Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Contrarian Investors [ลงทุนสวนกระแส]
•
ติดตาม
16 มี.ค. 2020 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
🌍กลยุทธ์การลงทุนยามวิกฤติของผม 🌍#Contrarian Investors
1.กำหนดสัดส่วนการลงทุน :
โดยแบ่งเป็นไม้ๆ ประมาณ 3-5 ไม้ เพราะเราไม่รู้จุดต่ำสุดของการลง ถ้าไม่แบ่งสัดส่วนมีโอกาสที่จะพลาดได้ง่าย เช่น
100% แบ่งเป็น 30%-40%-30% , 10%-25%-30%-25%-10%
2. เข้าลงทุนตามเกณฑ์ ที่กำหนด :
ลงทุนโดยตัดขาดจาก ความกลัว ตัดอารมณ์ของตลาด ไม่ดูดัชนีราคา เช่น
< 1200. Buy 10%
< 1100. Buy 25%
< 1000. Buy 30 %
< 900. Buy 25%
< 800. Buy 10%
3. คัด “หุ้นคุณภาพต่ำออกไป” :
*** ข้อนี้ถือว่ายากมากสำหรับมือใหม่ *** ที่จะตัดขาดทุนจากหุ้นขนาดเล็ก ที่มีความสามารถในการแข่งขันน้อย ซื้อมาในราคา Premium ที่ถือมานาน แล้วหวังว่ามันจะ Growth ตาม Broker บอก แต่ผมบอกเลยว่า ต้องยอมตัดแขน ตัดขา เพื่อรักษาตัวให้มีชีวิต ก้าวต่อไป
4. เปลี่ยนไปเลือกหุ้นที่ผลตอบแทนดี :
หาหุ้นที่ เติบโตดีในอนาคต (ไม่ใช่ในอดีต) อย่างน้อย 5-10 ปี (เพราะ Cycle วิกฤตส่วนใหญ่มาทุก 10 ปี)
- หุ้นตัวไหนที่จะไม่ถูก Disruption
- หุ้นตัวไหนที่จะเติบโตเป็น New Cpall
- หุ้นตัวไหนที่จะไม่ตายในภาวะ “วิกฤติ”
- หุ้นตัวไหนที่จะโต 10 เท่า ในอีก 5-10ปี * ข้อนี้มีแน่นอน อยู่ที่ว่าคุณจะหาเจอมั้ย*
* เดี๋ยวผมจะมา Discuss ต่อว่าอะไรดีไม่ดี อะไรน่าจะดี ในบทต่อไป*
5. คำนวณหา Valuation หุ้นที่เราจะซื้อ และหุ้นที่มีในพอร์ต :
- หุ้นในพอร์ตเดิม : ในยามวิกฤติ หุ้นราคาลดลง กำไรบริษัทต้องลดลงตามอยู่แล้ว ให้เราคิดว่า วิกฤติครั้งนี้ กระทบกำไรชั่วคราวหรือไม่? มีโอกาส Default หรือไม่?
ถ้าชั่วคราว ยังไงก็ต้องกลับมา ถือเป็นโอกาส แนะนำให้ใช้ กำไรในภาวะปกติ คำนวณ Valuation ในการซื้อได้ แต่ถ้ามีผลกระทบที่ส่งผลต่อความมั่นคง การชำระหนี้ของบริษัท ควรพิจารณาหาโอกาสใหม่ๆได้
- หุ้นที่คิดว่าจะซื้อ : ให้ดู ว่าวิกฤตครั้งนี้ มีผลกระทบต่อบริษัทในระยะยาวหรือไม่? เงินสดในการผ่อนชำระหนี้เป็นอย่างไร ? ต้องเพิ่มทุนหรือไม่? มีผลกระทบต่อพื้นฐานอย่างไร ?
