17 มี.ค. 2020 เวลา 01:08
“ส.ท.โน้ต” นักฆ่าพระกาฬแห่งภาคตะวันออก
นับเนื่องจากคดีฆ่า เสี่ยฮวด นายพิพัฒน์ โรจน์วณิชชากร เจ้าพ่อบ้านบึงซึ่งถูกมือปืนถึง ๑๐ คนรุมยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามตายคารถเก๋งขณะที่ออกมาจากสุสาน “เตชะไพบูลย์” อ.บ้านบึง เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๓๒
มาจนถึงคดีฆ่า แดง สิงห์ป่าซุง นายปรีชา สถาวร เจ้าพ่อปลวดแดง จ.ระยอง ซึ่งเป็นพยานปากเอกในคดีเสี่ยฮวด หลังจากนั้นหนึ่งปี ชื่อของมือปืนพระกาฬที่เกี่ยวข้องกับการตายทั้ง ๒ ศพ ได้รับการจับตามองจากเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
“ส.ท.โน้ต” ส.ท.สมเกียรติ น้อยเล็ก อดีต สห.ผู้มีอาชีพเสริมเป็นนักฆ่าตัวฉกาจ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเสี่ยฮวด และแดง สิงห์ป่าซุง
นอกจากนี้ยังต้องสงสัยว่าเป็นผู้ลั่นไกสังหาร ส.ท.บ้านบึงรวม ๓ ศพ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ชัยขาว ถูกสั่งเก็บ ทั่งนี้ยังไม่นับรวมถึงอีกหลายคดีที่ ส.ท.โน้ต เข้าไปมีส่วนพัวพันด้วย แต่ดูเหมือนกฏหมายบ้านเมือง จะไม่สามารถจัดการกับมือปืนรูปหล่อรายนี้ได้แม้แต่ครั้งเดียว
แต่ในที่สุด ส.ท.โน้ตก็หนีหนี้กรรมที่ตัวเองก่อขึ้นไม่พ้น เมื่อถูกลากไปยิงทิ้งพร้อมกับนายประเชิญ บุญปราโมทย์ กำนัน ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา และคนขับรถ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๓๖ บริเวณริมถนนสายท่ามะปราง-วัดโป่งก้อนเส้า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ทั้ง ๓ ศพ ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม
โดยคนร้ายจับมัดมือมัดเท้า และจ่อยิงหัวสมองกระจาย คล้ายกับโกรธแค้นกันมานานปี ปมปริศนาที่ทิ้งไว้ให้ขบคิดในคดีนี้คือทำไมมือพระกาฬ ที่มากด้วยประสบการณ์อย่าง “ส.ท.โน้ต” ถึงถูกหิ้วมายิงทิ้งอย่างง่ายตายเช่นนี้
1
ตั้งด่านหิ้วไปฆ่า
1
สภาพศพของ ส.ท.โน้ต และกำนันประเชิญ พร้อมด้วยคนขับรถที่ถูกพบมีลักษณะคล้ายกัน จะถูกมัดมือมัดเท้า และรัดคอก่อนที่จะถูกจ่อยิงในระยะเผาขนทีละศพ ใกล้กันนั้นพบรถมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ ของกำนันประเชิญจอดทิ้งอยู่
10
ในทางสืบสวนพบว่าก่อนเกิดเหตุกำนันประเชิญพร้อมด้วย ส.ท.โน้ต เดินทางมาดูกิจการรับเหมาก่อสร้างใน อ.แก่งคอย จากนั้นก็โทรศัพท์คุยกับภรรยาว่ากำลังจะเดินทางกลับบ้านที่ชลบุรี จากนั้นก็มานอนตายเป็นศพในที่สุด
พล.ต.ต.เสรี พรรคพิบูลย์ ผบก.ภ.๑ ลงมาควบคุมคดีอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า คนอย่าง ส.ท.โน้ตที่มีประวัติโชกโชนเป็นมือฆ่าระดับพระกาฬ แต่ทำถึงไม่สามารถต่อสู้กับคนร้ายได้
ข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีเพียงประเด็นเดียว คนร้ายต้องเป็นคนมีสี และรู้จักมักคุ้นกับ ส.ท.โน้ตเป็นอย่างดีจึงสามารถเข้าประชิดตัว ปลดอาวุธและลากมายิ้งทิ้งดังกล่าว
จากการสอบปากคำพยานประกอบกับหลักฐานต่างๆ เชื่อว่าเหตุเกิดระหว่างที่รถของกำนันประเชิญ และ ส.ท.โน้ตแล่นอยู่บนถนนองค์รักษ์-นครนายก เพื่อเดินทางกลับมายังชลบุรี โดยระหว่างทางทีมฆ่าซึ่งเป็นคนมีสีตั้งด่านเถื่อน ทำทีเป็นตรวจค้นรถของเหยื่อ จากนั้นได้ปลดอาวุธทั้งหมด และหิ้วมาฆ่าทิ้ง
1
ฝีมือทีมผู้กอง “ม”
ตามรายงานเชื่อว่าคนร้ายต้องเป็นคนมีสี และสนิทสนมหรือจักกับ ส.ท.โน้ตเป็นอย่างดีจึงไม่มีการขัดขืน เมื่อถูกปลดอาวุธ ถึงจุดนี้คาดว่าจะเป็นฝีมือของทีมพระกาฬในสังกัดผู้กอง “ม”
