12 มี.ค. 2020 เวลา 12:58 • กีฬา
แชมป์เก่าโดนเขี่ยตกรอบคาถิ่น!!
เป็นอันหมดสิทธิ์ในการลุ้นป้องกันแชมป์ไปเรียบร้อยแล้วสำหรับแชมป์เก่าอย่างหงส์แดง Liverpool
แม้ว่าเจ้าถิ่นนั้นจำเป็นผู้กุมความได้เปรียบตั้งแต่ต้นเกมยันหมดเวลา 90 นาทีในช่วงการแข่งขันก่อนต่อเวลา โดยเป็นหงส์แดงนั้นที่โหมกระหน่ำเกมรุกซึ่งอาจจะเปรียบได้กับพายุที่พัดโหมกระหน่ำใส่ต้นไผ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางมวลพายุนั้นแต่ก็มิอาจที่จะหักต้นไผต้นนี้ของ El Solo ลงได้
ด้วยความได้เปรียบจาก leg แรกที่บ้านของตราหมี ทำให้พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องกดดันหรือเล่นเกมรุกหวือหวาในเกมที่มาเยือน Anfield หรืออาจจะบอกได้เลยว่าเมื่อคืนนั้นแผนของพวกเขานั้นแทบจะไม่มีการเล่นเกมรุกอยู่ในสมองด้วยซ้ำ
โดยก่อนเริ่มเกมนั้น Liverpool ได้ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลักอย่าง Alisson Becker นายด่านผู้ที่ไว้ใจได้ที่สุดของทีม แต่ถึงกระนั้น การเล่นเกมรับอันเหนียวแน่นของ Atletico Madrid นั้นก็อาจจะทำให้นายใหญ่หงส์แดงอย่าง Klopp นั้นไม่ต้องกังวลถึงตำแหน่งผู้รักษาประตูเท่าไหร่
แต่นั่นอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อผล score ของทีมเลยก็ว่าได้ หากผู้รักษาประตูคนนั้นมีนามว่า Adrian
“Oblak ทำให้ผมนอนดึก แต่ Adrian ทำให้ผมนอนไม่หลับ” แฟน Liverpool ท่านนึงได้กล่าวเอาไว้หลังเกม
ย้อนกลับไป 1 วันก่อนเริ่มการแข่งขัน สื่อสเปนต่างๆนั้นเริ่มที่จะเล่นข่าวในเรื่องของการจัดการทีมของ Simeone
ซึ่งก็เป็นไปตามที่สื่อดังได้นำเสนอไว้นั่นก็คือ การเลือกตัวจริงในนัดนี้ของ El Solo ที่เขาเลือกจะให้ Diego Costa นั้นออก start ก่อนดาวยิงรุ่นน้องอย่าง Alvaro Morata
ซึ่งหากใครยังจำได้สมัยที่ดาวยิงสายเถื่อนนั้นค้าแข้งอยู่กับสิงห์บลูนั้น เขามักจะมีการปะทะกันด้วยอารมณ์กับแข้งหงส์แดงอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แฟน Liverpool นั้นคงจะรู้จักเจ้า Costa เป็นอย่างดี
การที่ Simeone เลือกที่จะเล่นเกมรับแบบ 4-5-1 แทนการเล่นเกมรับที่ใช้บ่อยที่สุดอย่าง 4-4-2 ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเกมรุกจากตรงกลางของเจ้าถิ่นได้ดีขึ้น
เมื่อ Liverpool ภายใต้การคุมทีมของ Klopp นั้นจะเล่นในระบบ 4-3-3 ที่ใช้กองกลาง 3 ตัวในการคุมเกมรวมไปถึงการช่วย wingback ขึ้นเกมจากพื้นที่ริมเส้นที่เป็นจุดเด่นของทีม อีกทั้งยังมี Firmino ถอยลงมา overload พื้นที่ตรงกลางเพื่อเพิ่มความได้เปรียบและสร้างความสับสนให้แนวรับอีกต่างหาก
แต่ Simeone นั้นสามารถที่จะทำให้ Liverpool นั้นพบกับฝันร้ายได้ด้วยปิดตายพื้นที่ final third ของหงส์แดงซะให้เรียบและมิดชิด
พวกเขายืนบีบพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษตัวเองได้ดีมาก อีกทั้งยังจัดการเกมริมเส้นของเจ้าถิ่นจนเกือบอยู่หมัด ซึ่งมันสมองของ Klopp นั้นก็สามารถที่จะแก้ปัญหาในจุดนี้ได้โดยการถ่างแนวรับของตราหมีให้มากที่สุด ก่อนที่จะใช้ลูก cross โจมตีพื้นที่ที่เปิดออกจากการออกมา cover พื้นที่ริมเส้น
การผิดพลาดเพียงครั้งเดียวซึ่งนำมาสู่ประตูขึ้นนำของเจ้าบ้านนั้น เป็นการกระตุ้นแนวรับของตราหมีได้อย่างดีว่าพวกเขาไม่สามารถที่ผิดพลาดได้อีกแล้ว ซึ่งถ้าถูกทิ้งห่างไปเป็น 2-0 ในเวลา 90 นาทีนั้นเกมนี้คงจะอยู่ในกำมือของ Klopp และลูกทีมอย่างแน่นอน
ด้วยสมาธิที่นิ่งสุดๆของเกมรับตราหมีพวกเขาพลาดท่าเสียประตูไปเพียงลูกเดียวในช่วงเวลาปกติเท่านั้น พวกเขาเก็บตกบอลจังหวะสองในพื้นที่หน้ากรอบของตัวเองได้ดี อีกทั้งยังยืนแนวรับได้อย่างเป็นระเบียบ
ซึ่งเป็นการบังคับให้ Mo Salah และ Sadio Mane นั้นถูกบังคับให้ถอยลงมาเพื่อหาจังหวะจับบอลที่ได้เปรียบจากแผง back four และยังต้องฝ่าด่านอรหันต์จากการรุมกินโต๊ะของ Saul Niquez และผองเพื่อนอย่าง Koke และ Thomas Partey
วิธีที่ดูจะได้ผลที่สุดของเจ้าถิ่นนั้นก็คือการสร้างพื้นที่ระหว่างแนวรับแล้วตามด้วยการอัดลูก cross เข้าไปในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งรวมทั้งเกมแล้วนั้น Liverpool cross บอลรวมกันทั้งทีมกว่า 60 ครั้ง
การที่ Renan Lodi เล่นได้ top form มากๆจากนั้นแรกนั้น ทำให้ Klopp จำเป็นต้องเน้นเป็นพิเศษในการเล่นเกมริมเส้นให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเกมริมเส้นนั้นเองก็เป็นที่มาของประตูทั้ง 2 ของ Liverpool
ทางด้าน Atletico Madrid นั้นไม่เพียงรับมือเกมรุกของเจ้าถิ่นได้ดีแล้วนั้นยังสามารถที่จะทำประตูจนยัดเยียดความปราชัยคา Anfield ให้กับหงส์แดงนั้นอย่างที่ไม่มีใครหน้าไหนทำได้กับทีมชุดใหญ่ของหงส์ได้ในช่วงขวบปีนี้อีกด้วย
Simeone นั้นฉลาดเป็นกรด เมื่อเขารู้ว่าตอนไหนควรจะสู้และตอนไหนควรจะเป็นฝ่ายตั้งรับ
ซึ่งในช่วงเวลาปกตินั้น ผู้เล่น outfield ทั้ง 10 คนของตราหมีนั้นถอยกรูลงมาตั้งแนวรับกันหน้ากรอบตัวเอง หรือแม้กระทั่ง Diego Costa นั้นยังลงมาช่วยไล่บอลถึงแดนตัวเองเลยด้วยซ้ำ ซึ่งพวกเขาเล่นเกมรับกันได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้อย่างดีเยี่ยม
จากการที่แนวรับพวกเขานั้นยืนชิดกันมาก ทำให้มีการช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทีมทันทีเมื่อเกิดข้อผิดพลาดส่วนบุคคล ซึ่งพวกเขาช่วยกัน cover ทั้งในพื้นที่ของตัวเองและพื้นที่ที่ถูกเปิดออกจาก man marking ของเพื่อน
พวกเขาทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับทีมใหญ่ที่เล่นในพื้นฐาน posession football นั้นทำกันนั่นก็คือ พวกเขาปล่อยให้ Liverpool ครองเกมบุกใส่แบบตามสบายใจ Klopp แล้วรอหาจังหวะสวนเพียงอย่างเดียว