ถ้าไม่มีก็สามารถเอา กำไรในภาวะปกติมาหา Margin of safe ในการซื้อได้ ถือเป็นโอกาสในระยะยาว
2
6. อย่ามอง “ปันผล” :
ข้อนี้ เรียกว่า เป็น “กับดัก” ของนักลุงทุนหลายคน โดยเฉพาะมือใหม่ คิดว่า “ หุ้น A ราคาลงมา ประกาศปันผลก่อนหน้านี้ 5% ตอนนี้ราคาลงมาเยอะ ทำให้ปันผลอาจจะ 10% เลยทีเดียว “ ถ้ามองเผินๆ เหมือนจะคุ้ม แต่เราลืมนึกไปว่า
- กำไรสุทธิของหุ้นต้องลงตามวิกฤติ ทำให้ Valuation ต้องลงตาม ทำให้ราคาลดลง
- ราคาหุ้นส่วนใหญ่จะลงหลังจ่ายปันผล โดยมักจะลงใกล้เคียงกับราคาปันผล
- ถ้าเป็นหุ้นที่ไม่มีอนาคต อาจจะทำให้เราเสียโอกาสที่จะไปลงทุนหุ้นตัวอื่นๆ
เพราะฉะนั้น การหวังที่จะเปลี่ยนชีวิต โดยใช้ “ปันผล” น่าจะเป็นเป็นได้ยาก และมันเป็นเสน่ห์ที่หอมหวานทำให้นักลงทุนระยะยาวบางคนชอบ แต่นั่นอาจเป็นผลไม้พิษที่กัดกินพอร์ตเรา โดยเราไม่รู้ตัว
7. “จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว จงกลัวเมื่อคนอื่นกล้า” :
คำพูดนี้นะครับ เหมือนจะง่าย แต่ในทางปฏิบัติยากแสนยาก เพราะมนุษย์ มีคำว่า “จิตวิทยามวลชน” เช่น เวลาเราเดินข้ามถนน ถ้าเราข้าม แม้จะเป็นไฟเขียว แต่มีเพื่อนเดินหลายคน เราจะรู้สึกปลอดภัย กลับกัน ถ้าเราเดินข้ามเพียงคนเดียว แม้จะเป็นไฟแดง เรากลับรู้สึกวังเวง ไม่ปลอดภัย
ในระบบทุนนิยม ไม่มีทางที่เงิน 90% ของระบบจะอยู่กับคนส่วนใหญ่ เงินส่วนใหญ่ต้องอยู่กับคนส่วนน้อยเสมอ กฏข้อนี้ ไม่มีทางเปลี่ยนได้
* อนาคตผมจะมา Discussion เรื่องจิตวิทยามวลชนต่อครับ *
8. อย่ารอ ให้ถึง “ จุดต่ำสุด “ :
นักลงทุนหลายคน มักจะรอให้ลงอีก โดยคาดว่า น่าจะลงไปถึง 8-900. หรือลงไปอีก 5-600. แต่จริงแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าจุดต่ำสุดคือตรงไหน การคาดเดาจุดต่ำสุด หรือคาดเดาว่ามันจะลงไปอีกเท่านั้น เท่านี้ ถือเป็นเรื่องโง่เขล่า คนที่คาดการณ์ได้ คือ แม่นเพราะดวงเท่านั้น... สิ่งที่เราทำได้ คือ ทำตามกลยุทธ์ที่วางแผนไว้ อย่างเคร่งครัด ห้ามกลัวตกรถ หรือขายหมูเด็ดขาด รถมีหลายคัน หมูมีหลายตัว ให้ใจเย็นๆ ทำตามแผน
1
9. หุ้นถูกแล้วยังมีถูกยิ่งกว่า :
กลยุทธ์การรอคอยนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เพราะไม่รู้ว่า หุ้นจะตกถึงจุดต่ำสุดเมื่อไหร่ กลยุทธ์ที่ง่ายกว่า คือ “การแบ่งไม้ซื้อ” ซึ่ง กลยุทธ์แบบนี้ เราต้องทำใจให้ได้ว่า ในช่วงแรก อาจจะต้อง ” ขาดทุน “ -10 %,-20% -30% ให้เราจินตนาการไว้ในใจเลยว่า เราขาดทุนแน่ๆ หลังจากซื้อ เพื่อป้องกันการหวั่นไหว ตามราคาที่จะเหวี่ยงลงได้ และเราอาจจะต้องขาดทุนเป็นเดือนหรืออาจเป็นปี การที่เราซื้อแล้วราคา ลงไปอีก ให้คิดว่าเป็นโชคดีของคนอื่นที่ซื้อได้ถูกกว่าเรา อย่าไปอิจฉา ผิดหวัง เสียใจ เราควรพอใจ ในสิ่งที่เราซื้อมา ซึ่งในระยะยาว ถือว่า “คุ้มค่ามากแล้ว”
10. กลับไปอ่าน “ ทุกข้อ “ ยามที่เรารู้สึกกลัว หรือหวั่นไหว
สุดท้ายนี้ ให้เราลองจินตนาการว่า ถ้าเรา เป็น “ Warren Buffett , ดร.นิเวศน์ “ จะตัดสินใจอย่างไร ? สวมวิญญาณพวกเขา ใจเย็นๆ ค่อยๆคิด...
*ทุกบทความผมคิดและเขียนเอง ถ้าไปเห็นที่ไหน ไม่ใช่ผมนะครับ เขียนในที่นี่ที่เดียว ไม่มีเพจ FB IG ใดๆ มีใน Blockdit เท่านั้น ใครอยากให้วิเคราะห์อะไร comment มาเลยครับ*
18 บันทึก
31
6
14
18
31
6
14
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย