🐲 "🐲 "🐲 "🐲 "🐲
"กำลังใจ..ไม่มีวางขาย"
"🐲 "🐲 "🐲 "🐲 "🐲
ยามนี้การตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์นั้นเกิดขึ้นได้ง่ายๆ..ยามคนเครียดจากความกังวลใจ ย่อมอดไม่ได้ที่จะมีอารมณ์พุ่งขึ้น ช่างสวนทางกับหุ้นที่พุ่งลง
ถามว่าแล้วจะทำยังไงกันดีหนอ...ยิ่งติยิ่งต่อว่า..กลายเป็นยิ่งเพิ่มคนไม่รับผิดชอบมากยิ่งขึ้นหลายเท่าตัว
การแก้ปัญหาด้วยการพูด โดยที่แม้แต่ตนเองก็ไม่ได้ช่วยอะไรแม้แต่น้อย..เท่ากับยิ่งเพิ่มทวีความยุ่งยากขึ้นไปอีก
ในห้วงเวลานี้...เราควรจะร่วมมือมาช่วยกัน"สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อ"ให้สังคมฝ่าวิกฤตินี้ได้จริงจังก็คงดีไม่น้อย อย่างน้อยลองช่วย กันด้วย 7 แง่คิด..ดังนี้คือ
(1)"กำลังใจที่ต้องให้อย่างจริงใจและจริงจัง"
ควรให้กำลังใจคนทำงาน งานที่ยากที่สุดคืองานที่ยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด คนที่ควรให้เราร่วมกันส่งกำลังใจชื่นชม มีมากมาย
คือทีมแพทย์พยาบาลที่เสียสละทุ่มเทหาหนทางดูแลรักษาฟื้นฟูผู้ที่มีอาการ
(2)"เมตตาเท่านั้นที่คุ้มครองคนได้"
ควรให้ความเมตตาช่วยเหลือ และชื่นชมคนที่เริ่มสงสัยจะติดและตั้งใจไม่แพร่เชื้อ เพราะคนเหล่านี้คือแบบอย่างที่ดีที่ควรยกย่องเชิดชู เช่นกัน
ที่สำคัญก็ต้องเข้าใจผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ว่าเขารู้สึกกังวลใจอะไร เมื่อเอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดเสมือนว่าถ้าญาติเราเป็นผู้ติดเชื้อแล้ว เราต้องการให้ใครช่วยเหลืออย่างไรบ้าง นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ
จงปฏิบัติให้เขาเป็นคนที่มีความหวัง ไม่ใช่รังเกียจว่าเป็นตัวเชื้อโรค ที่ต้องกำจัดทิ้ง ไปให้ไกลห่าง
(3)"ลดการแพร่เชื้อสื่อเชิงลบ"
ควรลดการทำตัวเองเป็น"ศูนย์กลางการแพร่กระจายการสื่อสารทัศนคติเชิงลบ"ทุกรูปแบบ
สังคมจึงจะเปลี่ยนเป็นความเอื้ออาทรเห็นใจต่อกัน และจะหยุดเชื้อร้ายลงได้
ด้วยการสื่อสารและยอมรับตามความเป็นจริงในแต่ละขณะ พร้อมรับมือไม่ว่าจะหนักหนาสาหัสสักเพียงใดก็ตาม
(4)"ยิ่งให้แรงหนุน ยิ่งหยุดได้มาก"
ควรช่วยเหลือสนับสนุนบริจาคอุปกรณ์ป้องกัน ตามกำลังที่จะช่วยได้ เพราะเท่ากับเพิ่มสมรรถนะ ให้การช่วยเหลือรักษาผู้คนได้มาก และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
(5)"การต่อสู้วิกฤติครั้งนี้คือหน้าที่.ความรับผิดชอบ"
ควรรู้ว่าสิ่งที่กำลังเผชิญนี้..คือ"หน้าที่ของทุกคนที่ต้องรับรู้"
จึงไม่ใช่สิ่งที่จะปัดความรับผิดชอบหาใครมาเป็นแพะรับไป
พึงรับผิดชอบร่วมกัน ไปตามส่วนทั่วทุกคน เริ่มจากตนเอง ต่อครอบครัว คนรอบข้าง และสังคม
อย่าใช้วิกฤติมาเล่นเป็นเกมเดิมพัน แลกให้ใครอยู่ใครไป..เพราะทุกนาทีคือชีวิตผู้คน บาปหนาสนิทเพียงแค่คิดก็หนาวแทน
(6)"พร้อมทำใจและอดทนเพื่อสู้ต่อไป"
สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบแทบทั้งสิ้น จะมากจะน้อยก็แตกต่างกันไป
สิ่งที่จะผ่านไปได้คือการเป็นอยู่ด้วยการน้อมนำคำสอนของพ่อ มาใช้อย่างพออยู่ พอกิน และพอเพียง
ประคองชีวิต ประคองจิตใจ ให้ผ่านไปให้ได้ เพื่อจะยืนหยัดกลับมาอยู่อย่างปกติสุขอีกครั้ง
(7))"หยุดนิ่งเงียบบางทีก็ช่วยให้ดีขึ้น"
ถ้าคิดอะไรไม่ออก..ยังทำอะไรไม่ได้
สิ่งที่เป็นการดีที่จะช่วยสังคมได้ คือหยุดพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด
ก็ช่วยลดการบั่นทอนสภาพแวดล้อมที่จำเป็นในการต่อสู้เอาชนะวิฤติครั้งนี้ได้
ช่วงเวลานี้..คือการพิสูจน์ความเป็นคน ของทุกคนว่าเป็นคนที่แท้จริง หรือไม่เพียงใด
.."Spirit..ที่เป็นหนึ่งเดี่ยวกันคือพลังใจที่ยิ่งใหญ่"
Spirit...ที่เรียกหาจากผู้คนยามนี้..คือกำลังใจที่ดีงาม ด้วยการให้..3สิ่งได้แก่
@ให้Care.กันและกัน
@ให้การปฏิบัติอย่างFareต่อกัน
@และให้การShareกันบ้าง"
จึงจะเรียกว่าไม่ทอดทิ้งกันจริง..
หรือเรายังอยากจะเป็นคนที่ไร้หัวใจ ที่ห่วงใยแต่ตนเองเอาตัวรอดกันอยู่อีกหรือไม่...
ตื่นกันเถิด..อย่ามัวหลับตาให้มืดมัวไปตามอารมณ์ จนขาดอารมณ์ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสังคม...กันทั่วหน้า
แล้ววันนั้น...จะเป็นวันที่เราจะอยู่รอดพ้นภัย..และเข้มแข็งไปด้วยกัน.....
LL&L17/3/63
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
