17 มี.ค. 2020 เวลา 06:57 • ประวัติศาสตร์
ความหมายเพลง ที่ว่าง จากกวีเอกยิบราน ถึงโจ้วงพอส
คนหนึ่ง คือมหาปราชญ์ของแผ่นดิน ผู้มีรอยแผลแห่งรักกรีดลึกกลางใจ จนแปรเปลี่ยนเป็นบทกลอน
คนหนึ่ง คือเจ้าของเสียงสวรรค์ ผู้ซึมซับคำกลอนและขับร้องออกมาเป็นบทเพลงสอนใจ
เรื่องราวความรัก บทเพลงอมตะ และคนสองคนที่เวลาห่างกันร่วมร้อยปี มีเพียง "ที่ว่าง" เท่านั้น คอยยึดโยงพวกเขาเอาไว้
1
จาก Kahlil Gibran ถึงอัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ หรือ โจ้ วงพอสค้นหาความหมายแท้จริงของบทเพลง ในย่อยประวัติบทนี้ครับ
.
.
บ้านอยู่อุทัยธานี เป็นบุตรคนที่สองจากพี่น้องทั้งหมดสี่คน โจ้-อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ หรืออีกชื่อในครอบครัวว่า "เหี่ยว" เกิดวันที่ 14 ตุลาคม 1971 มีอุปนิสัยร่าเริง แจ่มใส และยังเป็นแฟนบอลทีมลิเวอร์พูลตัวยง
โจ้จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด ก่อนเข้าศึกษาต่อ ณคณะวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และเริ่มเส้นทางสายดนตรีตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีที่สอง โดยการเข้า
ประกวดรายการ โค้กมิวสิคอวอร์ด 1993
ด้วยเนื้อเสียงอันมีเอกลักษณ์ สะกดคณะกรรมการทุกท่านให้อยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้า และการเลือกเพลง "อย่าหยุดยั้ง" ของ ดิ โอฬาร โปรเจคต์ ที่เข้ากับตัวโจ้เองราวกับเป็นคนแต่ง ทำให้เขาคว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง และถูกจับตามองว่าจะเป็นคลื่นลูกใหญ่แห่งวงการดนตรี
เมื่อจบการศึกษาในปี 1995 โจ้ได้รับคัดเลือกเข้าโครงการ College Artists ของนิตยสารบันเทิงคดี ที่นี่เขาได้พบกับเพื่อนนักดนตรีอีกสามคนคือ นอ-นรเทพ มาแสง, เอ-พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ และบอส-นิรุจ เดชบุญ
 
หลังร่วมโครงการได้ไม่นาน ทั้งสี่ก็ฟอร์มวงไปแสดงสดในงานของคลื่น ไพเรทเรดิโอ จัดที่ฮาร์ดร็อค คาเฟ่ สยามสแควร์ งานซึ่งแมวมองในวงการดนตรีไปดูกันคับคั่ง และก็เป็นค่ายเบเกอรี่มิวสิคที่ให้ความสนใจ ทั้งสองฝ่ายเริ่มพูดคุยกัน จนโจ้และเพื่อนๆ ได้เซ็นสัญญากับเบเกอรี่มิวสิคในที่สุด
2
เกิดเป็นวงดนตรี ชื่อ "พอส" (Pause)
.
