1 มี.ค. 2020 เวลา 11:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
~ไวรัสโคโรนา : ทำไมผู้ชายถึงป่วยและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่าผู้หญิง~
เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แผลงฤทธิ์ในร่างกายของคนแต่ละเพศไม่เหมือนกัน
แม้ขณะนี้สถานการณ์ของโรคทางเดินหายใจโควิด-19 กำลังยกระดับเข้าใกล้การแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก แต่ดูเหมือนว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะไม่ได้ส่งผลกระทบกับคนทุกเพศทุกวัยอย่างเท่าเทียมกัน โดยนอกจากจะมีรายงานว่าเด็กมีอัตราการติดเชื้อน้อยกว่าผู้ใหญ่มากแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่าผู้หญิงป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้ในสัดส่วนที่น้อยกว่าผู้ชายอีกด้วย
ผลการวิเคราะห์ล่าสุดจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ของจีน ชี้ว่าแม้อัตราการติดเชื้อโรคโควิด-19 ระหว่างชายและหญิงจะไม่ต่างกันมากนัก แต่อัตราการเสียชีวิตนั้นทิ้งห่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีจำนวนคนไข้ชายที่เสียชีวิต 2.8% ในขณะที่คนไข้หญิงเสียชีวิต 1.7%
ในการระบาดของเชื้อไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจหลายครั้งที่ผ่านมา ผู้ชายมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าผู้หญิงมากเช่นกัน ทั้งจากโรคซาร์ส (SARS) และโรคเมอร์ส (MERS) โดยวารสารการแพทย์ Annals of Internal Medicine รายงานเมื่อปี 2003 ว่าอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคซาร์สของผู้ชายในฮ่องกงสูงกว่าผู้หญิงถึง 50% เลยทีเดียว
สาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนี้ สืบเนื่องมาจากการที่ผู้ชายเป็น "เพศอ่อนแอกว่า" ในเรื่องของภูมิต้านทานโรค แต่อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบชัดว่าเหตุใดผู้หญิงจึงแข็งแกร่งกว่าผู้ชายในแง่นี้ ทั้งยังสามารถพัฒนาภูมิคุ้มกันหลังได้รับวัคซีนให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพดีกว่า และอยู่คงทนนานปีกว่าอีกด้วย
ดร. จานีน เคลย์ตัน ผู้อำนวยการแผนกวิจัยสุขภาพสตรี สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ บอกว่า "มีบางอย่างที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของผู้หญิงทรงพลังมากกว่า แต่บางทีสิ่งนี้ก็เป็นแรงขับเคลื่อนให้ภูมิคุ้มกันตื่นตัวและทำงานมากเกินไป จน 80% ของผู้ป่วยด้วยโรคภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเองก็เป็นผู้หญิง"
มีข้อสันนิษฐานว่า ผู้หญิงมีภูมิคุ้มกันโรคสูงกว่าผู้ชาย เนื่องจากคุณสมบัตินี้จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับทารกแรกเกิด ซึ่งต้องรับสารแอนติบอดีต่อต้านเชื้อโรคจากน้ำนมมารดาโดยตรง ในระหว่างที่ภูมิคุ้มกันของทารกยังอ่อนแอและอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา
ผู้หญิงอาจมีภูมิคุ้มกันโรคสูงกว่าผู้ชาย เนื่องจากคุณสมบัตินี้จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับทารกแรกเกิด
ฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง ยังมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายด้วย ส่วนโครโมโซม X ซึ่งเพศหญิงมีอยู่ถึงสองตัว ก็มียีนที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันอยู่จำนวนมากเช่นกัน ในขณะที่เพศชายมีโครโมโซม X เพียงตัวเดียวเท่านั้น
ในการทดสอบแพร่เชื้อไวรัสโรคซาร์สให้กับหนูทดลองจำนวนหนึ่ง ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยไอโอวาของสหรัฐฯ พบว่า หนูตัวผู้ติดเชื้อได้ง่ายกว่าหนูตัวเมีย แม้ได้รับเชื้อในปริมาณน้อยกว่า โดยภูมิคุ้มกันร่างกายของหนูตัวผู้ตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมและกำจัดไวรัสได้ช้ากว่า ทำให้ล้มป่วยและเกิดความเสียหายที่ปอดรุนแรงกว่าหนูตัวเมียมาก
เมื่อทีมผู้วิจัยทดลองฉีดยาสกัดกั้นการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจนกับหนูตัวเมีย หรือทดลองผ่าตัดเอารังไข่ของพวกมันออก ปรากฏว่าหนูตัวเมียสามารถติดเชื้อไวรัสโรคซาร์สได้ง่ายขึ้นและมีอัตราการตายสูงขึ้น ในขณะที่การทดลองฉีดยายับยั้งฮอร์โมนเพศของหนูตัวผู้ ไม่มีผลกระทบต่อภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นแต่อย่างใด
1
พฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่แตกต่างกันระหว่างชายและหญิงในบางวัฒนธรรม ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ผู้ชายป่วยและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ง่ายกว่า ตัวอย่างเช่นประเทศจีนนั้นมีจำนวนผู้สูบบุหรี่สูงที่สุดในโลกถึง 316 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แต่มีเพียง 2% ของประชากรหญิงจีนทั้งหมดเท่านั้นที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกัน
จีนมีจำนวนผู้สูบบุหรี่สูงที่สุดในโลกถึง 316 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย
นอกจากสุขภาพปอดที่ย่ำแย่แล้ว การที่ชายจีนมีภาวะความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าผู้หญิง ยังทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้นหากป่วยด้วยโรคโควิด-19 อีกด้วย ซึ่งจะนำไปสู่ความเสี่ยงเสียชีวิตในอัตราที่สูงกว่า
ศ. อะกิโกะ อิวาซากิ ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันวิทยาจากมหาวิทยาลัยเยลของสหรัฐฯ บอกด้วยว่า ผู้ชายอาจมีความประมาทและมั่นใจว่าตนเองจะปลอดภัยจากโรคร้ายมากเกินไป โดยพบหลักฐานที่ยืนยันถึงทัศนคติแบบนี้ในการวิจัยล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์จีนซึ่งชี้ว่า ผู้ชายอายุมากมีแนวโน้มจะมาเข้ารับการตรวจรักษาโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลช้าเกินไป จนมักจะมีอาการอยู่ในขั้นรุนแรงแล้ว ซึ่งทำให้โอกาสรอดชีวิตลดน้อยลงอย่างมาก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา