5 มี.ค. 2020 เวลา 01:10
เยาวราช หรือไชน่าทาวน์ เมืองเก่า แหล่งชุมชนชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน จัดเป็นย่านธุรกิจการค้า, การเงิน ธนาคาร, ร้านทอง, ภัตตาคาร ร้านอาหาร, ร้านค้า แหล่งที่ตั้งของศาสนสถานมากมาย ทั้งพุทธหินยาน, มหายาน จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ที่มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย แม้วันนี้จะได้รับผลกระทบจากพิษไวรัส โคโรนาไปบ้าง แต่ดูเหมือนไม่สร้างความสะทกสะท้านอะไรมากนักสำหรับย่านนี้
ด้วยแลนด์มาร์กสำคัญ ที่เป็นแม่เหล็ก นั่นคือถนนสายมังกร เมื่อลงพื้นสำรวจพบความยาวตลอดเส้นทางเพียง 1,510 เมตร แต่กลับสร้างความมั่งคั่ง จนน่าจับตา โดยจุดเริ่มต้น ของถนนเส้นนี้เริ่มจาก หัวของมังกรที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บริเวณวงเวียนโอเดียน ท้องมังกรอยู่บริเวณตลาดเก่าเยาวราช และสิ้นสุดปลายหางมังกรที่บริเวณปลายสุดของถนน ทำให้ย่านนี้มีจุดสำคัญหลายจุด เช่น วงเวียนโอเดียน ถนนเจริญกรุง ถนนเยาวราชตัดกับถนนทรงสวัสดิ์ หรือสี่แยกเฉลิมบุรี, ถนนราชวงศ์ หรือสี่แยกราชวงศ์ และถนนจักรวรรดิ หรือสี่แยกวัดตึก ข้ามคลองรอบกรุง (สะพานภาณุพันธุ์) สิ้นสุดที่แยกถนนพีระพงษ์ ตัดกับถนนมหาไชยและถนนจักรเพชร นี่คือแนวผังเมืองขอบเขตของย่านนี้ที่สามารถเดินทะลุถึงกันได้
ศักยภาพของทำเลย่านนี้ ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ ที่บางส่วนมีการปรับปรุงซ่อมแซมให้มีความทันสมัยแต่ยังอนุรักษ์รูปแบบทรงโบราณไว้ ที่นี่ เป็นชุมชนเก่าที่ผู้อยู่อาศัยเดิมยังคงทำการค้าและไม่สามารถขยับขยายพื้นที่ได้อีก บางรายจึงออกไปซื้อบ้านอยู่อาศัยในเขตปริมณฑลแทน และไปพักอาศัยในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ดินบางส่วนเป็นสิทธิการเช่าคือ ที่ดินราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และจากการใช้ประโยชน์ของที่ดินในย่านนี้เต็มที่ไปแล้ว ทำให้ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินเพื่อใช้ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมปี 2559-2562 อาจไม่ค่อยเคลื่อนไหวมากนักอยู่ที่ 700,000 บาท ต่อ ตร.ว.
สายสีนํ้าเงินดันที่พุ่งราคาสูง
ปัจจุบันศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA เผยว่าเมื่อมีการพัฒนาโครงการขึ้นมาบ้าง การซื้อขายราคาตลาดจะสูงถึง 1.8-1.9 ล้านบาทต่อตร.ว. เหตุที่ราคาที่ดินย่านนี้กลับมาสูงขึ้นนั้น เป็นเพราะแนวรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน ที่เริ่มเปิดให้บริการแล้ว และย่านนี้มีถึง 2 สถานีคือ สถานีสามยอด และสถานีวัดมังกร ยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น อีกทั้งมีการนำที่ดินผืนเก่าออกมาพัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูส คือ I’m Chinatown (แอมไชน่าทาวน์) สไตล์ Modern Chinese อยู่บริเวณหัวมุมถนนผดุงด้าว ที่นับว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของย่านนี้ในรอบ 30 ปี มีมูลค่าราว 3,000 ล้านบาท พื้นที่ขนาด 40,000 ตร.ม. เป็นโครงการที่บริการครบวงจร รายแรกและรายเดียวในย่านเยาวราช ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ศูนย์การค้า แต่ยังมี โรงแรม “อาศัย” (ASAI) โรงแรมแนวคิดใหม่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างของเครือดุสิต และคอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียมที่ขายหมดแล้ว รับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทุกเพศทุกวัยด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานศิลปะดั้งเดิมของตึก หรือสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่อดีตหวังดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในย่านนี้กันมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้จะมีเฉพาะบูติกโฮเต็ล ส่วนคอนโดมิเนียมจะอยู่ถัดออกมาทางย่านสามย่าน และหัวลำโพง
ปลุกย่านการค้าใหม่ย่านนี้
ยังมีที่ดินอีก 2 แปลง คือ เวิ้งนาครเขษม ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นย่านการค้าเดิมปัจจุบันผู้เช่าเดิมย้ายออกไปหมดแล้วทิ้งไว้ให้เป็นที่จอดรถชั่วคราว ล้อมรั้วปิดกั้นทางเข้าพื้นที่ไว้ มีพื้นที่ราว 14 ไร่ เศษ รอการพัฒนา และอีกหนึ่งแปลงหัวมุมวัดตึก ที่นำอาคารตึกแถวเก่ามาบูรณะและซ่อมแซมให้เป็นอาคารพาณิชย์สมัยใหม่ จำนวน 58 คูหา ใช้ชื่อโครงการอนุรักษ์และพัฒนาตึกแถวชุมชนเลื่อนฤทธิ์
สะท้อนให้เห็นว่าพื้นที่ย่านนี้ ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ที่ยังเชื่อมั่นและมั่นใจในทำเลนี้ว่ายังเป็นทำเลทองฝังเพชร ฮอตและร้อนแรงอยู่ เหตุมีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาซื้อของและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่เฉพาะแค่ช่วงเทศกาลต่างๆ แต่มีมาตลอดทั้งปี
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก: หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,546 วันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ 2563
โฆษณา