5 มี.ค. 2020 เวลา 00:30 • ข่าว
ไม่ได้มีเพียงแต่รัฐบาลเท่านั้นที่ตื่นตัวกับสถานการณ์ COVID-19 บริษัทและองค์กรต่างๆก็มีมาตรการจัดการเช่นเดียวกัน โดยที่วันนี้รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกจะขอเลือกเรื่องที่น่าสนใจของแต่ละ Industry มาสรุปให้ฟัง
บางบริษัททำได้น่าสนใจและน่าประทับใจมาก บางอันก็งงๆว่าเอ๊ะ จะดีเหรอ? ใครชอบมาตรการของบริษัทไหนคอมเมนต์คุยกันได้นะคะ :)
1. การขนส่ง
ในประเทศจีนเมื่อต้องปิดเมืองอู่ฮั่น การขนส่งบุคลากรทางการแพทย์จึงเป็นไปอย่างยากลำบากมาก และแน่นอนว่าบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งอย่าง Didi Chuxing หรือที่คนเรียกกันว่า Uber ของเมืองจีนนั้นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จัดคนขับ 1,336 คนเพื่อรับส่งบุคลากรทางการแพทย์โดยเฉพาะ เนื่องจากว่าในช่วงที่มีโรคระบาดคนเดินทางน้อยลงถึง 50% ดังนั้นจึงมีคนขับว่างงานเป็นจำนวนมาก
เพราะคนในจีนก็ยังต้องกินต้องใช้ เมื่อข้าวของไม่พอและออกจากบ้านไม่ได้ จึงจำเป็นต้องซื้อออนไลน์ ในเมื่อไม่สามารถส่งคนเข้าไปส่งของได้เพราะกลัวเรื่องการติดเชื้อ บริษัท eCommerce อย่าง JD เลยสร้าง Autonomous Vehicle หรือหุ่นยนต์ส่งของที่จะไปรับของที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดแล้วนำไปส่งที่บ้านของผู้คน โดยที่ตัวนึงบรรทุกพัสดุเล็กๆได้ถึง 24 ชิ้น และเดินทางด้วยความเร็ว 15 กม./ชม. โดยเริ่มทำมาตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์แล้ว และไม่ใช่แค่ JD เท่านั้นแต่ก็มีบริษัทอื่นๆในจีนที่เริ่มใช้หุ่นยนต์ขนส่งในการส่งอาหารและสินค้าด้วยเช่นกัน
2. การสื่อสาร
หลายๆบริษัทยักษ์ใหญ่ตอนนี้รณรงค์ให้ผู้คน Work from home หรือทำงานที่บ้านเพื่อลดการเสี่ยงติดเชื้อระหว่างการเดินทาง และแน่นอนว่าเมื่อต้องทำงานที่บ้าน สิ่งที่ต้องมีตามมาคือการสื่อสารที่ดี บริษัทยักษ์ใหญ่สองเจ้าอย่าง Google และ Cisco ก็ไม่ดูดายในเรื่องนี้ค่ะ
Cisco ประกาศให้คนใช้ CiscoWebex ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับการประชุมออนไลน์ได้ฟรี 90 วัน และเมื่อ Google เห็นแบบนั้นจึงเอาบ้าง อนุญาตให้คนใช้ Feature การประชุมระดับ Enterprise ที่สามารถประชุมได้ถึง 250 คน และเป็น Live ที่คนดูได้ถึง 100,000 คน ให้กับผู้ใช้ G Suite และ G Suite for Education ซึ่งส่วนมากแล้วจะเป็นโรงเรียนและบริษัทอยู่แล้วโดยที่จะเปิดให้ถึง 1 กรกฎาคมนี้เลยทีเดียว!
3. โรงแรม
อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกกระทบอย่างหนัก ในขณะที่ทุกโรงแรมกำลังลดแลกแจกแถมเพื่อให้มีรายได้ มีโรงแรมชื่อ Katsuura hotel mikazuki ในจังหวัดชิบะ ทำสิ่งที่ไม่มีโรงแรมไหนกล้าทำ คือ รับคนญี่ปุ่นจากอู่ฮั่นมาพัก!
