เจาะเอง รีวิวเอง : 4 ตำแหน่งการเจาะร่างกายที่สวยแซ่บ!! และไม่(ค่อย)ซ้ำใคร
1. จุดเชื่อมต่อกันระหว่างเหงือกและริมฝีปากด้านใน
หลายคนอาจจะมองว่า จุดนี้น่ากลัวและน่าหวาดเสียวที่สุด เจ็บที่สุด แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว จุดนี้เจ็บน้อยที่สุดค่ะเพราะแทบไม่รู้สึกอะไรเลย สำหรับบริเวณที่เจาะจะเป็นบริเวณส่วนที่เชื่อมกันระหว่างเหงือกและด้านในริมฝีปากค่ะ
วิธีการดูแลรักษาก็ไม่ยากค่ะเพียงแค่บ้วนปากบ่อยๆด้วยน้ำยาบ้วนปาก 3 เวลาหลังอาหาร ช่วงแรกของการเจาะให้รับประทานอาหารเหลวๆเพื่อไม่ให้แผลกระทบกระเทือน แต่สิ่งที่ต้องทำใจคือ คราบน้ำลาย คราบพลัคจะมาเกาะที่จิล (เครื่องประดับที่เจาะบริเวณนั้น) ของเรา พอนานวันจากที่เคยเงาสวยก็เริ่มขุ่น จึงขอแนะนำให้ถอดออกมาแปรงด้วยยาสีฟัน แปรงสีฟันต่างหากเพิ่มค่ะ
2. ติ่งหูแนวขวาง
บริเวณนี้เราอาจจะไม่ค่อยได้พบเห็นมากนัก แต่ก็เป็นจุดที่ดูสวยในสายตาผู้เขียนไม่ใช่น้อย ขอแนะนำว่า ให้ไปเจาะกับร้านที่ช่างมีความชำนาญในระดับหนึ่งดีกว่าค่ะ เพราะช่างเจาะบางคนก็ไม่เข้าใจตำแหน่ง
บริเวณนี้ค่อนข้างเจ็บและดูแลยากค่ะ (อาจเป็นเพราะเจาะกับช่างที่ไม่มีความเข้าใจ หรือแพ้จิลหรือตัวผู้เขียนเองที่ดูแลไม่ดีค่ะ) เจาะได้ไม่กี่วันก็ต้องเอาออกเพราะทนกับอาการปวด บวมของแผลไม่ไหวรวมถึงผมยาวสลวยที่มักจะเกี่ยวจิลทำให้แผลได้รับความกระทบกระเทือนจนน้ำตาร่วงเป็นประจำ
3. โหนกแก้มหรือนิ้วมือ (จิลฝัง)
บริเวณนี้ผู้เขียนไม่เคยผ่านประสบการณ์การเจาะมาค่ะ แต่หลายท่านอาจสงสัยว่า จิลเข้าไปใต้ผิวหนังด้วยวิธีใดเพราะหากเจาะเข้าไปตามปกติก็มีโอกาสสูงมากที่จะเลื่อนหลุด หรือถ้าเจาะเข้าไปเพื่อทะลุออกอีกด้านแบบคิ้วหรือสะดือก็เป็นไปได้ยากเพราะจิลที่โผล่พ้นผิวหนังมามีเพียงอันเดียว
ปกติแล้วจิลที่เราคุ้นเคยในการเจาะจะเป็นแบบตุ้มหูแบบแป้น (Earring) หรือแบบตรงที่มีปลายทั้งสองข้างสามารถหมุนหรือถอดออกได้ (Instud Barbell) ซึ่งผู้เขียนขอแนะนำจิลอีกรูปแบบหนึ่งให้ผู้อ่านได้รู้จักกันค่ะ นั่นคือ..
จิลแบบฝังหรือ Micro-Dermal นั่นเอง ลักษณะจะเป็นดังภาพ
โดยช่างจะใช้หมุดเจาะผิวหนัง (Biopsy punch) ซึ่งเป็นเครื่องมือแพทย์เจาะลงไปบนผิวและทำการฝังจิลลงไป ดังนั้นต้องกระทำโดยช่างที่เชี่ยวชาญเท่านั้นเพราะมีความเสี่ยงในเรื่องระบบประสาทด้วยค่ะ
ที่สำคัญจิลชนิดนี้ไม่สามารถเอาออกได้ด้วยตัวเองนะคะ
4. ร่องปากบนหรือมุมปากขวา ซ้าย
ไหนสาวๆคนไหนอยากดูแซบ ดูเปรี้ยวขึ้นบ้าง!!! ขอแนะนำการเจาะตำแหน่งนี้เลยค่ะเพราะเป็นจุดที่สร้างเสน่ห์ได้ดีอีกจุดหนึ่ง (ในความเห็นของผู้เขียน)
เนื่องจากจุดนี้ไม่จำเป็นต้องฝังเหมือนนิ้วมือหรือโหนกแก้มจึงไม่ยุ่งยาก เพราะใช้จิลที่มีลักษณะแป้นกลมแบน หมุนออกได้เฉพาะบริเวณหัวจิล
ลักษณะการดูแลจะใช้ยาป้ายแก้ปากเปื่อยป้ายบริเวณด้านในปาก ส่วนนอกปากใช้ครีม Bepenthen รุ่น First Aid ทาเฉพาะก่อนนอน ไม่ทาเช้า-เย็นเพราะกันแผลแฉะค่ะ หมั่นเอาคัตตอนบัตซับน้ำรอบๆแผลด้วยนะคะ
ผู้เขียนเจาะมุมปากขวาบน (Madonna Piercing ) ค่ะ
ขอขอบคุณภาพประกอบบทความจาก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