Kahlil Gibran (เคอะห์ลิล ยิบราน) จิตรกรและนักเขียนคนสำคัญของโลก เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1883 เขาคือบุตรคนที่สองจากพี่น้องทั้งหมดสี่คนในครอบครัวชาวเลบานอนนับถือคริสต์ตั้งรกรากอยู่ที่เมือง Bsharri ทางตอนเหนือของประเทศเลบานอน
ด้วยความยากจนข้นแค้นถึงขั้นที่ Gibran ไม่ได้รับการศึกษาเลยในช่วงปฐมวัย แม่ของเขาจึงตัดสินใจหอบลูกทั้งสี่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปตายเอาดาบหน้าที่สหรัฐอเมริกา เรือเทียบท่าที่มหานครนิวยอร์คในปี 1895
ชีวิตวัยเด็กของ Gibran ในอเมริกานั้นเต็มไปด้วยศิลปะ เขาฉายแววด้านการวาดภาพจนคุณแม่ตัดสินใจใช้เงินที่มีอยู่น้อยนิดเป็นค่าสมัครเข้าเรียนโรงเรียนศิลปะ และส่งเขากลับไป Beirut หลังจากนั้น เพื่อศึกษาต่อในวัฒนธรรมตะวันออกกลาง
เรียนอยู่หลายปีจนจบมัธยมปลาย Gibran จึงเดินทางกลับอเมริกา เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ไม่นาน สมาชิกในครอบครัวก็ทยอยเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บทีละคนรวมถึงมารดาของเขาด้วย จนเหลือแค่เพียง Gibran และน้องสาวคนเล็กที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูสองชีวิตด้วยเงินจากการทำงานในร้านตัดเสื้อสตรี
ตกระกำลำบากตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่มีทักษะอาชีพใดๆ เลยนอกจากการวาดภาพเท่านั้น Gibran รู้สึกสิ้นหวังเพราะคิดว่าตนเองเป็นภาระ แต่กระนั้นก็ยังฝืนทนผลิตผลงานภาพวาดออกมาได้เรื่อยๆ จนมีจำนวนมากพอที่จะเปิดนิทรรศการของตนเอง (exhibition) ที่ Day's Studio นครบอสตัน
ในงานนี้เอง Gibran วัย 21 ปี ก็ได้พบกับสตรีนาม Mary Haskell เธอแก่วัยกว่าเขาถึง 9 ปี ประกอบอาชีพอาชีพครูใหญ่ของโรงเรียนสตรีล้วนแห่งหนึ่งในตัวเมือง ทั้งสองใช้เวลาหมดไปกับการพูดคุยกันอย่างออกรส แลกเปลี่ยนทรรศนะด้านศิลปะและบทกวี จนจบงานก็ยังขอแลกคอนแทคเพื่อสานต่อ
1
พระเจ้าทรงใช้เวลาเพียงไม่นานในการทำให้ทั้งสองเกิดความรู้สึกดีต่อกัน Mary ซึ่งเป็นสาวมีชาติตระกูล ศรัทธาในความสามารถของ Gibran มาก และเต็มใจสนับสนุนอาชีพศิลปินของเขาด้วยทุกอย่างที่เธอมี ทั้งความห่วงใย ไปจนถึงเงินทอง
Gibran และ Mary คงความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน แม้ในสายตาคนอื่นอาจดูเป็นมากกว่านั้น กระทั่งในปี 1908 ด้วยเงินสนับสนุนของ Mary, Gibran ก็เดินทางไปเรียนต่อด้านศิลปะที่กรุงปารีส, ฝรั่งเศส
สำหรับเขา หนุ่มน้อยผู้โหยหาและขาดแคลนมาตลอด
ฤานี่
คือความรัก?
.
ปี 1996
สี่หนุ่มวงพอสออกอัลบั้มแรกกับค่ายเบเกอรี่มิวสิค ชื่ออัลบั้ม Push (me) Again ในสไตล์ Pop Rock ผสม Rap นิดๆ มีทั้งหมด 12 เพลง หนึ่งในนั้นคือเพลงช้าอันทำให้วงมีชื่อเสียงข้ามกาลเวลา เพลง "ที่ว่าง" (Empty Space)
เอ-พลกฤษณ์ มือกีตาร์ของวงคือผู้แต่ง เริ่ม Intro ด้วยเมโลดี้กีตาร์อันอิ่มเอม เนื้อเพลงสวยงามราวบทกวี น้อยแต่มาก เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ ผนวกเข้ากับการขับร้องของโจ้ เพลงที่ว่างก็สามารถครองใจแฟนๆ ได้ จากการฟังเพียงครั้งเดียว
เอ ผู้แต่งเปิดเผยว่า เขาได้แรงบันดาลใจจากบทกวีชื่อ "The Prophet" ประพันธ์โดย Kahlil Gibran
1
ที่ว่างแห่งเวลาเกือบร้อยปีระหว่าง Gibran และวงพอส จึงมาบรรจบกัน
.