ตอนที่รัฐบาลจีนรับคนญี่ปุ่นที่อาศัยในอู่ฮั่นกลับมาที่ประเทศ แน่นอนว่าต้องมีที่พำนักกักตัวให้กับกลุ่มเสี่ยงนี้ และโรงแรมนี้เองที่เป็นที่เสนอตัวช่วยเหลือ โดยเมื่อวันที่ 29 มกราคมคนญี่ปุ่นกว่า 190 คน ได้เข้าพักที่โรงแรมนี้ และแน่นอนว่าโรงแรมไม่รับจองลูกค้าปกติเลยแม้แต่รายเดียว โดยที่ไม่กลัวถูกมองว่าเป็นโรงแรมติดเชื้อหลังจากนี้ด้วย
ผ่านไป 1 เดือน การกักตัวสิ้นสุดลง โรงแรมก็ได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อครั้งใหญ่และเผื่อใจเอาไว้แล้วว่าต้องโดนมองเป็นโรงแรมติดเชื้อแน่ๆ ไม่มีคนจองแน่ๆ แต่กลับกลายเป็นว่ายอดจองล้นหลาม ถล่มทลายจากคนในพื้นที่ และมีคนโทรมาและโพสให้กำลังใจมากมายกับการเสียสละนี้
เรียกได้ว่าเป็นการทำดีไม่หวังผลที่ได้ผลดีทวีมหาศาลเลยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจากเพจ Wa Japan ด้วยนะคะ :)
4. สายการบิน
มีโรงแรมก็ต้องมีสายการบิน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุตสาหกรรมการบินนี้ได้รับผลกระทบตรงๆจาก COVID-19 นอกจากการยกเลิก Flight ปริมาณมหาศาลและบริการการเลื่อนตั๋วของเกือบทุกสายการบิน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ การบินไทยได้ออกมาประกาศว่าจะลดเงินเดือนของระดับผู้บริหารระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่จนถึงผู้อำนวยการลง 15-20% และค่าเดินทาง 20-30% ตั้งแต่ 1 มีนาคมนี้เป็นเวลา 6 เดือนเลยทีเดียว! มาตรการนี้ออกมาเพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนของสายการบินเพื่อตอบรับกับจำนวนรายได้ที่น้อยลง
5. ชานมไข่มุก
อ่านถูกแล้วค่ะ ร้านขายชานมไข่มุกก็มีมาตรการรับมือ COVID เหมือนกัน ร้านนี้อยู่ในเมืองอู่ฮั่นซึ่งร้านเกือบทั้งหมดต้องปิดตัวไปพักใหญ่ๆและร้านชานมนี้ก็เพิ่งกลับมาเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่าคนในเมืองอยากกินชานมไข่มุกมากหลังจากไม่ได้กินมานาน คนต่อคิวยาว 100 เมตร! หนึ่งร้อยเมตรเลยนะคะ! โดยที่ทางร้านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกมาตรการมาว่าทุกคนต้องยืนห่างกัน 1.5 เมตร และ ก่อนซื้อต้องล้างมือด้วยเจลล้างมือก่อน มีการเชคอุณหภูมิร่างกาย และค่าเฉลี่ยในการรอคิวคือ 1-2 ชั่วโมง
รอคิวยืนห่างกัน 1.5 เมตร
6. ห้างสรรพสินค้า
“ตอนนี้ใครๆก็กลัวห้าง” เป็นคำพูดที่จะได้ยินคนพูดอยู่เนืองๆอยู่เสมอๆ และแน่นอนว่าร้านค้าและเจ้าของห้างสรรพสินค้าต้องกระทบแน่นอน เรามาดูกันบ้างดีกว่าค่ะว่าห้างในประเทศไทยของเรามีแคมเปญกระตุ้นและมาตรการรับมือกับอย่างไรบ้าง
เริ่มที่ขาใหญ่ Central ก่อนเลย นอกจากการลดราคาสินค้ากระตุ้นให้คนมาซื้อที่จัดเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยเป็นวันที่ 4 ปีมีครั้ง Central ได้ออกเคมเปญแลก The1Point ซึ่งคือแต้มที่สะสมในบัตรสมาชิก The1Card ของ Central ซึ่งโดยปกติต้องใช้ 800 แต้ม แลกได้เงิน 100 บาท แต่ในวันที่พูดถึงนี้ใช้เพียง 29 แต้มแลกได้ 100 บาท! (แต่จำกัดสิทธิแค่ 20,000 สิทธิทั่วไทย) แต่สิ่งที่ Central ได้คือคนออกจากบ้านไปแลกสิทธิกันแถวยาวเหยียด บางสาขาต้องรอเป็นชั่วโมงและเมื่อคนออกมาแล้วก็ต้องจับจ่าย เป็นการกระตุ้นให้ร้านค้าไปด้วยในตัว
เมื่อร้านค้าในห้างได้รับผลกระทบเพราะคนเดินน้อยลง จึงมีการประท้วงจากผู้เช่าไปที่เจ้าของเพื่อขอลดค่าเช่าโดยที่ห้างที่ได้รับผลกระทบหนักคือห้างที่จับกลุ่มนักท่องเที่ยว เช่น MBK ที่ตัดสินใจลดค่าเช่าให้ผู้เช่าแล้ว 10-20% เป็นเวลา 6 เดือน เอเชียทีคที่ลดค่าเช่าลง 25% และห้างขายเสื้อผ้าขวัญใจคนจีนอย่าง Platinum ก็ลดลงถึง 10-35% เลยทีเดียว
7. ประกันชีวิต
ตอนนี้บริษัทประกันหลายเจ้าก็ได้มีการออกประกันสุขภาพสำหรับ COVID-19 แต่มาดามแป้งแห่งเมืองไทยประกันชีวิตไม่ได้เพียงแต่จะออกประกันชีวิต COVID-19 เท่านั้น แต่ได้มอบกรมธรรม์ให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และพยาบาลของสถาบันบำราศนราดูร โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยที่ถ้าติดเชื้อไวรัส COVID-19 จะได้รับเงินก้อนจ่ายทันที 100,000 บาท และถ้าผู้ป่วยมีอาการโคม่าจะมอบเพิ่มเติมให้อีก 100,000 บาท โดยกรมธรรม์จะคุ้มครองผู้เอาประกันเป็นเวลา 100 วันเพื่อเป็นการขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์
หากใครอยากอ่านว่า รัฐบาลแต่ละประเทศไหนทำอะไรกับเหตุการณ์นี้บ้างสามารถอ่านได้ที่เพจ Facebook รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกหรือกดติดตามเพจใน Blockdit ได้เลยค่ะ :D
โฆษณา