9 มี.ค. 2020 เวลา 20:35 • ประวัติศาสตร์
ทัชมาฮัล♥️แสงแรกแห่งรักลุ่มแม่น้ำยมุนา
ทัชมาฮาล” สถาปัตยกรรมแห่งความรัก 😍🕌
1
ความสวยงามหลังความตายที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความรัก
สิ่งปลูกสร้างที่ได้ชื่อว่าเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 🌍
ริมฝั่งแม่น้ำยมุนาทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดียไกลจากกรุงนิวเดลีราว 200 กิโลเมตร คือที่ตั้งของอดีตเมืองหลวงในยุครุ่งเรืองแห่งจักรวรรดิโมกุลก่อนที่จะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ภายใต้การปกครองของราชวงศ์โมกุลซึ่งได้แผ่ขยายอาณาจักรใต้ปกครองออกไปกว้างไกลทั่วฮินดูสถาน “อัครา (Agra)” คือ ศูนย์กลางแห่งการปกครองและบ่มเพาะทางศิลปวัฒนธรรมที่ซึ่งนักปราชญ์และศิลปินได้รับการสนับสนุน และเป็นแหล่งกำเนิดของสถาปัตยกรรมแบบโมกุลชิ้นเอกซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อนุสรณ์สถานแห่งรักที่เป็นภาพจำ สัญลักษณ์ และความภาคภูมิใจของอินเดีย “ทัช มาฮาล (Taj Mahal)”
1
แสงอรุณที่ทัชมาฮาลwekipedia.org
ทัชมาฮาล สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิโมกุลผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ เจ้าชายขุร์รัม ชึ่งต่อมาคือสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชหาน พระราชสมภพในปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) พระบิดา คือ จักรพรรดิ ชาห์ ชหานชีร์ จักรพรรดิองค์ที่สี่แห่งราชวงศ์โมกุล แห่งอินเดีย ตามตำนานกล่าวว่า เจ้าชายขุร์รัม ได้พบกับอรชุมันท์ พานุ เพคุม ธิดาของรัฐมนตรี เมื่อพระองค์ มีพระชนมายุ 14 พรรษา พระองค์ทรงหลงใหลและหลงรักนาง เจ้าชายขุร์รัมจึงซื้อเพชรด้วยเงิน 10,000 รูปีและบอกแก่พระบิดาของพระองค์ว่าพระองค์มีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับบุตรสาวของรัฐมนตรี พิธีอภิเษกถูกจัดขึ้นหลังจากนั้น 5 ปี ในปี พ.ศ. 2155 (ค.ศ. 1612) จากนั้นมาทั้งสองก็มิเคยอยู่ห่างกันอีกเลย
มุมทัชมาฮาล pixzabay
มุมทัชมาฮาล ตามประวัติเล่าว่า มุมทัชมาฮาล เป็นผู้หญิงที่งดงามมีเสห่น์ที่สุดในโลก นามเดิมว่า อรชุมันต์พานุเพคุม เป็นบุตรของท่านอสัฟข่าน มารดาชื่อ ทิจันเบคุม อสัฟข่าน มุมทัชมาฮาล เกิดเมื่อ ค.ศ. 1592 เธอสนใจวิชาวรรณคดี ถนัดวิชาวาดเขียนและดนตรีมาก ได้สมรสกับชาห์ชะฮาน ขณะที่เธออายุ 19 ปี อยู่กินกันถึง 18 ปี มีบุตรชาย 8 คน บุตรหญิง 9 คน แต่มีชีวิตอยู่เพียง 5 คน
