28 ก.พ. 2020 เวลา 13:30 • สุขภาพ
6 อันดับ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด
วิตามินซี หรือ กรดแอสคอร์บิก เป็นวิตามินที่พบในอาหารและอาหารเสริมต่าง ๆ เป็นสารอาหารจำเป็นที่ใช้ซ่อมแซมเนื้อเยื่อและผลิตสารสื่อประสาทบางอย่างโดยอาศัยเอนไซม์ จำเป็นในการทำงานของเอนไซม์หลายอย่าง
และสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วย เป็นสารอาหารจำเป็นสำหรับมนุษย์และสัตว์อื่นบางชนิด เป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้
บทความนี้จะเป็นการจัด 6 อับดับ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย..
อันดับที่ 1 คามู คามู (Camu-camu)
ผลไม้ชื่อแปลกหน้าตาคล้ายเชอร์รีนี้มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ คามูคามู เป็นญาติใกล้ชิดกับองุ่นบราซิล และรัมเบอร์รีหรือกวาวาเบอร์รี่ ออกผลขนาดเล็กคล้ายผลเชอร์รี มีสีแดงอมม่วง รสเปรี้ยว และมีปริมาณวิตามินซีสูงมาก กล่าวคือ ประมาณร้อยละ 2–3 ของน้ำหนักผลสด ซึ่งสูงกว่าส้มถึง 60 เท่า
คามูสด มีวิตามินซีสูงถึง 2,400 – 3,000 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม
อันดับที่ 2 มะขามป้อม (Indian gooseberry)
มะขามป้อมเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกับมะยม มีผลกลมเกลี้ยง เนื้อหนาสีเขียว ที่ผิวมีรอยแยกตามยาว แบ่งเป็น 6 ซีก ผลแก่สีเขียวอมเหลือง ผิวใส ชุ่มน้ำ มีรสเปรี้ยวและฝาด จัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก เพราะมะขามป้อมลูกเล็ก ๆ เพียงลูกเดียว ให้วิตามินซีสูงกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ถึง 12 เท่า และมากกว่าน้ำส้มคั้นถึง 20 เท่า
มะขามป้อมมีวิตามินซีสูงถึง 276 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม
อันดับที่ 3 ฝรั่ง (Guava)
ฝรั่งเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ชมพู่ เหมาะสำหรับการนำมาทานสด เพราะมีรสชาติหวานกรอบ ฝรั่งเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน ลดน้ำหนัก หรือผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากฝรั่งอุดมไปด้วยกากใยอาหาร เมื่อรับประทานแล้วจะทำให้อิ่มนาน
2
ฝรั่งมีวิตามินซีสูงถึง 160 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม
อันดับที่ 4 กีวี่ (Kiwifruit)
กีวี่เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ผลรีรูปไข่ มีขนเล็กๆปกคลุมทั่วผล เนื้อสีเขียว บางพันธุ์เนื้อสีเหลือง ชุ่มน้ำ รสเปรี้ยวอมหวาน เป็นผลไม้ที่เก็บไว้ได้นาน แต่มีความไวต่อเอทิลีน ถ้าเก็บกีวีดิบไว้ใกล้กับผลไม้ที่ปล่อย
เอทิลีน เช่น กล้วย แอปเปิล จะสุกเร็วมาก ถ้าเก็บอย่างเหมาะสม จะเก็บได้นานถึงสองสัปดาห์
กีวี่มีวิตามินซีสูงถึง 105 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม
อันดับที่ 5 ลิ้นจี่ (Lychee)
ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่มีลักษณะเปลือกสีแดง รสหวานอมเปรี้ยว ซึ่งจัดอยู่ในวงศ์เดียวกันกับลำไยและเงาะ มีต้นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้ แม้ว่าลิ้นจี่จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็ไม่ควรรับประทานเยอะ เพราะลิ้นจี่มีฤทธิ์ร้อน หากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการร้อนใน สำหรับผู้เป็นเบาหวานต้องระวัง เพราะในลิ้นจี่มีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง
ลิ้นจี่มีวิตามินซีสูงถึง 71.5 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม
อันดับที่ 6 มะละกอ (papaya)
มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลาง ถูกนำเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผลดิบมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วเนื้อในจะมีสีเหลืองถึงส้ม รสหวาน นิยมนำมารับประทานทั้งสดและนำไปปรุงอาหาร
มะละกอมีวิตามินซีสูงถึง 71.5 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม
ในทางศาสตร์ชะลอวัยคนเราควรทานวิตามินซีวันละ 1000 มิลลิกรัมต่อวัน ที่จะช่วยในเรื่องภูมิต้านทานร่างกายและการบำรุงผิวพรรณ แต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคหวัดหรือภูมิแพ้บ่อย ควรทานวิตามินซี 2000 มิลลิกรัมหรือมาก
กว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งหากอยากรู้แน่ชัดว่าร่างกายเราต้องการวิตามินเท่าไหร่ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
โฆษณา