.
"วันที่เวียนเปลี่ยน วันที่เลยผ่าน รักคงมั่น
เราไม่เคยห่าง เคียงคู่ชิดใกล้ ทุกเวลา"
• Gibran มาถึงปารีสเพื่อศึกษาต่อในโรงเรียนศิลปะ เขาได้รับเงินช่วยเหลือจาก Mary เดือนละ 75 ดอลลาร์ (60,000 บาทในปัจจุบัน)
แม้ตัวจะไกล แต่ใจยังอยู่ข้างกันเสมอ Gibran และ Mary ใช้วิธีเขียนจดหมายหากัน การเชคจดหมายที่กล่องไปรษณีย์กลายเป็นงานอดิเรกไปโดยปริยาย หนึ่งในจดหมายฉบับแรกๆ ของ Gibran มีเนื้อความว่า
1
แมรี่ที่รัก,
เวลาผมรู้สึกท้อ หมอกควันแห่งความคลุ้มคลั่งเข้าปกคลุมจิตใจ ผมจะหยิบจดหมายของคุณมาอ่าน มันช่วยย้ำให้ผมรู้ถึงตัวตนดั้งเดิม และสิ่งสวยงามเล็กน้อยในชีวิตที่ผมมองข้ามไป แมรี่, ดวงใจของผมสถิตอยู่กับคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่หนใดก็ตาม
.
"ยอมทิ้งความฝัน ยอมทุกทุกอย่าง ให้กันและกัน
เพียงได้เคียงข้าง เพียงได้ร่วมทาง โอ รักนิรันดร์"
• ฐานะทางการเงินของ Mary อยู่ในระดับปานกลาง ถึงแม้เธอจะมีรายได้มากจากการเปิดโรงเรียนสตรี แต่รายจ่ายก็มีมากเป็นเงาตามตัว เธอพยายามประหยัดทุกวิถีทางที่ทำได้ เช่น ไม่ยอมไปทานข้าวนอกบ้าน แต่จะทานจากโรงครัวในโรงเรียนเท่านั้น เพื่อส่งเงินไปให้ Gibran ร่ำเรียนศิลปะอย่างไม่ต้องกังวล
.
"ก่อนเคย คิดว่ารักต้องอยู่ ด้วยกันตลอด
เติบโต จึงได้รู้ความจริง"
1
• Mary และ Gibran เมื่อครั้งอยู่ใกล้กันมีความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อน แต่เมื่ออยู่ไกล ทั้งสองคนก็เริ่มรู้ใจตัวเอง จดหมายกลายเป็นคำรัก Gibran คิดถึง Mary จนแทบไม่ได้หยุดพัก ความดีงามของเธอแทรกตัวเข้าไปอยู่ในทุกสิ่งรอบกาย
.
"หากเคียงชิดใกล้ แต่เธอต้องทิ้งทุกอย่าง เพื่อฉัน
ประโยชน์ที่ใด หากรักทำร้ายตัวเอง"
• Gibran เรียนจบในเวลา 1 ปี ด้วยผลการเรียนยอดเยี่ยม มีพัฒนาการทางศิลปะเป็นที่ประจักษ์ จากจิตรกรฝีมือดี ตอนนี้ผลงานของ Gibran มีเอกลักษณ์ อาจเพราะเขาใส่อารมณ์ความรู้สึกที่เกี่ยวกับ Mary ลงไป ต่างจากงานในช่วงแรก
เมื่อเขากลับมาถึงบอสตันปลายปี 1909 Mary คือคนแรกที่เขาพุ่งไปหา และเธอก็รอเขาด้วยใจจดจ่อเช่นเดียวกัน ความรู้สึกของทั้งคู่เปลี่ยนไป มันช่างต่างจากครั้งสุดท้ายที่พบกันเมื่อปีก่อน Mary ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของเธอมาเป็นคำพูดได้ดีนัก ได้แต่กอดเขาและดื่มด่ำไปกับช่วงเวลา บางอย่างภายในใจของเธอกำลังเริ่มก่อตัว
.
