวลาซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมในขนาดที่คนทั่วไปซื้อของแบรนด์เนมมาเพื่อให้ตัวเองดูดี
.
- คนรวย จะเลือกรุ่นที่มีประโยชน์หลายเลเวล ขั้นแรกคือใส่ของทั่วไป ขั้นที่สองคือเสริมสร้างภาพลักษณ์ ที่คนส่วนใหญ่ต้องการ เป็นรุ่นยอดนิยมหรือหายาก เพราะในอนาคตมันจะสามารถขายได้ราคาแบบปล่อยได้ง่าย ถ้าเบื่อที่จะใช้ หรือ มันจะแพงกว่าในราคาที่ซื้อ เพราะมันจะหายากขึ้นเรื่อยๆ เช่น
.
- Chanel’s Diamond Forever handbag ราคา 8.4 ล้านบาท รุ่นพิเศษที่ทำมาจากหนังจระเข้ ประดับเพชรจำนวน 334 เม็ด และทองคำขาวอีก 18K ซึ่งปัจจุบันทำมาแค่ 13 ใบเท่านั้น และในตอนนี้มูลค่าของมันก็เกินนั้นไปแล้ว
.
- วิธีนี้เป็นวิธีคิดที่สอนให้มองเห็นถึง "มูลค่า" และ "คุณค่า" ในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยเช่นกระเป๋า หรือรองเท้า
.
- หากมองเห็นประโยชน์ของมันจริงๆแบบหลายเลเวลแล้ว จะเห็นมูลค่าที่แท้จริง กระเป๋าแบนด์เนม ไม่ได้แพงเพราะวัสดุดีอย่างเดียว แต่สิ่งที่แพง เพราะมันให้เครดิต
.
- คนที่ใช้ของแบรนด์เนม ย่อมเป็นคนที่มีเครดิตเวลาคนมองในภาพแรกที่เจอหน้ากัน
.
- ดังนั้นเมื่อเห็นใครซื้อกระเป๋าใบละแสน อย่าเพิ่งวิจารณ์ บางทีเค้าอาจจะกำลัง "ลงทุนสินทรัพย์" ทางภาพลักษณ์อยู่ก็ได้
.
.
#การลงทุน
#ไปให้ถึง100ล้าน