3 มี.ค. 2020 เวลา 04:48 • เกม
Yu-Gi-Oh! Story :: Exodia - ตำนานเทพมายาผู้ถูกปิดผนึก Part 4
รูปลักษณ์ของเอ็กโซเดีย
รูปลักษณ์ของเอ็กโซเดียนั้น มีนัยยะสำคัญซ่อนอยู่มากมาย จากที่ผมนั้น ไปลองศึกษาค้นคว้าข้อมูลพวกนี้มา ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อมูลที่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้ เป็นการสันนิฐานจากตัวผู้เขียนเอง ซึ่งไม่มีการกล่าวโดย อาจารย์ คาซุคิ ทาคาฮาชิ ผู้แต่ง Yu-Gi-Oh! แต่อย่างใด
การออกแบบเอ็กโซเดีย มีนัยยะมากมายกแอบแฝงอยู่
การออกแบบโดยรวมของเอ็กโซเดียนั้น ถูกออกแบบมาให้เป็นสัตว์ประหลาดยักษ์ผู้ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนที่แขนและขา และสามารถปล่อยพลังได้ เพื่อให้รู้ว่าเป็นจอมเวทย์?! ทีนี้ผมจะมาไล่เจาะลึกในแต่ละส่วนดังนี้
ส่วนหัว : มาดูในส่วนแรกของเอ็กโซเดีย นั้นก็คือ ส่วนหัว ในส่วนนี้ จะมีอยู่ด้วยกัน 3 อย่างที่สื่อถึงการเป็นผู้ปกครอง หรือฟาโรห์ ที่จะกล่าวถึง
หน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมน
1. หมวกคลุมที่เอ็กโซเดียสวมอยู่ มีลักษณะคล้ายคลึงกับสิ่งที่เรียกว่า เนเมส(Nemes) มันคือ หมวกคลุมหัวของฟาโรห์ในยุคอียิปต์โบราณ ที่ครอบปิดตั้งแต่กระหม่อม และมีพนังตกแต่งสองสีสลับกันคลุมปิดผมตั้งแต่หลังหูทั้งหมด
2. งูเห่าทองคำขนาดใหญ่ที่กลางหน้าผากของเอ็กโซเดีย ซึ่งมันคือ ยูเรอุส(Ureus) มันคือเครื่องประดับที่แสดงถึงพลังอำนาจฟาโรห์และจู่โจมศัตรูที่รวดเร็วดั่งงู ซึ่งมักจะมาพร้อมเนเมสเสมอ
3. เคราของเอ็กโซเดีย! ใช่ครับ เครานั่นนั้นละ เครานั้น คือสิ่งที่เรียกกันว่า เคราปลอม(False Beard) ซึ่งเป็นเคราชาวอียิปต์มักจะสวมใส่กัน ตามปกติแล้ว ชาวอียิปต์ยุคโบราณจะไม่ไว้หนวดเครากัน พวกเขาค่อนข้างจะรักษาความสะอาดของใบหน้า ซึ่งคนที่จะใส่เคราปลอมนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนระดับชนระดับสูง และที่ฟาโรห์ต้องใส่เคราปลอมนั้น เป็นความเชื่อที่ว่า องค์ฟาโรห์และเทพเจ้าของพระองค์ จะเป็นหนึ่งเดียวกัน(สังเกตได้ว่า เทพอียิปที่มีใบหน้าเป็นมนุษย์นั้น จะมีเคราแบบนี้เช่นกัน)
เมื่อเอ็กโซเดียมีทั้งสามสิ่ง มันคือผู้ทันเทียมฟาโรห์
