12 มี.ค. 2020 เวลา 02:11 • ไลฟ์สไตล์
มันอาจจะฟังดูฟุ้งนะ ถ้าถามว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร ลึกๆแล้วอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร ใช้ชีวิตแบบไหนให้มีความหมาย และมีความสุข
บางคนอาจคิดว่า โอ้โห...ต้องใช้บันไดปีนมาฟังหรือเปล่า ไม่หรอกค่ะ แค่เปิดใจกว้างๆ ยอมรับว่าเป็นการสื่อสารจากใครบางคนถึงเรา เท่านั้นพอ
ถ้าชีวิตไม่เคยตั้งคำถาม ที่มันลึกซึ้งในจิตวิญญาณของเราแล้ว เราก็จะใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เรียบๆ ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไรนะ
ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพอใจชีวิต ในแบบของตัวเอง
แต่ผู้เขียนกำลังจะพูดถึงความรู้สึกลึกๆกับความรู้สึกหนึ่ง ที่บางครั้งมันก็ผุดขึ้นมาให้ได้ขบคิด สงสัยในตัวตนของเรา
เมื่อไหร่ที่รู้สึกขาด ไม่เต็มอิ่มในหัวใจ เมื่อนั้นเราก็จะดิ้นรน ค้นหาแต่สิ่งที่เราขาดจากภายนอกเข้ามาเติมเต็ม
เราจะมีชีวิต และใช้ชีวิตอยู่บนความคาดหวังสูงขึ้นเรื่อยๆ หวังว่าคนอื่นจะเติมเต็มให้เราฝ่ายเดียว โดยที่เราไม่ต้องออกแรงอะไร
สุดท้ายก็ไม่มีใคร เติมเต็มให้ใครได้ นอกจากตัวเราเอง
ขออย่าให้ชีวิตมันเคว้งถึงขนาดนั้นเลย ขอให้หาตัวตนเราให้พบ อย่างตั้งใจ ขอจงอยู่กับตัวเอง ให้เวลาตัวเอง ได้สัมผัสกับความสงบ มีสติ
รับฟังเสียงในหัวใจให้มาก เสียงเล็กๆที่เล็ดลอดออกมาในวันที่หัวใจสงบเย็น ไม่ร้อนรน
นั่นอาจเป็นเข็มทิศชี้นำทางไปสู่ความสำเร็จ ความสุขในตัวเองอยู่ก็เป็นได้
จริงอยู่ที่สมองต้องคิด ตรึกตรอง ต้องมีเหตุผล ประกอบอาชีพชอบ ให้ชีวิตอยู่รอด เราไม่ปฎิเสธความจริงข้อนี้
แต่เรามีชีวิตอยู่ได้โดยไม่สนใจความสุขใจได้จริงหรือ ใช่ชีวิตแบบที่เราต้องการใช่ไหม
เพราะบางคนก็มีความสุขได้ ในขณะที่บริบทชีวิตก็ทุกข์แสนทุกข์ แต่ยังมองเห็นโอกาสของความสุขอยู่ใกล้ๆ
และหลายคนก็แบ่งปันสิ่งที่ดีงามได้ ในขณะที่ก็ไม่ได้สมบูรณ์มากมายไปเสียทุกสิ่ง
แต่ชีวิตเขาเหล่านั้นมีความหมาย เขามีกำลังใจ ตั้งมั่นที่จะเป็นแสงสว่างให้ตัวเอง
และเขารู้ว่าชีวิตนั้นมีความหมายต่อใครอีกหลาย ๆ คน แล้วทำไมเราจะเป็นแบบนั้นไม่ได้
ขอจงศรัทธาในตัวเอง เชื่อในความงดงาม ที่บริสุทธิ์ในส่วนลึกของตัวเอง ว่าเรานั้นเก่งไม่แพ้ใคร เราฉลาด และกล้าหาญ เป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด
เราเกิดมาเพื่อพิชิต เพื่อชนะหัวใจที่อ่อนแอของเราในวันนี้ และเพื่อจะเป็นรักแท้ รักนิรันดิ์ให้ตัวเองได้ ในอนาคตค่ะ
#ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
โฆษณา