ในเดือนมีนาคม ค.ศ.1858 ชาร์ลส์ ดาร์วินได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง ที่ถูกส่งมาจากแถบหมู่เกาะมาเลย์ ภายในจดหมายมีรายงาน ชื่อว่า On the Tendency of Varieties to depart indefinitely from the original Type หรือแนวโน้วของสรรพชีวิตในการเปลี่ยนแปลงจากต้นแบบดั้งเดิม
เดือนกรกฎาคม ในปี ค.ศ.1858 งานเขียนของวอลเลซไดรับการ เสนอต่อ สมาคม The Linnean Society of London พร้อมกับบทความที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน ซึ่งเอกสารของทั้ง 2 ท่าน ต่อมารับการตีพิมพ์ลงใน Linnean society journal ในปีนั้นเอง โดยบทความของดาร์วินถูกจัดลำดับให้อยู่ก่อนบทความของ วอลเลซ ทำให้ผู้คนให้ความสนใจต่อบทความของดาร์วินมากกว่าของวอลเลซ
3
ในเวลาต่อมาดาร์วินได้รีบปรับแต่งทฤษฎีของเขาอย่างกระตือรือร้น และรีบตีพิมพ์หนังสือ On the Origin of species หรือกำเนิดของสิ่งมีชีวิต ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้รับความชื่นชมจากวอลเลซเป็นอย่างมาก
และได้มีโอกาศได้อ่านหนังสือ ของ Alexander Von Humboldt ชื่อ Personal Narrative of travel ....ซึ่งเป็นหนังสือบอกเล่าเรื่องการเดินทางส่วนตัวของฮัมโบลดท์ และหนังสือเรื่องความเรียงว่าด้วยเรื่องหลักการประชากร(An essay on the princess of population) ของ Thomas Malthus ซึ่งหนังสือทั้งสองเล่มนี้ ล้วนช่วยจุดประกายแนวคิดต่อวอลเลซ(และต่อดาร์วินด้วยเช่นกัน)
(ซ้าย) 1ในหนังสือดีที่จุดประกายให้วอลเลซและทั้งดาร์วิน อยากออกสำรวจสิ่งมีชีวิตไปยังดินแดนต่างๆ/(ขวา)-รูปของผู้แต่งหนังสือ Alexander Von Humboldt นักวิทยาศาตร์และนักเดินทาง ชาวเยอรมัน(cr:wikipedia)
นอกจากนั้นยังมีหนังสืออีก 2 เล่มที่ทำให้วอลเลซค้นพบความชอบในตัวเอง คือหนังสือที่ชื่อ บันทึกการเดินทางของเรือบีเกิล(The voyage of H.M.S.Beagle)เขียนโดยชาร์ลส์ ดาร์วินและหนังร่องรอยการสรรสร้างทางธรรมชาติวิทยา(Vestiges The Natural History Creation ) โดยหนังสือทั้งสองเล่มนี้ได้นำเสนอมุมมองด้านวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก โดยตั้งสมมุติฐานว่าด้วยกฏแห่งการพัฒนาในสิ่งมีชีวิต
หนังสือ The voyage of H.M.S. Beagle ของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน(cr:wikipedia)