8 มี.ค. 2020 เวลา 03:56 • บันเทิง
The Invisible Man
วายร้ายสายพันธุ์ใหม่
“มนุษย์ล่องหน” ผลงานเขียนบท กำกับและควบคุมงานสร้างโดย “ลีห์ วันเนล” กับเรื่องราวสุดพิลึกพิลั่นของหญิงสาวที่ต้องการปลดแอกตัวเองจากสามีจอมบงการ นำแสดงโดย “อลิซาเบธ มอส”
เป็นการสร้างตัวร้ายที่ครีเอทมาก ทำเอาภาพซุปเปอร์ฮีโร่ในหัวหายวับไปเลย
แค่เห็นตัวอย่างหนังก็น่าสนใจแล้ว ใครจะคิดว่า “มนุษย์ล่องหน” ที่เราเคยเห็นว่าเป็น “ซุปเปอร์ฮีโร่” และคิดว่าเป็นข้อได้เปรียบมาตลอดจะร้ายกาจขนาดนี้...
แวบแรกที่ดู “The Invisible Man” เราแอบคิดถึง “Enough” (2002) ภาพยนตร์เก่าที่นำแสดงโดย “เจนนิเฟอร์ โลเปซ” เรื่องราวการดิ้นรนต่อสู้ของผู้หญิงคนหนึ่ง (ในฐานะแม่) ให้หลุดพ้นจากสามีจอมเจ้าชู้และชอบใช้ความรุนแรง เพราะสองเรื่องนี้มีองค์ประกอบที่คล้ายๆกัน แต่ที่ “The Invisible Man” โมเดิร์นกว่าก็คือตัวร้าย ซึ่งก็คือ “สามี” นั้นไม่ใช่แค่ผู้ชายรวยๆที่ชอบใช้อำนาจทางเพศและสถานะทางสังคมกดขี่ภรรยาแต่เขามี “นวัตกรรม” สุดพิเศษในมือด้วย
และใช่ค่ะ “นวัตกรรม” ของคุณสามีที่ว่าก็คือการเป็น “มนุษย์ล่องหน” รวมทั้งมันสมองของจอมบงการจะสร้างเรื่องสร้างราวปั่นหัว “ภรรยา” ได้ แต่จะสำเร็จหรือเปล่านั้นคุณผู้อ่านคงต้องไปตามลุ้นกัน
จุดเด่นสุด นอกจากจังหวะกระตุก(นรก) ที่ทำให้ลุ้น(จิกเบาะที่นั่ง)ตลอดทั้งเรื่อง คงต้องยกให้การแสดงของตัวเอกอย่าง “อลิซาเบธ มอส” ที่รับบทเป็น “เซซิเลีย” หญิงสาวผู้โชคร้ายที่โดนสามี (โอลิเวอร์ แจ็คสัน-โคเฮน) กดขี่ข่มเหงจนต้องหาทางปลดแอก
ตัวละคร “เซซิเลีย” เป็นตัวละครที่น่าสนใจ เพราะท่ามกลางความหวาดผวา(ต่อสามี)อย่างหนัก แต่เธอกลับมีความกล้า(อย่างประหลาด)ที่จะต่อกรกับเขา
เอาจริงๆเราไม่ค่อยแน่ใจพฤติกรรมคุณสามีหรือ “เอเดรียน” นัก เพราะนอกจากฉากแรกที่เขาทุบกระจกรถ (ซึ่งคนที่เคยดูตัวอย่างหนังน่าจะเห็นแล้ว) เราก็แทบไม่ได้เห็นหน้าเขาอีก แต่เราได้รู้จักเขาผ่านมุมมองของ “เซซิเลีย” ที่พยายามอย่างมากจะบอกทุกคนรอบตัวว่าสามีของเธอยังไม่ตายและเฝ้ามองเธออยู่!!!