"หากเดินแนบกาย มีพลั้งต้องล้มลงเจ็บ ด้วยกัน
ห่างเพียงนิดเดียว ให้รักเป็นสายลมผ่านระหว่างเรา"
• ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น Gibran จะอ่านบทกวีของ Algernon Swinburne ให้ Mary ฟังทุกเย็นเพื่อฝึกสำเนียงภาษาอังกฤษ เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขของทั้งคู่ โลกนี้เป็นสีชมพู รักสุกงอมจน Mary ดูสวยขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
วันที่ 10 ธันวาคม 1910 Gibran มาหา Mary พร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ คุกเข่าลงข้างหนึ่ง ขอเธอหมั้นและบอกกับเธอว่า
"Mary คุณคือแสงนำทางของผม ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ผมจะหามาตอบแทนคุณได้ นอกจากคำสัญญา ว่าจะดูแลคุณไปตลอดชีวิต"
เธอใช้เวลาคิดอยู่หนึ่งคืน ก่อนจะตอบตกลงรับหมั้นในวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันเกิดครบ 37 ปีของเธอเอง
.
"แบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอยเพื่อให้เธอได้ตามหาฝัน ของเธอ"
• อาชีพการเป็นศิลปินของ Gibran ก้าวหน้าไปมาก จากการสนับสนุนของ Mary คู่หมั้น เธอจัดการนัดทานข้าวกับเหล่า vip ในวงการศิลปะของบอสตัน ทำให้งานศิลป์ของ Gibran เริ่มเป็นที่รู้จัก และได้ออกแสดงในแกลเลอรี่ชื่อดังของเมือง
1
ช่องว่างระหว่าง Gibran กับความสำเร็จเล็กลงจนอยู่ใกล้แค่เอื้อม
แต่ช่องว่างระหว่างเขากับ Mary กลับขยายตัวขึ้นช้าๆ
วันหนึ่งในเดือนมกราคม 1911 ราวเดือนกว่าหลังหมั้น ในขณะที่ Mary กับ Gibran กำลังนั่งคลายอิริยาบทกันในสวนหลังบ้าน Mary ก็เอ่ยขึ้นมาว่า
"Gibran, ฉันไม่ต้องการเป็นเจ้าสาวของคุณอีกต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะรักและต้องการเป็นคนที่คุณรักมากเพียงใด ฉันก็มิอาจปฏิเสธความกลัวในใจได้ ว่าสักวันหนึ่งมิตรภาพที่เราฟูมฟักมานานนับปี อาจพังทลายลง ด้วยน้ำมือของเราเอง
Gibran, อนาคตอันรุ่งโรจน์รอคอยคุณอยู่ในเวลาอันใกล้ ผลงานชิ้นเอกของคุณจะถูกจัดแสดงไปทั่วแดนดิน ฉันเชื่อในความอัจฉริยะของคุณมาตลอด โปรดอย่าปล่อยให้งานสมรสของเรา กลายเป็นเชือกคอยฉุดรั้งตัวคุณเลย
1
Gibran, ฉันเป็นเพียงบันไดก้าวเล็กๆ ของคุณ ถึงแม้ในทุกวันของฉันหลังจากนี้จะเต็มไปด้วยน้ำตา แต่มันก็เทียบไม่ได้กับความสุขที่ได้รับรู้ว่า จะมีสตรีคนหนึ่งรอคุณอยู่ สตรีที่เติบโตมาเพื่อคุณ เช่นเดียวกับคุณที่เติบโตมาเพื่อเธอ"
1
.