เมื่อนำทั้ง 3 สิ่งมารวมกัน มันสื่อถึงว่า เอ็กโซเดียนั้น เป็นผู้สิทธิ์เทียบเท่าราชาหรือฟาโรห์ ซึ่งจากเรื่องโมเสสที่กล่าวก่อนหน้านั้น หากข้อสันนิฐานนี้เป็นจริง เอ็กโซเดีย ก็คือ โมเสส เพราะโมเสสเอง ก่อนที่จะรู้ชาติกำเนิดของตน เขาก็ถูกเลี้ยงดูมาพร้อมๆ กับฟาโรห์องค์ดังกล่าว ราวกับพี่น้อง แต่ถว่า สุดท้าย โมเสสก็ไม่ได้มีสิทธิ์ในบัลลังแห่งอียิปต์ ก่อนจะรู้ความจริง และเดินทางแสวงหาคำตอบ จนเป็นที่มาของเรื่องราวในเอ็กโซดัส นั้นเอง
ส่วนหน้าอก : ต่อมา มาดูที่ส่วนหน้าอกของเอ็กโซเดียกันบ้าง ใส่ส่วนนี้ จะแสดงให้เห็นว่า เอ็กโซเดียนั้น คือผู้ที่มีอำนาจเกินกว่าที่จะต้านทานได้ ซึ่งมีด้วยกัน 2 ช่วง ดังนี้
สัญลักษณ์อังค์
1. กางเขนที่อยู่กลางหน้าอกของเอ็กโซเดียนั้น มันคือ อังค์(Ankh) มันคือสัญลักษณ์สำคัญของศาสนาอียิปต์โบราณ สัญลักษณ์นี้ ซึ่งมีความหมายที่สื่อถึง ชีวิต ความอมตะ การเจริญพันธุ์ และความอุดมสมบูรณ์ โดยที่มาของสัญลักษณ์นี้นั้น เกิดจากการรวมกันของเครื่องเพศของชายและหญิง ซึ่งวงกลมด้านบน คือ เครื่องเพศหญิง แล้วด้ามจับที่มีลักษณะเป็นตัวที(T) คือ เครื่องเพศชาย เมื่อเครื่องเพศทั้งสองมาอยู่รวมกัน มันจะให้กำเนิดชีวิต ตามหลักความเป็นจริงทางชีววิทยา
นอกจากนั้น ในภายหลัง ที่ศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ในประเทศอียิปต์ ศาสนาคริสต์นิกายค็อพติก (Coptic Christian) ก็ถือกำเนิดขึ้น และได้นำสัญลักษณ์อังค์ไปเป็นต้นแบบในการออกแบบไม้กางเขนค็อพติกแบบแรก ก่อนจะถูกเปลี่ยนรูปแบบในภายหลัง
กางเขนค็อพติกจากแบบแรกที่ใช้อังค์เป็นต้นแบบก่อนโดนเปลี่ยนเป็นแบบล่าสุด
2. สัญลักษณ์ที่อยู่ข้างๆ กางเขน ที่มีรูปร่างเหมือนกับตะขอ ซึ่งมีอยู่อย่างละข้างของกางเขน สัญลักษณ์นี้ มันต้นแบบมาจาก ตะขอ(Hook) ของเทพโอซิริส โดยมันเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ ซึ่งปกติแล้ว ตะขอมักจะอยู่คู่กับแส้ฟาดข้าว(Flail) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ โดยในความเชื่อของชาวอียิปต์ สัญลักษณ์ทั้งสองนั้นสื่อถึง คุณสมบัติของผู้ปกครอง ดั่งเทพโอซิริส ผู้เป็นฟาโรห์องค์แรกของแผ่นดินอียิปต์ ทำให้มักจะเห็นตามพวกภาพเขียน หรือวัตถุโบราณที่เป็นฟาโรห์ถือทั้ง 2 สิ่งนี้
ตะขอและแส้ฟาดข้าว หมายถึงอำนาจและความอุดมสมบูรณ์ มันคุณคุณสมบัติ
แต่ถว่า เอ็กโซเดีย กลับมีสัญลักษณ์ตะขอถึง 2 อัน ซึ่งนั้นอาจจะสื่อได้ว่า เอ็กโซเดียนั้น เป็นผู้มีพลังอำนาจมหาศาล มันไม่ใช่ราชา แต่เป็นผู้ทำลายล้างทุกสิ่ง...