“เอเดรียน” สามีของ “เซซิเลีย” เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการผลิตอุปกรณ์ประเภทเลนส์ ในบ้านของเขาที่เราได้เห็นในเรื่อง นอกจากเฟอร์นิเจอร์หรูหรามีระดับ แสดงถึงฐานะที่ร่ำรวย เขายังมีห้องทดลองในบ้าน และแน่นอนว่าภรรยาอย่าง “เซซิเลีย” ก็สามารถเข้ารหัสห้องนี้ได้จนกระท่ังได้รู้ความลับสุดยอดของเขา
เชื่อว่าหลายคนคงเดาได้ไม่ยากต่อจากนี้ แต่วิธีปรากฏตัวหรือที่เราอยากเรียกว่าวิธี “รังควาน” ของ “มนุษย์ล่องหน” หรืออีกนัยยะนึงก็คือ “สามี” ของเซซิเลียนั้นน่าสนใจมาก คือ...มันไม่ได้มีเลือดสาดหรือเต็มไปด้วยเสียงหวีดร้องเหมือนหนังกระตุกขวัญยุคก่อน แต่มันเป็นการแสดงท่าทางแบบ “มินิมอล” ท่ีเขย่าประสาทเราได้ไม่น้อยเช่นกัน ส่วนตัวคิดว่าจุดนี้คือดีมาก
การรังควานของ “มนุษย์ล่องหน” หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ “เซซิเลีย” ต้องกลายเป็นคนบ้าและฆาตกรที่ถูกดำเนินคดีจนหมดอนาคต แต่แล้วจู่ๆเกมก็พลิกเมื่อเกิดบางสิ่งบางอย่างกับเธอ
จุดเปลี่ยนของเซซิเลียเริ่มจากจุดนี้ สัญชาตญาณบางอย่างผลักดันให้เธอเดินหน้าต่อกรกับเอเดรียนเพื่อปลดแอกตัวเอง และความสนุก(ที่สุด)ของเรื่องก็อยู่ตรงนี้เอง...อะไรก็เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงที่ถูกกดดันและกำลังจะกลายเป็นหมาจนตรอก
เรื่องนี้ตัวเอกที่โดนกระทำอย่าง “เซซิเลีย” ไม่ได้ไปพัฒนาสกิลอย่าง “เจโล” จากเรื่อง “Enough” ที่ต้องการยืนหยัดสู้กับสามีที่ชอบซ้อมเธอกับลูก แต่เซซิเลียใช้มันสมองสถาปนิกที่แสนฉลาดหลอกล่อให้ “เอเดรียน” หรือสามีจอมบงการของเธอเผยธาตุแท้ของตัวเอง
แต่ที่มันแสบสันกว่านั้นคือนอกจากจะเอาคืนด้วยการแฉสามีตัวเองแล้ว เธอยังล้างแค้นให้เขากระอักตายด้วย ซึ่งก็ใช่ว่าหนทางของเธอทำได้ง่ายๆ เพราะ “มนุษย์ล่องหน” ของเรานั้นไม่ธรรมดา อัพสเกลจากแค่ “Stalker” หรือพวกโรคจิตแอบตามที่มองเห็นตัวง่ายๆเป็นเหมือนบางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นและปั่นประสาทให้เซซิเลียกลายเป็นคนบ้า ทำเอาเราหลอนและเริ่มตระหนักอย่างจริงจังกับเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆว่าจริงๆแล้วมันก็มีโทษไม่น้อยไปกว่าคุณเลย
เอาเป็นว่าหนังดูสนุกและกระตุกขวัญมาก คงเป็นเพราะจังหวะเล่าเรื่องดี ใครที่ชอบความแปลกใหม่และอยากลับสมองก็ลองมาเดากันเล่นๆดูว่า “เซซิเลีย” จะเอาตัวรอดจากสามีจอมวายร้ายได้ด้วยวิธีไหน
#แอบสปอยล์
โฆษณา