2 มี.ค. 2020 เวลา 08:48 • ท่องเที่ยว
ถ้ำผานางคอย
ถ้ำผานางคอย ตั้งอยู่ที่บ้านผาหมู อ.ร้องกวาง จ.แพร่
เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ใจกลางป่าที่ถูกปกคลุมไปด้วยแมกไม้ ในสมัยที่ป่ายังอุดมสมบูรณ์ เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหลายชนิด โดยเฉพาะกวางป่า จึงเป็นที่มาของ อ.ร้องกวาง
ถ้ำผานางคอย จ.แพร่ : ถ่ายภาพโดย JTT R
สิ่งนึงที่น่าสนใจของถ้ำนี้คือ
ณ กลางลานส่วนหนึ่งของถ้ำ มีหินงอกหินย้อย ที่มีรูปร่างคล้ายกับผู้หญิงอุ้มลูก ดูเหมือนกำลังรอคอยการกลับมาของชายอันเป็นที่รัก จึงเป็นที่มาของเรื่องเล่า ที่กลายมาเป็นตำนานให้เล่าขานจนถึงทุกวันนี้
ตำนานแห่งถ้ำผานางคอย
เป็นเรื่องราวความรักระหว่างเจ้าแม่อรัญญาณี กับชายอันเป็นที่รัก
หลายร้อยปีมาแล้ว
องค์หญิงอรัญญาณี ธิดาของกษัตริย์ แห่งอาณาจักรแสนหวี
ได้พบรักกับ คะนองเดช หัวหน้าฝีพายที่ช่วยชีวิตเธอจากการจมน้ำ
จนวันหนึ่ง องค์หญิงเกิดทรงพระครรภ์ ความรักต้องห้ามจึงถูกเปิดเผย
ทั้งสองหลบหนีมาถึงกลางป่า โดยมีกองทหารไล่ล่ามาอย่างกระชั้นชิด
ทหารยิงลูกธนูใส่คนองเดช แต่กลับพลาดไปถูก กลางพระอุระขององค์หญิงอรัญญาณี
ทั้งสองพากันหนีเข้ามาหลบอยู่ในถ้ำ และได้ประสูติพระโอรส
ทหารยังคงไล่ล่าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่องค์หญิงไปต่อไม่ไหว
จึงขอร้องให้ชายที่รักหนีไป และพูดว่า "หญิงจะรออยู่ที่นี่ ชั่วกัลปาวสาน"
ด้วยแรงอธิษฐาน ทำให้องค์หญิงอรัญญาณี กลายเป็นหินโดยมือโอบโอรสไว้บนตัว
กลายเป็นที่มาของชื่อ"ถ้ำผานางคอย"
แต่อีกตำนานหนึ่ง เล่าว่า องค์หญิงอรัญญาณีและคนองเดช ได้พากันหลบหนีออกมาอาศัยกันอยู่ในถ้ำ
ในวันหนึ่ง คนองเดชได้ออกไปหาอาหาร แต่ทหารได้ตามมาพบจึงถูกสังหารลงเสียตรงกลางป่า
เวลาผ่านไป องค์หญิงจึงได้รู้ว่า ผู้เป็นที่รักได้เสียชีวิตแล้ว
เธอตั้งจิตอธิษฐานว่า จะรอคอยการกลับมาของชายผู้เป็นที่รักตลอดไป
ด้วยแรงอธิษฐานนี้ ทำให้นางกลายเป็นหิน มืออุ้มลูก หันหน้าไปทางปากถ้ำ รอคอยชายอันเป็นที่รักจนถึงทุกวันนี้
ตำนานไหนดูสมจริงมากกว่ากันนะ?
ปัจจุบัน ผืนป่ารอบๆถ้ำผานางคอยได้ถูกแปรเป็นพื้นที่ทำการเกษตร
สัตว์ป่าน้อยใหญ่ค่อยๆทยอยหายไป ทำให้คงเหลือเพียงภูเขาหินปูนสูงโดดเด่น กับถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยอันสวยงามตระการตา
และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของจ.แพร่ไปแล้ว
ถ้ำผานางคอย เดินทางมาถึงได้ไม่ยาก โดยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารต่างๆจาก บ.ข.ส. ของจ.แพร่
โดยทางเข้าถ้ำจะมีอยู่สองทาง คือเดินขึ้นบันได ซึ่งเหมาะกับสายเฮลท์ตี้มีพลัง
หรือจะเลือกขึ้นรถโดยสารแบบชิวๆ ที่จอดรอให้บริการอยู่บริเวณลานจอดรถก็ได้
แล้วคุณจะเลือกเดินทางไหน?
ผู้เขียนเลือกวิธีเดินขึ้นบันได
ซึ่งคิดว่าตัดสินใจไม่ผิด การเดินทำให้ได้ชมวิวสวยๆระหว่างทาง เหนื่อยก็หยุดพัก และสูดหายใจลึกๆ ทำให้สดชื่นไปอีกแบบ
ทางเดินดูเหมือนจะชัน แต่ใช้เวลาไม่นาน เพราะปากถ้ำอยู่สูงจากตีนเขาเพียง 50เมตรเท่านั้น
ถ้ำผานางคอย จ.แพร่ : ถ่ายภาพโดย JTT R
เมื่อเดินมาจนถึงแล้ว
ก็ได้เห็นว่าภายในถ้ำมีความสวยงามมากแค่ไหน บวกกับแสงไฟที่จัดไว้ ทำให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ถ้ำขนาดใหญ่ มีทางเดินที่ต่อด้วยไม้ ทอดยาวไปจนถึงอีกด้านหนึ่งของตัวถ้ำ สามารถเดินเข้าชมตามส่วนต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย
ถ้ำผานางคอย จ.แพร่ : ถ่ายภาพโดย JTT R
ถ้ำผานางคอย สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล
ในเวลา 8.00น.-17.00น. ของทุกวัน
ซึ่งถ้าหากไปเช้าหน่อย ไฟในถ้ำอาจจะยังไม่เปิด
ข้อควรระวัง ภายในบริเวณถ้ำที่มีแสงไฟค่อนข้างน้อย อาจเป็นอุปสรรคของการถ่ายภาพสวยๆ
ซึ่งภาพที่ได้อาจจะกวนใจสายเซลฟี่มากพอสมควร
ควรเตรียมอุปกรณ์ให้เหมาะกับการถ่ายภาพในที่มืด เช่น แสงแฟลซ ขาตั้งกล้อง
และนี่คือ "ถ้ำผานางคอย" ที่มีตำนานแห่งความรักอันเป็นนิรันดร์
แต่มันคงจะไร้ความหมาย ถ้าคุณไม่ไปสัมผัสด้วยตัวเอง
เที่ยวสนุก เดินทางปลอดภัย
พูดเรื่องเที่ยว by JTT R
โฆษณา