การที่เอ็กโซเดียนั้น มีกางเขนและตะขอคู่อยู่ มันอาจสื่อว่า เอ็กโซเดียนั้น เป็นผู้อำนาจเหนือทุกชีวิต ที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่ง ราวกับเป็นพระเจ้านั้นเอง
กระโปรง : ในส่วนของกระโปรงของเอ็กโซเดียนั้น ค่อนข้างที่จะมั่นใจเลยว่า มีต้นแบบมาจากกระโปรงชาวโรมัน และที่ดูสอดคล้องกับเอ็กโซเดียที่สุด คงเป็น กระโปรงของเหล่ากลาดิเอเตอร์(Gladiator)
กระโปรงเอ็กโซเดียใส่อยู่ มีความคล้ายคลึงกับกระโปรงของกลาดิเอเตอร์
กลาดิเอเตอร์ คือนักสู้บนลานประลอง พวกเขาต้องเข่นฆ่ากันเพื่อความบันเทิงของผู้คน และความอยู่รอดของตนเองจากการตกเป็นเหยื่อ ซึ่งพวกเขา เป็นชนชั้นที่ต่ำที่สุดในสังคมโรมัน แม้แต่ทาสยังมีศักดิ์สูงกว่า โดยส่วนใหญ่นั้น พวกนี้จะเป็นพวกเชลยสงครามซะมากกว่า แต่บางที ก็มีพวกสมัครใจมาเอง เช่น ทหารเกษียณตัวเองแล้ว หรือคนหนุ่มที่ต้องแสวงหาชื่อเสียง
คนพวกนี้ เป็นคนพวกแรกๆ ที่ฝึกร่างกายจนบึกบึ้นผิดธรรมชาติตามประวัติศาสตร์ พวกเขา คือต้นแบบของเหล่ามนุษย์บ้ากล้ามนั้นเอง ซึ่งนี้ อาจจะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจ ที่ตอบคำถามได้ว่า ทำไม? เอ็กโซเดียจึงมีรูปร่างใหญ่ยักษ์ ราวกับนักรบเช่นนี้ ก็เป็นได้
โซ่ตรวน : อยากที่รู้ๆ กันว่า เอ็กโซเดียนั้น ถูกแยกชิ้นผนึกได้ โดยนอกจาก การ์ดเอ็กโซเดียผู้ถูกปิดผนึกแล้ว ชิ้นส่วนที่เหลือของผู้ถูกผนึก ล้วนถึงตรึงด้วยโซ่ตรวนทั้งสิ้น ทั้งนี้ การถูกใส่โซ่ตรวนนั้น มันหมายถึงสิ่งนั้น อันตรายเกินไป จนต้องถูกจับด้วยโซ่ตรวนเส้นใหญ่ขนาดนั้น และแน่นอนว่า เอ็กโซเดีย ก็มีความอันตรายมหาศาล ตามที่ต้องการจะสื่อจริงๆ
ชิ้นส่วนของเอ็กโซเดียส่วนใหญ่ ถ้าโซ่ตรวนจำตรงอยู่
นอกจากนั้นแล้ว มันยังสื่อถึงความเป็นทาสด้วย โซ่ตรวนที่ขาดสะบันของเอ็กโซเดีย ก็คงจะมีความถึงอิสรภาพจากการทาส และพร้อมจะหันคมเขี้ยวใส่ผู้ทำพรากอิสระไปจากมันเสมอ
เอาละครับก็จบกันไปแล้วกับเรื่องราวเอ็กโซเดีย Part 4 ยังเหลืออีก 2 Part ของเอ็กโซเดีย รอติดตามอ่านได้เร็วๆ นี้
โฆษณา