Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เคล็ดลับสมองมหาเศรษฐี
•
ติดตาม
1 มี.ค. 2020 เวลา 02:56 • ธุรกิจ
สำหรับมือใหม่อย่างเราจะดูตัวเลขเศรษฐกิจจากไหนกันนะ???
1
1. GDP ย่อมาจาก Gross Domestic Product คือ มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยไม่คำนึงว่าผลผลิตนั้นจะเป็นผลผลิตที่ได้จากทรัพยากรภายในหรือภายนอกประเทศ ซึ่งคิดค้นโดย Simon Kuznets นักเศรษฐศาสตร์ชาวรัสเซีย ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศสามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้ถึงมาตรฐานการครองชีพของประชากรในประเทศนั้นๆ ได้ด้วย สูตรคำนวณค่า GDP ดังนี้
GDP = C(Consumption)+ I(Investment)+ G(Goverment Spending)+(X(Export)– M(Import))
1
2. Inflation (อัตราเงินเฟ้อ) เป็นดัชนีชี้วัดราคาสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภคว่าปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยมากน้อยเพียงใด เช่น เงินเฟ้ออยู่ที่ 3% ก็หมายถึง ราคาสินค้าแพงขึ้นเฉลี่ย 3% ซึ่งกรอบเงินเฟ้อของประเทศไทยอยู่ระหว่าง 0 - 3%
2
โดยปกติตัวเลขทั้ง 2 ตัวนี้มักจะไปด้วยกัน พูดง่ายๆ คือ เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจมีการขยายตัว เงินเฟ้อก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นและหากเศรษฐกิจหดตัว เงินเฟ้อก็ปรับลดลงตามวัฎจักรเศรษฐกิจ
2
ภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลานั้น ทำให้การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ มีความแตกต่างกันไปด้วย โดยภาวะเศรษฐกิจแบ่งออกเป็น 4 ระยะ
2
1.ระยะเริ่มฟื้นตัว(Early Recovery)
เป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว หลังจากเผชิญภาวะตกต่ำถึงขีดสุด เงินเฟ้อยังอยู่ยังในระดับต่ำ
•สินค้าที่เหลือค้างสต็อกค่อยๆ ทยอยขายออก
•ราคาสินค้าเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น
•ผลประกอบการของธุรกิจดีขึ้น
•การผลิตเพิ่มขึ้น การจ้างงานสูงขึ้น ประชาชนมีรายได้ดีขึ้น
•สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการลงทุน
•ทิศทางการลงทุนมีแนวโน้มดีขึ้น
1
สังเกตอย่างไร?
GDP Growth ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ลงทุนอย่างไร? : ช่วงเวลานี้เหมาะกับการลงทุนใน “หุ้น” มากที่สุด เพราะหุ้นจะได้ผลบวกโดยตรงจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และเศรษฐกิจที่ขยายตัว ในขณะที่ตราสารหนี้และเงินฝากจะได้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่า
2.ระยะเฟื้องฟู(Full Recovery)
เป็นช่วงที่เศรษฐกิจผ่านช่วงฟื้นตัว และก้าวเข้าสู่ช่วงขยายตัว เงินเฟ้อเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่เศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้มากกว่าเงินเฟ้อ
1
•การผลิตขยายตัวสูง
•การจ้างงานเพิ่มสูงขึ้น
•ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เป็นระยะที่ซื้อง่ายขายคล่อง
•ราคาสินค้าและบริการมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจนอาจก่อให้เกิดเงินเฟ้อ
สังเกตอย่างไร?
GDP Growth จะเริ่มปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า หลังจากมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2
ลงทุนอย่างไร? : ช่วงเวลานี้เหมาะกับการลงทุนใน “ทองคำ” มากที่สุด เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเองและป้องกันเงินเฟ้อได้ดี แต่ไม่ใช่ว่าหุ้นไม่น่าสนใจ เพียงแต่การปรับขึ้นของราคาหุ้นในช่วงนี้จะเต็มไปด้วยความผันผวน การกำหนดกลยุทธ์ลงทุนจึงทำได้ยาก
3.ระยะถดถอย(Early Recession)
1
เป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอการขยายตัว หลังจากเจริญรุ่งเรืองอย่างเต็มที่ เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง
•ต้นทุนการผลิตโดยรวมสูงขึ้น
•ผลประกอบการของธุรกิจต่ำลง
•การผลิตและการจ้างงานลดลง
•ประชาชนมีรายได้ลดลง
2
สังเกตอย่างไร?
GDP Growth ติดลบต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 ไตรมาส (QoQ) หาก GDP Growth ลดลง แต่ไม่ถึงกับติดลบ ก็จะเป็นแค่ภาวะ ชะลอตัวของเศรษฐกิจ
1
ลงทุนอย่างไร? : ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ไม่ควรลงทุนในหุ้นมากที่สุด เพราะกำไรของบริษัทจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนัก ส่วน “ตราสารหนี้” ก็ไม่น่าสนใจ เพราะดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะขยับ สูงขึ้นตามเงินเฟ้อ “เงินฝาก” จึงเป็นทางเลือกที่ดีสุด เพราะ นักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่ขยับเพิ่มขึ้น
1
4.ระยะตกตำ่(Full Recession)
เป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะ หดตัวอย่างเต็มตัว เงินเฟ้อเริ่มปรับตัวลดลง
•สินค้าเหลือค้างสต็อก เป็นจำนวนมาก
•ผู้ประกอบการลดการผลิต ลดการจ้างงาน
•ประชาชนไม่ค่อยมีกำลังซื้อ เพราะรายได้ลดลงมาก
•ธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
1
สังเกตอย่างไร?
GDP Growth หดตัว จนทำจุดต่ำสุดใหม่ และมีอัตราการว่างงานสูงสุด
ลงทุนอย่างไร? : ช่วงเวลานี้หุ้นยังให้ผลตอบแทนที่ไม่ดีนัก “ตราสารหนี้” ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและได้รับ ผลประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง มีความน่าสนใจมากกว่า
โดยทั้ง 4 ระยะจะจำแนกโดยใช้เครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น GDP อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค แต่เป็นธรรมชาติของตลาดหุ้น ที่จะซื้อขายกันบนความคาดหวังถึงสิ่งที่เราอาจจะเห็นในอนาคต เช่น ถ้าคนส่วนใหญ่คิดว่าในอีก 1 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจจะดี คนก็จะซื้อหุ้นกันวันนี้ แม้เศรษฐกิจจริง ณ ปัจจุบันยังพึ่งเริ่มฟื้นตัวก็ตามและมันจะทำให้ราคาหุ้นขึ้น.
1
190 บันทึก
116
9
143
190
116
9
143
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย