9 มี.ค. 2020 เวลา 04:57
01 'ขนนกขาว' ต้นไม้มหัศจรรย์ดังปีกเทพธิดา
I. หลายคนคงรู้จักกับกระบองเพชรในหลายสายพันธุ์ เมื่อกล่าวถึงกระบองเพชรเรามักจะนึกถึงต้นไม้ที่มีลักษณะเป็นก้อนอวบน้ำ ทั่วลำต้นปกคลุมไปด้วยหนามที่พร้อมจะตำนิ้วมือเมื่อต้นของมันถูกสัมผัส หนามที่เราเห็นนั้นแท้ที่จริงก็คือใบของพืชที่ปรับตัวเพื่อลดการคายน้ำเพื่อความอยู่รอดในพื้นที่แห้งแล้ง อันเป็นถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของมัน นั่นคือ ทวีปอเมริกา และในเขตทะเลทราย แต่ในบางชนิดพันธุ์ได้เปลี่ยนแปลงใบของตนให้มีลักษณะอื่นๆแทนหนามแหลม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Mammillaria Plumosa หรือ ที่เรียกกันว่า
"แมม. ขนนกขาว" นั่นเอง
II. คำว่า "Mammillaria" อ่านว่า แมม - มิล - ลา - เรีย ใช้เรียกกระบองเพชรสายพันธุ์หนึ่ง ที่มีลักษณะเด่นตรงที่หนาม และ ขน ที่ปกคลุมต้น เป็นสายพันธุ์ที่ชอบแสงแดดได้ทั้งพรางแสงน้อยกว่า 50% จนถึงรับแสงแดดเต็มวันได้เมื่อต้นไม้ได้ปรับตัวเต็มที่ แถมชอบน้ำพอสมควร ดินปลูกต้องโปร่ง และระบายน้ำได้เป็นอย่างดี
ส่วนคำว่า "Plumosa" อ่านว่า พลู - โม - ซ่า เป็นภาษาญี่ปุ่น แปลว่า สีขาวแห้งๆ ซึ่งอุปมาอุปไมยเจ้าPlumosa นี้เป็นดาวสีขาว ตามลักษณะของตุ่มขน แต่ด้วยความที่ขนของมันมีความแห้งและมีแฉกละเอียดคล้ายขนนกสีขาว คนไทยก็เลยให้ชื่อและความหมายของ Mammillaria Plumosa ว่า " ขนนกขาว " นั่นเอง
1
III. ด้วยลักษณะพิเศษของใบที่เปลี่ยนเป็นขนนกนี้ จึงสามารถเก็บความชื้นและหยดน้ำลงสู่โคนต้นได้เป็นอย่างดี ขนนกขาวนี้ยังแบ่งประเภทตามลักษณะของขน และฟอร์มของตุ่มหนามได้อีก อาทิ
ขนนกขาวขนยาว : มีขนที่ยาวและฟูกว่าปกติ
ขนนกขาวขนร่มหุบ หรือ เจลลี่ฟิช : ขนมีลักษณะเหมือนร่มหุบ หรือ แมงกระพรุน
ขนนกขาวตุ่มหนามเวียน : มีตุ่มหนามที่เห็นทิศทางการแตกยอดที่เวียนเป็นเส้นจากบนลงล่างชัดเจน
ขนนกขาวญี่ปุ่น : สายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นมาในประเทศญี่ปุ่น มีความขาวและทรงกลมเหมือนซาลาเปา แถมขนหนาดูเป็นปุยกว่าเล็กน้อย
และสายพันธุ์อื่นๆอีกมากมาย
ส่วนที่นิยมในกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงมากที่สุด ได้แก่
" ขนนกขาวสายพันธุ์ญี่ปุ่น ดอกสีชมพู "
1
IV. แมม.ขนนกขาว ออกดอกในช่วงปลายฤดูหนาว จนถึงราวๆต้นฤดูร้อน ( ธันวาคม - มีนาคม) และบ่อยครั้งที่เราจะเห็นดอกของมันเบ่งบานหลงฤดูบ้างในช่วงที่ลมหนาวพัดผ่าน ดอกไม้ดอกเล็กๆจะผลิบานเหนือตุ่มหนามเล็กน้อย มักออกดอกพร้อมกันทีละหลายๆดอก กลีบดอกเล็กๆทั้งปลายแหลม ปลายมน บ้างเป็นกลีบเดี่ยว และกลีบซ้อน บ้างกลีบดอกมีลักษณะแตกกลีบแฉกออกไปเป็นฝอนเล็กๆ มีทั้งสีขาวนวล สีเหลืองอ่อน สีชมพู มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เกสรดอกมีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียในดอกเดียวกัน สามารถติดฝักได้เอง แต่โอกาสติดฝักน้อยและเมล็ดคุณภาพต่ำ เมื่อทดลองเปรียบเทียบกับการผสมพันธุ์ข้ามดอก หรือ ข้ามต้น
V. การขยายพันธุ์
>> ชำหน่อ
โดยปรกติแล้ว เจ้าขนนกขาวส่วนมาก จะแตกกอเมื่อต้นหลักสมบูรณ์ อาจจะมีขนาดตั้งแต่ 3 - 10 เซนติเมตร โดยจะมีหน่อเล็กๆออกบริเวณโคนต้น เมื่อหน่อโตได้ที่ขนาดประมาณ 1 - 2 เซนติเมตร สามารถเด็ดออกจากต้นแม่ หรือให้คัทเตอร์คมๆ ปาดแยกหน่อออกมาพักให้น้ำยางเหนียวๆแห้งเสียก่อน สัก 3 -7 วัน ก่อนจะนำไปชำลงดินต่อ เพื่อให้รากงอกต่อไป
>>เพาะเมล็ด
หลังจากเกสรตัวเมียได้รับการผสมพันธุ์จากละอองเกสรตัวผู้ ดอกก็จะเฉาและใช้เวลาราวๆ 1 เดือน จึงเห็นฝักเป็นผลสีเหลืองอมชมพูอ่อน งอกออกมาตรงดอกที่เฉาไปแล้ว กรีดดูจะเห็นเมล็ดสีดำเล็กๆหลายสิบเมล็ดอยู่ข้างใน นำไปร่อนในกระชอนตาถี่ล้างให้น้ำยางออก แล้วผึ่งให้แห้งสัก 7-10 วัน จึงนำไปเพาะกับพีทมอส รักษาความชุ่มชื้นเอาไว้ เมล็ดจึงจะงอกภายใน 2 สัปดาห์
VI. ด้วยความน่ารัก น่าทะนุถนอมของเจ้าขนนกขาวนี้ จึงเป็นที่นิยมของนักปลูกเลี้ยงกระบองเพชรทั้งมือใหม่ มือเก่า ตลอดจนผู้พบเห็น กลีบหนามสีขาวสะอาดชวนมอง ดูเเล้วให้นึกถึงปีกของนางฟ้าตัวน้อยๆที่กำลังกางปีกโบยบิน บ่อยครั้งที่เจ้าพลูโมซ่า ได้ทำหน้าที่เป็นของขวัญแทนใจให้กับคนพิเศษในหลายๆโอกาส แทนคำอวยพร และเป็นความสุขใจให้ทั้งผู้ให้และผู้รับได้อย่างน่าอัศจรรย์ ..
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการปลูกต้นไม้นะครับ
เมลมีไม้
09 มีนาคม 2563
โฆษณา