[Review] Pain & Glory (2019) – ด้วยหนังและบาดแผลจากอดีต
ได้รับข่าวสารมาว่า ในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ จะมีหนึ่งในหนังออสก้าร์เข้าชิงปิดท้ายหนึ่งเรื่อง นั่นคือ Jojo Rabbit หนังนาซีต้านสงครามของ ไทก้า ไวติติ ที่ได้รับรางวัลสาขา ภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ตัวผมจึงตั้งตารอคอยเรื่องนี้อย่างทนไม่ไหว แต่ก่อนหน้านั้น หนังอีกเรื่องที่เข้าฉายหลังออสก้าร์ คือหนังที่ได้เข้าชิงออสก้าร์ถึง 2 สาขา นั่นคือ สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม และ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม หนังจากประเทศสเปนอย่าง Pain & Glory หรือในชื่อไทยอย่าง แด่หนัง ชีวิต และความเจ็บปวด
Pain & Glory เล่าเรื่องของผู้กำกับ ฯ ลายคราม ซัลวาดอร์ มัลโล ที่ชีวิตเขาอยู่ในช่วงขาลง ทั้งสุขภาพกายและจิตที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะอาการทางกระดูกสันหลัง ส่งผลให้เขามีอาการนอนไม่หลับและอีกหลายอาการ ทำให้เขาเริ่มหมดไฟและไม่ทำผลงานใหม่ ๆ ออกมา จนกระทั่งมีมือดีหวังจะฉายผลงานในอดีตอันโด่งดังมาฉายใหม่อีกครั้ง นั้นทำให้เขาหวนกลับไปหาอดีตที่เขาต้องกลับไปเผชิญอีกครั้ง
หนังเล่าอย่างเรียบง่ายไม่หวือหวา แต่ตัดสลับเรื่องราวเป็นสองเส้นเรื่อง หนึ่งคือเรื่องราวในอดีตของตัวผู้กำกับ ฯ ของซัลวาดอร์ ที่คอย ๆ บ่งบอกตัวตนของเขา ผนวกกับเส้นเรื่องปัจจุบันของเขาที่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดทางกายและทางจิตใจ เส้นเรื่องที่ราบเรียบ ดูเหมือนจะไร้การปรุงแต่ง แต่ก็เต็มไปด้วยงานฉากและเสื้อผ้าที่ดูฉูดฉาดเอามาก ๆ กระนั้นหนังก็ค่อนข้างเฉพาะทางมาก ๆ อีกทั้งมีบางฉากที่เกี่ยวข้องกับทางเพศที่โจ๋งครึ่มพอสมควร
ข้อดีของหนังคือ มันเป็นเรื่องราวของชายที่เผชิญหน้ากับวิกฤตวัยกลางคนได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งยังถกถึงประเด็นหลายหัวข้อที่น่าพูดถึง ทั้งแง่มุมศิลปะภาพยนตร์และละครเวที ผ่านการนำเสนอในเรื่องราวอย่างมีนัยยะน่าขบคิด ทั้งตัวตนในปัจจุบันที่สะท้อนกับเรื่องราวในอดีตที่กลั้นกรองออกมาเป็นชายคนนี้ ซึ่งต้องชมทางเปโดรที่กำกับและคุมงานออกมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวไม่ให้เมโลดราม่าและดูจับต้องได้จริง ๆ อีกทั้งการแสดงของ อันโตนิโอ แบนเดเรส ที่แม้จะดูเป็นชายแก่ลายครามแต่ก็ยังฉายสเน่ห์และแสดงความน่าเห็นใจให้กับเราได้อยู่หมัด สมกับการชื่อรางวัลออสก้าร์
ส่วนเสียคือ หนังค่อนข้างใช้พลังในการดูเสียเล็กน้อย หากเป็นคอหนังสายแมส อาจตั้งคำถามขณะดู เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ได้เล่าโดยใช้พล็อตหลักที่จับต้องได้เสียเท่าไหร่ นอกเหนือจากเอาชนะความเจ็บปวดอย่างที่ชื่อเรื่องบอก ภาพสะท้อนจากเรื่องราวของซัลวาดอร์ในหนังเปรียบเสมือนตัวตนของเปโดรอย่างเลี่ยงไม่ได้ (ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม) ทำให้เราเหมือนกำลังดูเรื่องราวอันแสนจะส่วนตัวในทุกแง่มุมที่หล่อหลอมมาเป็นเปโดรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และเป็นแง่มุมที่น่าค้นหาเต็มไปด้วยสุนทรียะและการถกเถียงถึงความเป็นศิลปินอย่างคมคาย โดยเฉพาะการเทิดทูนศิลปะภาพยนตร์ได้อย่างมีชั้นเชิง
สรุปแล้ว Pain & Glory คือผลงานอันแสนส่วนตัวของผู้กำกับ ฯ เปโดร อัลโมโดวาร์ บอกเล่าเรื่องราวของชายแก่ที่ต้องผจญกับความเจ็บปวดทางกายและจิตใจ ด้วยท่าทีที่นิ่งเงียบและเรียบเฉย แต่กลับโดดเด่นด้วยความฉูดฉาดของสีสันในฉากและเสื้อผ้าหน้าผม อีกทั้งยังเทิดทูนศิลปะภาพยนตร์ในเรื่องได้อย่างคมคาย
4 / 5
Pain And Glory (2019)
Written & Directed by Pedro Almodóvar
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
