6 โหล มหัศจรรย์เปลี่ยนคุณให้เป็นเศรษฐี
ทุกคนล้วนต้องการความมั่นคงในชีวิตและมีอนาคตทางการเงินที่ดี พบกับเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ง่ายกว่าที่คิด
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นการออมเงินได้นั้น สิ่งแรกที่สำคัญคือ การบริหารเงินที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง เพราะถ้าหากเรามัวแต่สนใจในเรื่องของการออมเงินจนไม่ได้มองถึงจุดอื่น ในที่สุดแล้วเงินที่เก็บออมไว้ก็ต้องถูกใช้จ่ายออกไปอยู่ดี วันนี้ก็เลยขอหยิบเอาวิธีการบริหารรายได้แบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้จริง แถมยังเป็นวิธีที่ช่วยบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเงินมากมาย วิธีนี้เรียกว่า JARS System
JARS System เป็นหนึ่งในวิธีการบริหารเงินที่มีประสิทธิภาพ คิดค้นขึ้นโดย T Harv Eker นักพูดและนักคิดทางด้านการเงินการลงทุน เจ้าของหนังสือ Secrets of the Millionaire Mind เมื่อปี 2007 ซึ่งเป็นวิธี ที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่ง ใจความสำคัญของทฤษฎีนี้คือการแบ่งรายได้ที่ได้รับทั้งหมดต่อเดือนออกเป็น 6 ส่วน โดย T Harv Eker ได้ใช้โหลเป็นสัญลักษณ์แทนในแต่ละส่วน และในแต่ละส่วนนั้นก็จะมีเปอร์เซนต์ในการแบ่งรายได้ที่แตกต่างกันดังนี้
โหลใบที่ 1 - โหลเพื่อการใช้จ่ายที่จำเป็น
เงินในส่วนนี้ เป็นเงินที่จะถูกแบ่งไว้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มเติม เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถ และหนี้สินต่าง ๆ โดยคิดเป็น 55% ของรายได้ทั้งหมด
โหลใบที่ 2 - โหลเพื่อรางวัลชีวิต
10% ของรายได้ทั้งหมด จะถูกแบ่งเพื่อเป็นเงินที่นำไปใช้จ่ายส่วนตัวตามใจชอบ จ่ายเพื่อสิ่งที่อยากได้ ถือเป็นรางวัลให้กับชีวิต สำหรับความเหนื่อยยากในการทำงานแต่ละเดือน เป็นเงินที่คุณจะสามารถใช้ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง เงินก้อนนี้สามารถใช้ให้หมดได้
โหลใบที่ 3 - โหลเพื่ออิสรภาพทางการเงิน ใช้ลงทุนอย่างเดียว
10 % ของรายได้ทั้งหมด ถูกแบ่งเพื่ออิสรภาพทางการเงินและความมั่นคงยามเกษียณ การลงทุนถือเป็นเรื่องสำคัญและขาดไม่ได้ โดยการลงทุนมีอยู่หลายรูปแบบให้เลือกตามความชอบ อาทิ กองทุน, หุ้น, ประกันแบบสะสมทรัพย์, เงินฝากดอกเบี้ยสูง, สลากออมสิน หรือการซื้อสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไร หรือแม้กระทั่งลงทุนในตลาด Forex เป็นต้น
และการลงทุนในการซื้อประกันภัย ประกันสุขภาพให้กับตัวเองก็ถือเป็นการวางแผนการลงทุนอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน เพราะหากเกิดเจ็บป่วยหรือสิ้งที่ไม่คาดคิดจะได้ไม่รบกวนเงินในส่วนอื่นๆหรือคนในครอบครัวเรา
โหลใบที่ 4 - โหลเพื่อการแสวงหาความรู้
10% ของรายได้ทั้งหมด ถูกแบ่งเพื่อใช้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุน หรือความรู้ที่สอดคล้องต่อการไปถึงเป้าหมาย ซึ่งไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ที่การสมัครเรียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการซื้อหนังสือ การอบรมสัมมนา และการเข้าเวิร์กช็อปในสิ่งที่ตัวเองสนใจ เพื่อเป็นการพัฒนาตัวเอง เพราะการลงทุนในการเรียนรู้ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
โหลใบที่ 5 - โหลเพื่อการให้
5% ของรายได้ทั้งหมด จะถูกแบ่งเพื่อให้รู้จักการแบ่งปันการให้ ลดความตระหนี่ในจิตใจ คุณอาจจะบริจาค หรือให้การช่วยเหลือองค์กรการกุศลต่าง ๆ ทำบุญ รวมถึงซื้อของขวัญให้กับคนใกล้ชิดในโอกาสพิเศษ หรือให้พ่อแม่เพื่อใช้จ่ายทุกเดือน เป็นต้น
โหลใบที่ 6 - โหลเพื่อการออม
10% ของรายได้ทั้งหมด แบ่งเพื่อเก็บออมไว้ใช้ในระยะยาวหรือในยามจำเป็นจริงๆ หากคุณเก็บเงินได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เมื่อถึงเวลาที่จะต้องใช้จ่ายในยามจำเป็นหรือฉุกเฉิน คุณจะสบายใจเพราะมีเงินให้ใช้จ่าย โดยไม่ต้องไปหยิบยืมคนอื่นให้เป็นหนี้
อย่างไรก็ตาม นอกจากการออมเงินเพื่อใช้จ่ายในระยะยาวแล้ว หากลองมองไกลกว่านั้น วันใดที่เราอายุ 60 ปี ก้าวสู่วัยเกษียณที่สุขภาพอาจเริ่มทรุดโทรม ไม่ได้มีเรี่ยวแรงทำงานเหมือนตอนนี้ เราจะทำอย่างไร ? แล้วเราเตรียมเงินออมไว้เพียงพอสำหรับอนาคตแล้วหรือไม่ ยิ่งถ้าใครมีรายได้ไม่แน่นอน เมื่อถึงเวลาเกษียณ คิดไว้หรือยังว่าหาเงินที่ไหนมาซื้อหาอาหาร จะหาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะไม่ได้มีบำเหน็จ-บำนาญเหมือนข้าราชการ หรือพนักงานบริษัท
ถือเป็นการบริหารจัดการรายได้ที่น่าสนใจไม่น้อย แถมยังเป็นวิธีที่ดูแล้วไม่โหดร้ายเกินไปสำหรับคนที่มีรายได้น้อยอีกด้วย ถ้าวันนี้คุณเป็นคนหนึ่งที่คิดจะปรับเปลี่ยนวินัยการเงิน และอยากจะสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ดีไว้ตั้งแต่วันนี้จนถึงยามเกษียณ ลองบริหารเงินแบบ 6 โหลกันดูนะครับ เริ่มต้นจากเงินเล็กๆน้อยๆในวันนี้เพื่อเงินก้อนโตในวันข้างหน้า
เริ่มลงมือทำเลยวันนี้ดีกว่ารอให้เกิดวิกฤตทางการเงินกับเราก่อนแล้วมานั่งคิดเสียดายทีหลังว่า “รู้งี้..น่าจะลงมือทำตั้งแต่วันนั้นก็ดี”
Purd Tanitas
Founder FACTORPRO
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
