7 มี.ค. 2020 เวลา 01:40 • ข่าว
คงไม่ต้องสงสัยกันแล้วว่ารถยนต์ไฟฟ้ากำลังจะเข้ามาแทนที่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปในอีกไม่นาน เพราะทั้งสมรรถนะที่ดีกว่า + การชาร์จต่อครั้งที่สั้นลงแต่ได้จำนวนระยะทางสูงขึ้นจนใช้เดินทางได้แบบสบาย ๆ (เทสลาโมเดล 3 วิ่งได้ 900 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง)
.
แต่อีกหนึ่งปัญหาที่น่ากังวลคือ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่สั้นและมีราคาสูง การเปลี่ยนแบต 1 ครั้ง ก็แทบจะออกรถใหม่ได้อีกคัน แต่ล่าสุดดูเหมือนปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ
.
1. นักวิจัยจาก Penn State's Battery and Energy Storage Technology (BEST) ระบุว่าพวกเขาสร้างแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่ที่มีอายุการใช้งานคิดเป็นระยะทางได้ไกลถึง 1 ล้านไมล์ หรือ 1.6 ล้านกิโลเมตร โดยที่แทบจะไม่มีการเสื่อมสภาพเลยสำเร็จแล้ว
.
2. ปกติแล้วแบตเตอรี่ลิเทียม ไอออน (Lithium-ion) เมื่อมีความหนาแน่นของพลังงานมากเกินไป หรือร้อนเกินไปมันจะติดไฟและทำให้ระเบิดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องการให้เกิดขึ้น แต่นักวิจัยจาก BEST กลับพยายามทำตรงกันข้ามโดยการทำให้แบตแบบใหม่ร้อน เพื่อให้มันเสถียร ทนทานและมีอายุการใช้งานยืนยาว
.
3. การพัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ขั้น ขั้นแรกนักวิจัยเลือกใช้วัสดุที่มีความเสถียรสูงมาผลิตแบตฯ ขั้นที่ 2 ก็คือการทำให้แบตมีพลังงานสูงขึ้น ซึ่งพวกเขาก็ทำได้โดยการให้ความร้อนกับแบตฯ
.
4. ถึงจะฟังดูประหลาดเพราะแบตฯ กับความร้อนเป็นสิ่งที่เข้ากันไม่ได้อย่างแรง แต่หากใช้วัสดุที่ถูกต้องมันจะไม่เกิดอันตรายและยังทำให้ปฏิกิริยาเคมีของแบตเตอรี่ทรงพลังมากขึ้น นอกจากนั้นมันยังทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ดีในสภาพอากาศร้อนอีกด้วย
.
5. แบตเตอรี่ชนิดนี้ยังไม่มีชื่อเรียกในทางการตลาด แต่มันถูกเรียกในงานวิจัยว่า safe and energy-dense battery (SEB) หรือแปลไทยแบบตรง ๆ ก็คือ แบตเตอรี่พลังงานหนาแน่นและปลอดภัย ซึ่งนอกจากเรื่องพลังงานและความปลอดภัยตามชื่อของมันแล้ว อายุการใช้งานของ SEB ก็สูงมาก สามารถชาร์จซ้ำได้มากกว่าแบตเตอรี่แบบ LIBs และ EEIs หลายเท่า เมื่อคิดเป็นระยะทางเมื่อนำไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าจะเท่ากับ 1 ล้านไมล์
.
6. ระยะใช้งานของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปทั่วไปจะมีการรับประกันอยู่ที่ 1 แสนกิโลเมตร แต่เครื่องยนต์จะเริ่มเสื่อมสภาพที่ระยะเกิน 5 แสนกิโลเมตร นั่นหมายความว่าแบตเตอรี่แบบ SEB จะมีระยะการใช้งานมากกว่าเครื่องยนต์ของรถทั่วไปถึง 3 เท่า และที่สำคัญก็คือค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ามาก
.
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือหนึ่งในนักวิจัยของโครงการนี้ คือ Chao-Yang Wang ก็เคยทำวิจัยให้กับบริษัทเทสลา ของ อีลอนมัสก์ มาแล้ว นั่นหมายความว่าในอีกไม่กี่ปี หรือเผลอ ๆ จะภายในปีนี้เราอาจได้เห็นรถเทสลาซีรีส์ใหม่ที่ใช้แบตเตอรี่ SEB ออกมาก็เป็นได้ครับ
#Fact
รถยนต์ไฟฟ้า เคยได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 19 เนื่องจากในสมัยนั้นรถยนต์แบบเครื่องยนต์สันดาปใช้งานยาก และต้องการการบำรุงรักษาสูง ในขณะที่รถไฟฟ้าขับง่ายกว่าเนื่องจากใช้แค่มอเตอร์ในการขับเคลื่อนเท่านั้น
อ้างอิง (Ref.)
โฆษณา