28 ก.พ. 2020 เวลา 14:36 • ข่าว
P-word for COVID-19
แรกสุดเราเริ่มต้นด้วย O-word Outbreak หรือการระบาด เราพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ หรือเราพบความเชื่อมโยงของผู้ป่วยตั้งแต่สองคนขึ้นไปผ่านมิติของเวลา การสัมผัส สถานที่
เช่น ตลาดค้าอาหารทะเลอู่ฮั่นจุดเริ่มต้นที่สัมพันธ์กับกลุ่มผู้ป่วยทางเดินหายใจกลุ่มหนึ่ง
ถัดมาเราใช้คำว่า Epidemic การระบาดเริ่มเกิดขึ้นไม่ใช่แค่ตลาดอาหารทะเล แต่พบผู้ป่วยในหลายย่านของอู่ฮั่น และในมณฑลเหอเป่ย ถัดมาเริ่มเข้ามาในประเทศไทย ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และเวียดนาม
และเมื่อวันที่มันกระจายไปทั่วโลก P-word หรือ Pandemic จะถูกนำมาใช้
wikipedia
ใน 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา
พบผู้ติดเชื้อเพิ่มในประเทศเนเธอแลนด์ นิวซีแลนด์ ลิธัวเนีย ไนจีเรีย เบลารุส
และพบใน เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ อาเซอร์ไบจาน และ เม็กซิโก
รวมแล้วพบผู้ติดเชื้อถึง 50 กว่าประเทศทั่วโลก
ประเทศที่แพร่ระบาดได้น่ากลัว นอกจากจีน คือเกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน
ในเกาหลีใต้ พบผู้ป่วย เกือบ 2,500 คน ผู้เสียชีวิต 16 คน คิดเป็น 0.64%
ในอิตาลี พบผู้ป่วย เกือบ 700 คน ผู้เสียชีวิต 17 คน คิดเป็น 2.4% หรือเยอะกว่าที่เกาหลีใต้ถึงสี่เท่า ถ้าคนสองกลุ่มนี้ไม่ได้ต่างกันมากและเชื้อเป็นตัวเดียวกัน เป็นไปได้ไหมว่าตัวส่วนที่พบผู้ติดเชื้อเพียงแค่ 700 รายนั้นผิด อาจพบผู้ติดเชื้อที่มากกว่านี้สี่เท่า!
ที่น่ากลัวที่สุดคืออิหร่านที่มีผู้เสียชีวิตเท่ากับอิตาลีและเกาหลีใต้รวมกัน ที่ 34 คน แต่ผู้ป่วยที่ตรวจเจอมีแค่เกือบ 400 คน
"ไม่เห็น ไม่เจอ ไม่ได้แปลว่าไม่มี"
เป็นไปได้ว่าที่อิหร่านอาจมีผู้ติดเชื้อถึง 5,000 คน ถ้าใช้อัตราเดียวกับเกาหลีใต้ ที่เหวี่ยงแหตรวจผู้คนไปกว่า 40,000 ราย
รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพอิหร่านป่วยเป็น COVID-19 ref.middleeasteye.net
ประเทศที่ WHO เป็นห่วงคือประเทศที่มีศักยภาพในการควบคุมโรคไม่ดีนักอย่าง แอฟริกา และอเมริกาใต้
ไม่เห็น ไม่ได้แปลว่าไม่เจอในอเมริกาใต้ และแอฟริกา ที่ตอนนี้เริ่มพบผู้ติดเชื้อแล้ว
การแพร่ระบาดอย่างไม่หยุดยั้งทำให้ WHO ออกมาตราการห้ามกินของดิบ
เรารู้แน่ๆว่าโรคนี้แพร่กระจายด้วยละอองฝอย และการสัมผัส เรามีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าสามารถแพร่กระจายได้ด้วยละอองฝอยที่แพร่ไปได้ไกล
และเรายังพบเชื้อในอุจจาระและรอบทวารหนัก ที่อาจแพร่กระจายเชื้อได้ด้วย Feco-oral route
อาหารดิบไม่ถูกความร้อนอาจปนเปื้อนเชื้อโรคได้ และถ้าไม่ถูกความร้อนและยังชื้น พวกมันยังไม่ตาย
เมื่อหมดหนทาง มาตราการอื่นๆจึงนำมาใช้ โดย WHO ก็ว่าถูกแล้วนี่พวกเราควรกินของสุก
ไม่มีเด็กตาย
เด็กแทบไม่มีอาการรุนแรง เป็นไปได้ว่าการแพร่เชื้อมาจากเด็กที่ไอใส่กันในโรงเรียนแล้วมาติดที่บ้าน เป็นไปได้ไหมว่าเด็กเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค
ทำไมแพร่ได้มากกว่าโคโรน่าไวรัสตัวอื่น
เป็นคำถามที่น่าสนใจ
เชื้ออาจจับกับ receptor บนเซลล์ได้ดี
เชื้ออาจมี gene และเกิดการกลายพันธุ์ที่ช่วยให้แพร่ได้หลายทาง
เชื้ออาจมีระยะที่ไม่มีอาการ หรือโรคที่ไม่รุนแรงพอที่ทำให้เราเข้าโรงพยาบาล
หรือผู้ที่ติดเชื้ออาจไม่มีภูมิคุ้มกันและเป็นผู้ที่สามารถติดเชื้อซ้ำได้!
มาตราการปิดโรงเรียน ปิดโรงหนัง ปิดวัด ปิดโบสถ์ ลดการสัมผัสให้มากที่สุดอาจเป็นหนึ่งในหนทางที่หยุดยั้งโรคระบาดนี้ได้ หรือจะรอให้ผู้คนมีภูมิคุ้มกันจนเพียงพอที่จะเกิด Herd immunity ไม่ว่าจะมาจากการติดเชื้อหรือวัคซีน
โฆษณา