หลังจากที่พระเจ้าชาห์ ชหาน ขึ้นครองราชบัลลังก์ในปี พ.ศ. 2171 พระองค์มอบความไว้วางใจแก่ อรชุมันท์ พานุ เพคุม และเรียกนางว่า มุมทัช มาฮาล “อัญมณีแห่งราชวัง” พระมเหสีติดตามพระองค์แม้แต่ในสนามรบ แนะนำพระองค์ในเรื่องราชการของประเทศ และพระองค์ซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระมเหสียิ่งนัก มุมทัชมาฮาล จูงใจให้กษัตริย์ชาห์ ชหานบังเกิดความรัก ความเมตตา โดยการช่วยเหลือคนยากจน คนพิการ และคนที่ประสบความทุกข์ลำบาก ซึ่งคุณสมบัตินี้ ทำให้กษัตริย์ชาห์ ชหานรักเธอ ตรึงใจในเธอ ตรึงใจในเธอมิรู้ลืม
ครั้นในปี พ.ศ. 2174 (ค.ศ. 1631) พระมเหสีมุมทัชมาฮาลสิ้นพระชนม์ หลังจากให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14
1
วาระสุดท้ายที่มุมทัชมาฮาน มเหสีสุดที่รักของกษัตริย์ชาน์ ชหานจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ กษัตริย์ชาห์ช
หานยกทัพไปปราบกบฏข่านชะหานโลดีที่เดกคาน โดยมีมุมทัชมาฮาลติดตามไปให้กำลังใจสามีด้วย ทั้งๆที่เธอตั้งท้องแก่เมื่อกษัตริย์ชาห์ ชหานปราบกบฏราบคาบแล้ว ก็กลับเมืองมุระหันปุระ มุมทัชมาฮาลเจ็บท้องคลอดลูกคนสุดท้ายเธอถึงแก่กรรมลงขณะคลอดลูกสาวคนสุดท้องชื่อ เกาษะนารา
พอเธอคลอดแล้วเธอตกเลือดมาก อยู่เพียงชั่งโมงเดียวก็สิ้นใจในอ้อมกอดของกษัตริย์ชาห์ ชหาน ก่อนที่มุมทัชมาฮาลจะสิ้นใจเธอได้ขอร้องสามี 2 ข้อด้วยกัน คือ อย่าให้กษัตริย์ ชาห์ชหานมีภรรยาใหม่ และขอให้กษัตริย์ชาห์ ชหานสร้างอนุสาวรีย์ที่ฝั่งศพของเธอให้งดงาม เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกให้ได้ กษัตริย์ชาห์ ชหานรับปากที่จะปฏิบัติตามทุกอย่าง เยี่ยงสามีที่รักภรรยาอย่างสุดชีวิตทั้งหลายตลอดเวลา 18 ปี มุมทัชมาฮาล เป็นภรรยาที่แสนประเสริฐ
ตามตำนานกล่าวว่า พระองค์ทั้ง 2 ได้ร่ำลากัน มีบทสนทนากล่าวว่า
1
พระองค์ทรงรักหม่อมฉันมากไหมเพคะ
แน่นอนเราไม่เคยรักใครเท่าเจ้าเลย
คือคำตอบของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
ที่รักเจ้าต้องการให้เราทำอะไรเพื่อเจ้า
แม้นางจะรู้ว่าตัวเองกำลังจะจากไปแต่ก็ยังคงตรัสตอบไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า
หม่อมฉันขอเพียงอย่างเดียวคือขอพระองค์บอกชาวโลกว่าพระองค์ทรงรักหม่อมฉันอย่างไรและมากขนาดไหน
ในครั้งแรกศพของมุมทัชมาฮาลฝังไว้ที่เมืองมุระหันปุระ เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายไปสู่นครอัคระ จนกระทั่งต่อมาอีก 6 เดือน กษัตริย์ชาห์ ชหานได้สั่งให้เคลื่อนย้ายศพของเธอไปบรรจุไว้ที่หลุมฝั่งศพในสวนราชาฃัยสิงห์ แห่งนครอัคระ โดยสร้างศาลาชั่วคราวไว้เหนือหลุมศพ
เล่ากันว่า ในวันเคลื่อนศพมุมทัชมาฮาลมายังนครอัคระนี้ ได้จัดริ้วขบวนเกียรติยศยิ่งใหญ่มาก เจ้าชายสุชาโอรสองค์ที่สองของกษัตริย์ชาห์ ชหาน นำขบวนประยูรญาติเดินตาม