ผู้กอง “ม” เป็นมือพิฆาตระดับแนวหน้าคนหนึ่ง แต่ในทางลับเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการตาม บัญชีดำ ให้กับหน่วยราชการแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเจ้าพ่อใหญ่แห่งภาคตะวันออกและเจ้าพ่อบางคน
1
การตามเก็บบุคคลตามบัญชีดำนั้น ผู้กอง “ม” มักจะมีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องด้วย โดยฝ่ายตรงกับรายชื่อผู้ไม่พึงปรารถนาในบัญชีดำ จะจ้างทีมผู้ก้อง “ม” จัดการกับคู่อริให้เร็วขึ้น
1
ซึ่งเท่ากับว่าการฆ่าแต่ละครั้ง นอกจากจะได้ความดีความชอบกับหน่วยงานแล้ว ยังได้เงินติดปลายนวมจากคู่อริของเหยื่ออีกต่างหาก
ตามรายงานพบว่า ส.ท.โน้ตเคยเป็นหนึ่งในทีมพิฆาตของผู้กอง “ม” มาก่อนแต่ภายหลังแยกออกไปรับงานอิสระแบบไม่เลือก ในขณะที่ผู้กอง “ม” ยังคงยึดถือแนวทางของตัวเองด้วยการสังหารคนในบัญชีดำเท่านั้น
ลูกทีมของผู้กอง “ม” มีอยู่ ๕-๖ คนซึ่งล้วนแต่รู้จักกับ ส.ท.โน้ต ในฐานะเพื่อนร่วมงานทั้งสิ้น ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงน่าเชื่อว่าทีมของผู้กอง “ม” คือผู้ที่หิ้ว ส.ท.โน้ต และกำนันประเชิญ ไปยิงทิ้ง
โดยที่ทั้งสองคนไม่มีโอกาสต่อสู้หรือขัดขืน และสิ่งที่สร้างความมั่นใจในข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่คือ ส.ท.โน้ต และกำนันประเชิญ ล้วนแต่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำด้วยกันทั้งสองคน
1
กำนัน “บ” จ้างฆ่า
เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นการสังหารโหด ๓ ศพ ส.ท.โน้ต และกำนันประเชิญ ว่าน่าจะมาจากความขัดแย้งระหว่างกำนันประเชิญ และกำนัน “บ” ซึ่งรุนแรงถึงขั้นไล่ยิงกันมาแล้ว
แม้ว่ากำนันทั้งสองคนจะอยู่ใต้อาณัติของเจ้าพ่อใหญ่เช่นเดียวกัน แต่ก็มักจะมีปัญหากันมาตลอด แต่ที่รุนแรงที่สุดเป็นความขัดแย้งเรื่องแย่งชิงผลประโยชน์การประมูลบ่อดินลูกรังและการถมที่ดินมูลค่า ๑๐ ล้านบาท
จนล่วงเข้าปี ๒๕๓๕ ทั้งสองฝ่ายก็เปิดฉากพันตูกันอย่างเต็มลูกสูบ โดยกำนัน “บ” ถูกมือปืนบุกยิงที่อ่างศิลา จนลูกตาหลุดไปข้างหนึ่ง จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ตามราวีกันไปมาแต่ยังไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำ
1
จนกระทั่งกำนันประเชิญได้ตัว ส.ท.โน้ต มือฆ่าระดับพระกาฬมาเป็นพวกในฐานะผู้คุ้มกันเมื่อปลายปี ๒๕๓๕ ทำให้กำนัน “บ” ถึงกับผวาเพราะรู้กิตติศัพท์ของ ส.ท.โน้ต เป็นอย่างดีและเข้าใจว่าคู่อริคงจะจัดการกับตัวเองอย่างแน่นอน
2
ด้วยเหตุผลที่ ส.ท.โน้ตเข้าพวกกับกำนันประเชิญ ทำให้กำนัน “บ” ตัดสินใจเผด็จศึกอย่างเด็ดขาด โดยว่าจ้างทีมฆ่าของผู้กอง “ม” ซึ่งสนิทสนมกันอยู่แล้ว ให้จัดการเก็บกำนันประเชิญ และ ส.ท.โน้ตเป็นการตัดหน้าก่อนที่ตัวเองจะมีภัย
2
จึงไม่น่าแปลกใจที่ ส.ท.โน้ต และกำนันประเชิญ จะถูกจ่อยิงจนตาหลุดหลังจากถูกฆ่ารัดคอเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นการแก้แค้นที่กำนัน “บ” ถูกลอบยิงจนเสียดวงตาไป ๑ ข้าง
3
ตายฟรีทั้งคู่
พลันที่มีข่าวออกมาว่าทีมพระกาฬของผู้กอง “ม” คือมือปืนที่เด็ดหัว ส.ท.โน้ตและกำนันประเชิญ หลายฝ่ายก็มองรูปการณ์ออกว่าคดีนี้ไม่มีทางจับผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน
เพราะการฆ่าครั้งนี้อยู่ภายใต้ บัญชีดำ โดยเฉพาะ ส.ท.โน้ต เป็นมือปืนที่สังหารเหยื่อมานับไม่ถ้วน ตกเป็นผู้ต้องหาหลายต่อหลายครั้ง แต่กลับไม่เคยได้รับโทษทัณฑ์ที่ก่อขึ้นเลย
1
ด้วยไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ จะจัดการตามกฏหมายบ้านเมือง ส.ท.โน้ตจึงลอยนวลไปได้ทุกครั้ง ในที่สุดมาตรการเด็ดขาดจึงถูกงัดออกมาใช้
"เหนือพระกาฬอย่างโน้ต ยังมีพญายม!"
ที่มา : สำนักพิมพ์ข่าวสด
โฆษณา