4 มี.ค. 2020 เวลา 10:20
ถ้าหาซื้อหน้ากากไม่ได้ จะทำอย่างไรดี ??
มาถึงปัญหาที่กำลังเป็นที่ฮอตฮิตในขณะนี้ นั่นก็คือหาซื้อหน้ากากอนามัยไม่ได้จะทำยังไงดีและจะลดโอกาสในการติดโรคCOVID-19 ได้อย่างไร
ต้องขอปูพื้นเกี่ยวกับการติดโรคcovid-19
โดยโรคนี้สามารถแพร่กระจายผ่านละอองในอากาศในรูปแบบ Droplet การแพร่เชื้อแบบ Droplet คือติดต่อในระยะใกล้ ผ่านการไอจามใส่กัน เป็นละอองฝอยขนาดใหญ่ เขียนถึงตอนนี้ทุกท่านก็คงจะเริ่มงงว่าคืออะไร
ลองคิดถึงภาพ
หลวงพ่อ จุ๋มไม้ศักดิ์สิทธิ์ พรมน้ำมนต์ไปยังญาติโยมที่กำลังอนุโมทนาบุญ
โดนทั้งตัวญาติโยมและพื้นกระจายโดยรอบ
ขันน้ำมนต์ ก็คือ ปอดของผู้ติดเชื้อที่มีเชื้อ
แรงเหวี่ยงไม้ ก็คือ การไอ จาม ของคนไข้
น้ำมนต์ที่หลวงพ่อสาดมาคือ เชื้อโรค ยิ่งก้อนใหญ่ ยิ่งไปได้ไม่ไกล
ดังนั้นลักษณะการกระจายของเชื้อ จึงจะอยู่ในวงแคบๆ นั่นก็คือ
ไม่เกิน 1-2 เมตร นั้นเอง
ถ้าไม่อยากถูกน้ำมนต์ของหลวงพ่อทำไงดี ง่ายสุดก็คือ
1. เอาตาข่ายไปดักตั้งแต่ปลายไม้เลย เชื้อก็ติดอยู่ที่ตาข่าย
นั่นก็คือ การให้คนป่วยใส่หน้ากากอนามัย ก็เพื่อดักละอองฝอยจาการไอ
ตั้งแต่ก้อนใหญ่ๆ ซึ่งจะติดอยู่บนหน้ากากทำให้แพร่กระจายสู่ผู้อื่นไม่ได้
2. เว้นระยะห่างจากผู้ติดเชื้อ ให้มากพอที่ละอองก็จะกระเด็นไม่ถึงตัวเรา
3. ล้างมือหรืออาบน้ำ ไม่ให้น้ำมนต์หลวงพ่อติดอยู่บนร่างกาย
นั้นคือที่มาของคำแนะนำที่ตรงกันทั้ง 3 สถาบัน
ทั้ง WHO US CDC และกรมควบคุมโรค ว่า
** สำหรับบุคคลทั่วไป ถ้าไม่ใช่พื้นที่เสี่ยง ให้ใส่เฉพาะคนที่มีอาการ คนไม่มีอาการไม่ต้องใส่ **
ถ้าใส่และถอดไม่ถูกวิธี ไม่ใส่จะปลอดภัยกว่า
และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับหน้ากากอนามัย
ก็คือ การถอด ไม่ใส่การใส่ เพราะถ้าถอดแล้วมือไปเปื้อนโดนเชื้อโรค
อาจจะติดเชื้อได้
ตรงกับคำเห็นผู้เชี่ยวขาญในข่าวไทยรัฐวันนี้
เลยเอาคลิปการถอดหน้ากากที่ถูกต้องมากฝาก
ดังนั้น การที่เราแย่งซื้อหน้ากากจนกระทั่งขาดแคลน จะส่งผลเสียหลักๆ 4 ประการก็คือ
1. คนป่วยก็จะหาซื้อหน้ากากไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถป้องกันการกระจายเชื้อสู่ผู้อื่นได้
2. หน้ากากอนามัยธรรมดา นอกจากไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้แล้ว หนำซ้ำยังทำให้อาจติดเชื้อได้ด้วย เนื่องจากผิวด้านนอกของหน้ากากอนามัย จะมีลักษณะมันเพื่อทำให้สิ่งแปลกปลอมติดอยู่บนผิวด้านนอกของหน้ากาก ถ้าเราถอดไม่ถูกวิธี มือเราไปสัมผัสกับผิวด้านนอกของหน้ากาก ก็จะทำให้ มือเรามีเชื้อ และเมื่อเราเอามือที่มีเชื้อ สัมผัสเยื่อบุต่างต่างๆเช่น ตา ปาก จมูก ก็จะทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ กลายเป็นว่าเราเอาเชื้อมาแปะอยู่ตรงหน้าเลย ยิ่งถ้าบางคนเสียดายมากซื้อมาแพง reuse ใช้ซ้ำ 2 วัน ก็ยิ่งทำให้มีเชื้ออยูบนหน้ากากมากขึ้น เพื่อโอกาสในการติดเชื้อมากขึ้น
3. ทำให้เรามั่นใจแบบผิดๆ ว่า ปลอดภัยแล้ว ทำให้กล้ามากกว่าที่ควรจะเป็น
4. บุลคลทางการแพทย์ ขาดแคลนหน้ากาก ทำให้ไม่สามารถป้องกันตัวได้ดีและอาจจะกลายเป็นผู้แพร่เชื้อแทน
ถ้าหาซื้อหน้ากาก ไม่ได้ ไม่ต้องกลัว สิ่งที่จำเป็นมากกว่าหน้ากากอนามัย ก็คือ
1. งดไปในพื้นเสี่ยง ซึ่งก็คือสถานที่แออัด airflow ไม่ดี หรือมีโอกาส
Closed contact กับผู้ติดเชื้อ เช่น งานประชุม ดูบอล ดูconcert เพราะต่อให้หน้ากากN95 ก็ทำได้แค่ลดความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงไม่เท่ากับ 0
2. ถ้าจำเป็นต้องไปในสถานเสี่ยง ถ้าไม่มีหน้ากาก ทำแบบนี้
ก็น่าจะปลอดภัยในระดับหนึ่ง คือ
- พยายามรักษาระยะห่าง(1-2 m)กับบุคคลอื่น
- มีสุขอนามัยพื้นฐานที่ดี ไม่เอามือมาสัมผัสปาก จมูก ใบหน้า
- ลดระยะเวลาในการอยู่ในพื้นที่แออัด
แต่ถ้ามีหน้ากาก ก็ควรจะใส่ ตามคำแนะนำของสมาคมหมอโรคปอด
และถ้าจะใช้ N95 ต้องทำการทดสอบ fit check ทุกครั้งก่อนเข้าพื้นที่เสี่ยง รวมถึง ถอดและทิ้งให้ถูกวิธีด้วย
3. พกเจลล้างมือ หรือ alcohol hand rub หรือ ล้างมือบ่อย
เพื่อไม่ให้เชื้อติดอยู่ที่มือ
โดยต้องล้างให้ถูกวิธีและครบ 20 วินาทีด้วย ด้วยนะครับ
โฆษณา