พระศพ มีการโปรยทานตลอดทาง นับตั้งแต่มุมทัชมาฮาลสิ้นชีวิต กษัตริย์ชาห์ ชหานหมกมุ่นอยู่ในความทุกข์ตลอดเวลา มิได้ยิ้ม มิได้หัวเราะ โดยเฉพาะมิได้สนใจต่อร่างกาย ปล่อยเนื้อปล่อยตัว จนผมดำกลายเป็นผมขาวทั้งศีรษะ
ทุกวันกษัตริย์ชาน์ช หานนุ่งขาวห่มขาว ไปนั่งรำพันถึงมุมทัชมาฮาลข้างหลุมศพ บางครั้งกอดหลุมศพรำพันอย่างเสียสติ กษัตริย์ชาห์ ชหาน ได้โปรดนำเงินหนึ่งแสนรูปีออกทำบุญแผ่กุศลแก่มุมทัชมาฮาล จากที่เธอจากไปเป็นเวลา 3 ปี ในปี ค.ศ. 1631 กษัตริย์ชาห์ ชหานโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์ใหญ่ เป็นที่ฝั่งศพของมุมทัชมาฮาล โดยเลือกบริเวณฝั่งขวาแม่น้ำยมนา ตอนโค้งที่สวยงามและเหมาะที่สุด โดยที่นี่เดิมเป็นสวนของขุนนางผู้ใหญ่หลายท่าน
2
แม้ว่าจิตใจของพระเจ้าชาห์ ชหานจะยังบอบช้ำ แต่เพื่อทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ การก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคจึงเริ่มต้นขึ้น สถาปนิกเอกจากอินเดีย ตุรกี และเปอร์เซียได้รับเชิญให้มาร่วมทีมเพื่อรังสรรค์ให้อนุสรณ์สถานแทนรักนิรันดร์บนพื้นที่ 105 ไร่ บริเวณริมฝั่งโค้งของแม่น้ำยมุนาซึ่งให้ทัศนภาพที่สวยงามที่สุดนั้นสมบูรณ์แบบที่สุด
1
จุดเด่นของอนุสรณ์สถานแห่งนี้คืออาคารโดมสีขาวซึ่งเป็นสุสานของพระมเหสี ก่อสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวทั้งหมดราวกับสรวงสวรรค์ ในขณะที่สถาปัตยกรรมอื่นๆ บริเวณรอบสุสานอย่างมัสยิดและประตูทางเข้า (Darwaza-I rauza) ด้านหน้าสร้างด้วยหินทรายสีแดง วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างล้วนมาจากแหล่งที่ดีที่สุด โดยเฉพาะหินอ่อนสีขาวจากเมืองมาครานา ในแคว้นราชสถานซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหินอ่อนที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก ด้วยเนื้อหินที่มีความแข็งและสีขาวนวลเปล่งประกายสวยงามซึ่งราชสำนักสงวนไว้เพื่อใช้สำหรับสิ่งก่อสร้างสำคัญ หินอ่อนสีแดงนำมาจากเมืองฟาตีบุระ หินอ่อนสีเหลืองจากฝั่งแม่น้ำนรภัทฑ์ นอกจากนี้ อัญมณีและหินมีค่าซึ่งใช้ในงานตกแต่งก็มาจากทั่วทุกสารทิศ อาทิ โมราจากรัฐปัญจาบ เพชรตาแมวจากกรุงแบกแดด ลาพิส ลาซูลีจากอัฟกานิสถาน แซฟไฟร์จากศรีลังกา เทอร์ควอยซ์จากธิเบต หยกและคริสตัลจากจีน ปะการังและหอยมุกจากมหาสมุทรอินเดีย ฯลฯ วัสดุถูกขนส่งด้วยช้างมากกว่าหนึ่งพันเชือก และก่อสร้างด้วยแรงงานทั้งหมดมากกว่า 20,000 ชีวิต
