“ การซื้อหุ้นในยามวิกฤติ “
เราจะรู้ ได้อย่างไรว่า ควรซื้อหุ้นที่จุดไหน ?
เราควรทำใจอย่างไร เมื่อหุ้นที่ซื้อนั้น ลงต่อ ?
เราจะมีกลยุทธ์ในการลงทุน ยามวิกฤต อย่างไร?
เมื่อวิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด ล้วนกระทบต่อภาค real sector และตลาดหุ้น
วิกฤติเศรษฐกิจ แบ่งเป็น 2 แบบหลักๆ คือ
1. Major Crisis : หุ้นลงถึง 50% เช่น ช่วง วิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 40 , วิกฤติ แฮมเบอร์เกอร์ ปี 51
2. Minor Crisis : หุ้นลง อย่างน้อย 30% เช่น ช่วง น้ำท่วมใหญ่ กทม, วิกฤติยุโรป , วิกฤติการเมือง shutdown Bangkok ฯ
ในช่วงเวลานี้ ตลาดหุ้น ลงมาจาก 1850 มาอยู่ที่ 1247 จุด ลดลงมา 32% … นับเป็น Minor crisis อีกครั้งนึง การที่หุ้นลงครั้งนี้สาเหตุหลักๆ เกิดจาก Covid-91 ซึ่งเป็นภาวะที่นักลงทุนคาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น ทำให้นักลงทุนตกใจ อะไรที่ “ ดีกว่าคาด หรือแย่กว่าคาด “ มักจะทำให้หุ้นลงหรือขึ้นเสมอ
สิ่งที่ต้องประเมินต่อ ในภาวะเช่นนี้คือ
1. กำไรบริษัทจดทะเบียนใน ภาวะวิกฤติ : แน่นอนว่าต้องกระทบหลักๆ คือ กลุ่มการท่องเที่ยว โรงแรม สนามบิน และกระทบชิ่ง ไปถึงการบริโภคในประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
2. ประเมินเงินในกระเป๋าเรา : คนที่ถือหุ้นอยู่เต็มพอร์ต ควรทำ “Arbitrage” คือ ตัดใจขายหุ้นเน่า โดยไม่สนใจราคาต้นทุน หรือขาดทุน เอาเงินสดมาซื้อหุ้นพื้นฐานดีเป็นหลัก
คนที่มีหุ้นอยู่บางส่วน มีเงินสดบ้าง หุ้นที่มีอยู่ก็คัดเฉพาะ หุ้นพื้นฐานดี หุ้นเน่าก็ควรขายเหมือนกัน ส่วนคนที่มีเงินสดเหลือเยอะ ถึงเวลาที่ท่านๆจะใช้สติ สมาธิ มาจับจ่ายแล้วล่ะ!!
3. ประเมินราคา และมูลค่าของบริษัทจดทะเบียน : ให้ดูที่ PE,PBV เป็นหลัก โดยใช้ PE ,PBV ในช่วงภาวะปกติ มาเปรียบเทียบกับช่วงวิกฤตินี้ แล้วคิดลด Margin of safety อย่างน้อย 30% ยิ่ง MOS มากยิ่งดี
การซื้อหุ้นในยามนี้ น่าจะเป็น “โอกาสทอง” ที่จะทำกำไรในระยะยาว อีก 3-5 ปีข้างหน้า แต่อย่างไรก็ตาม “หุ้นที่ว่าถูกแล้ว ยังอาจจะมีหุ้นที่ถูกกว่านี้อีก “ ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จะรอให้หุ้นตกไปกว่า หรือให้ราคาหุ้นนิ่งก่อน ค่อยขยับเข้าไปซื้อหุ้น
การรอคอย กลยุทธ์การรอถึงจุดต่ำสุดแล้วค่อยซื้อ เป็นไปได้ยากที่ใครจะรู้ว่า จุดๆนั้นอยู่ตรงไหน ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้จากความสามารถ ส่วนใหญ่เป็นไปตามความโชคดีมากกว่า เพราะฉะนั้น เราควรเลือกทำสิ่งที่ง่ายกว่า คือ การวาง “ กลยุทธ์ซื้อเฉลี่ย” โดยการซื้อตามภาวะที่เราประเมินแล้วว่าเข้าเกณฑ์ ใน 3 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น สิ่งที่สำคัญคือ การซื้อหุ้นในภาวะวิกฤต เราต้องทำใจว่าในช่วงแรก ที่เราซื้อหุ้น ต้องทำใจ “ขาดทุน” ไว้บ้าง อาจจะเป็นเดือนหรือเป็นปี เหมือนเรายังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่เมื่อ “แสงสว่างมาถึง” เราจะทำกำไรมหาศาล
ในยามวิกฤติ “อย่ากลัว” ที่จะซื้อหุ้น ในมองที่ธุรกิจหรือบริษัทที่เราลงทุนเป็นสำคัญ ว่าในภาวะปกติ มันจะเป็นอย่างไร ความกลัวของเราจะลดลง ในยามที่ราคาหุ้นลงอย่างน่ากลัว ถือเป็นโอกาสที่สำคัญของชีวิต “ เราอาจจะแพ้ศึกในครั้งนี้ แต่เราชนะในสงคราม คือ ภาพใหญ่นั่นเอง”
#ContrarianInvestors
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