ซึ่งในเกมนี้ Liverpool นั้นไม่มีการเล่น counter attack แม้แต่ครั้งเดียว
เมื่อการแข่งขันในช่วงเวลา 90 นาทีนั้นจบลงใน score ที่เสมอกัน ก็เป็นช่วงที่ Simeone นั้นคิดว่าฝ่ายรับอย่างทีมของเขานั้นสามารถที่จะออกหมัดสวนใส่พายุที่เริ่มจะอ่อนกำลังลงได้แล้ว
จากการพ่ายแพ้นัดแรกใน league ต่อ Watford นั้นทำให้ Liverpool นั้นถูกวิจารณ์เป็นวงกว้างในเรื่องของสภาพร่างกายนักเตะที่กรำศึกหนักมาตลอดทั้ง season และมีเวลาเพียงนิดเดียวเท่านั้นในการพักผ่อนสภาพร่างกาย
บวกกับ style ที่ดุดันของ Klopp ซึ่งต้องแลกมาด้วยพลังกายมหาศาลในการวิ่งไล่บี้คู่แข่งอย่างวัวกระทิงนั้น ทำให้เป็นดาบสองคมที่หันเข้าตัว Klopp และลูกทีมเหมือนกัน ซึ่งการที่ลูกทีมของ Simeone นั้นเล่นเกมรับเพียงอย่างเดียวไม่ต้องมาวิ่งไล่เอาบอลมาบุกต่อแบบหงส์แดงนั้นทำให้ลูกทีมของ Klopp นั้ย่อมล้ากว่าเป็นธรรมดา
แม้ว่าการที่จะเล่นเกมรับด้วยจำนวนผู้เล่นที่น้อยลงในช่วงต่อเวลาพิเศษจะทำให้เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำ 2-0 ที่ต้องการก็ตาม แต่ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายทีมเยือนที่จะเป็นคนทำตัวเองให้ตกไปอยู่ในสถานการณ์ลำบากซะเองมากกว่า
เมื่อนายด่านที่นานๆกล้องจะจับมาทีนึงในช่วงเวลา 90 นาทีอย่าง Adrian นั้นดันสาดบอลออกมาแบบน่าผิดหวังไปเข้าเท้า Joao Felix ก่อนจะจ่ายให้ Marcos Llorente เด็กปั้นจากคู่แข่งร่วมเมือง ซัดหนีมือผู้รักษาประตูชาว Spain เข้าไปอย่างสวยงาม
หลังจากนั้น นักเตะหงส์แดงที่คึกมาทั้งเกมก็เปลี่ยนไปเป็นคนละทีม ซึ่งพวกเขาเชื่องช้ามากในการรับมือกับเกมสวนกลับของทีมเยือนซึ่งมี Morata ลงมาเติมความสดในแดนหน้าอีก
ซึ่งในประตูที่ 2 ของตราหมีนั้น ก่อนที่ Llorente จะซัดเข้าไปเป็นลูกที่ 2 ของเจ้าตัวนั้น เขามีเวลาจับบอล แต่งบอล วางเท้า รวมไปถึงอาบน้ำกินข้าวแต่งตัวแสนนาน ซึ่งไม่มีใครเข้าไปกดดันแย่งบอลจากเท้าเจ้าตัวเลย
รวมไปถึงประตูสุดท้ายเมื่อ Fabinho นั้นไม่สามารถตัดเกมจาก Llorente คนเดิมได้ก่อนจะทำชิ่งกับ Morata จนกลายเป็นประตูตอกย้ำชัยต่อหน้าแฟนบอลนับหมื่นของเจ้าถิ่น ซึ่งในจังหวะนี้ Joseph Gomez นั้นสับสนในการประกบตัว ซึ่งคู่หู่อย่าง Van Dijk ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้วหลังจากนั้น
เป็นอันจบเกมไปใน score 2-3 อย่างสุดมันส์ และยังเป็นรูปเกมที่จะทำให้ Klopp จดจำไปคิดทั้งคืนแน่นอน
และกุนซือจาก Argentina นั้นมันเขี้ยวไม่แพ้กุนซือ Itatian เลยหว่ะ...
สิ่งที่อาจจะเป็นศัตรูตัวฉกาจในการขัดขวางความสำเร็จที่มีในถ้วยยุโรปของเหล่าทีมจากเกาะอังกฤษนั้นมันก็อาจจะเป็น “โปรแกรมที่เตะถี่สุดๆ” ของทั้งบอล league บอลถ้วยก็ว่าได้
เพื่อนๆคิดอย่างไรกันมั่งครับ ?
ติดตามพวกเราได้อีกช่องทางได้ที่ Facebook : Talk Shit Football
โฆษณา