มีการบันทึกไว้ว่า ในช่วงเวลา 22 ปีของการก่อสร้าง บริเวณรอบเขตราชสำนักเต็มไปด้วยช่างอิฐ ช่างตัดหิน ช่างฝีมือ ช่างแกะสลัก และผู้ประดิษฐ์อักษรจารึกที่ทำงานกันอย่างรีบเร่ง “ทัช มาฮาล” หรือ “มงกุฎแห่งพระราชวัง” กลายเป็นความสนใจทั้งหมดของชาห์ ชหาน ผู้ซึ่งชื่นชอบและสนับสนุนงานด้านสถาปัตยกรรมเป็นทุนเดิม ราชสมบัติส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการก่อสร้างคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5 แสนเหรียญสหรัฐฯ หลากหลายตำนานยังเล่าต่อกันมาอีกว่า หลังจากทัช มาฮาลสำเร็จสมบูรณ์ในปี 1653 ชาห์ ชหานได้ให้นายช่างและสถาปนิกทำสัญญา (บางตำนานเล่าว่าถูกประหารชีวิตหรือตัดมือ) เพื่อไม่ให้สร้างสิ่งก่อสร้างใดๆ ที่ยิ่งใหญ่และงดงามไปกว่าทัช มาฮาล อีกเลย
pixzabay
ความงดงามของทัชมาฮาลที่ตราตรึงอยู่ในใจคนทั้งโลก จึงไม่ใช่เพียงสถาปัตยกรรมที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า หากยังรวมถึงเรื่องราวการแสดงออกถึงความรักอันมั่นคงบนความไม่แน่นอนของชีวิตที่แฝงอยู่เบื้องหลัง และความรักเดียวกันนี้เองที่นำไปสู่คำมั่นสัญญาซึ่งต้องแลกมาด้วยปากท้องและหยาดเหงื่อของชีวิตอื่นๆ อีกมากมาย
ราชสมบัติส่วนใหญ่สูญเสียไปเพื่อการสร้างอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์
2
เมื่อความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนที่สุดบนโลกใบนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากสิ่งที่เรียกว่า “คำมั่นสัญญา” จะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวของมนุษย์ที่ตกอยู่ในห้วงรัก ทัชมาฮาลเป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องเเจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้ ส่วนหัวของทัชมาฮาลมีลักษณะโดมที่เรียกว่าโอเนียนโดม
1
แต่ในช่วงสุดท้ายของพระองค์ก็ไม่ได้พบกับความสุขเพราะต่อมาในปีคริสต์ศักราช 1658 ลูกชายของพระองค์คือพระโอรสโอรังเซบจับพระเจ้าชาห์ชหานขังและขึ้นครองราชบัลลังก์แทนเหตุเพราะมองว่าพระบิดาใช้เงินและคนมากเกินไปพระโอรสจับพระบิดาถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปีในสถานที่ชื่อว่าปราสาทหินแดงหรือป้อมอัครา
ป้อมอัคราpixzabay
(Agra Fort),, ที่พระบิดาของตนเป็นผู้สร้างขึ้นเองเพื่อพระองค์สามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้ชัด
จนกระทั่งสวรรคตในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระเจ้าชาห์ ชหานถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าพระเจ้าชาห์ ชหาน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมทัช มาฮาล
เทิดทูนความรักของ2พระองค์ซึ่งในยุคปัจจุบันหาไม่ได้แล้ว
ชอบกดติดตามกดไลท์กดแชร์กดติดตามเพจเจเจ้มีสาระด้วยนะคะขอบคุณค่ะ
บันทึกสิ่งมหัศจรรย์7สิ่งของโลก
โฆษณา