.
โจ้วงพอสและ Kahlil Gibran มีหลายอย่างที่คล้ายกัน
เป็นลูกคนที่สองจากทั้งหมดสี่คน, เป็นบุคคลมีชื่อเสียง ผลงานได้รับการชื่นชมจากผู้คนมากมาย ทั้งคู่ยังจากไปก่อนเวลาอันควรเหมือนๆ กัน
ก่อน Gibran จะจากไป เขากลั่นประสบการณ์ชีวิตของตนเองออกมาเป็นบทกวีชื่อว่า The Prophet โดยได้แรงบันดาลใจจากชีวิตรักของเขากับ Mary Haskell สตรีผู้มอบความรักบริสุทธิ์ที่อยู่เหนือการครอบครองให้แก่เขา รักแท้ ที่ปราศจากความเห็นแก่ตัว
2
หลังจากนั้น 72 ปี วงพอสจึงนำมาแต่งเป็นเพลง ที่ว่าง บทเพลงลึกซึ้งที่เราอดร้องตามไม่ได้เมื่อได้ยิน
และนี่คือบางส่วนจาก The Prophet ในบทย่อยที่มีชื่อว่า On Marriage หรือ แด่ชีวิตสมรส ผมแปลมาจากบทดั้งเดิมภาษาอังกฤษ ดังนี้ครับ
.
.
"ท่านทั้งสองเกิดมาพร้อมกัน และจะได้อยู่ร่วมกันชั่วนิจนิรันดร์
ท่านจะได้ยืนเคียงข้างกัน ในวันที่ปีกแห่งปรลัยเข้าทลายคืนวัน
ที่นั่น ท่านจะได้ยืนเคียงข้างกัน ในความทรงจำอันเงียบสงัดของพระผู้เป็นเจ้า
แต่ได้โปรด เหลือที่ว่างระหว่างกันไว้
เพื่อให้สายลมแห่งสวรรค์ได้พัดโบยระหว่างท่าน
.
จงมอบความรักให้แก่กัน แต่อย่ามอบพันธะให้แก่กัน
สงวนพื้นที่ไว้ให้คลื่นลมพลิ้วไหว ระหว่างชายหาดแห่งใจของท่านทั้งสอง
จงเติมเต็มแก้วของกันและกัน แต่อย่าดื่มจากแก้วเดียวกัน
จงมอบขนมปังให้แก่กัน แต่อย่ากัดกินขนมปังก้อนเดียวกัน
ร้องเล่นและเต้นรำ ใช้เวลาแห่งความสุขด้วยกัน แต่จงปล่อยให้อีกฝ่ายมีเวลาส่วนตัว
เพราะแม้แต่สายพิณ ยังถูกขึงให้มีระยะห่างของมัน แม้จะถูกบรรเลงในบทเพลงเดียวกัน
.
จงมอบดวงใจ แต่ไม่ใช่เพื่อให้อีกคนเก็บไว้
เพราะหัตถาแห่งชีวิตเท่านั้น ที่มีสิทธิถือครองความรัก
และจงยืนข้างกัน แต่ไม่ใกล้กันเกินไป
เพราะเสาแห่งวิหารอันมั่นคง ยังถูกสร้างให้เว้นระยะห่างออกไป
แม้แต่ต้นโอ้คและต้นสน ก็ไม่เจริญเติบโตภายใต้ร่มเงา
ของกันและกัน...
.
.
เกร็ดเล็ก: Mary Haskell ท้ายที่สุดก็ได้พบรักแท้และเข้าพิธีสมรสกับ Jacob Florance Minis ในปี 1926 ต่างจาก Gibran ที่เสียชีวิตลงอย่างโดดเดี่ยว 5 ปีหลังจากนั้น
1
ในพินัยกรรม Gibran ยกสมบัติทุกชิ้นใน Studio ให้กับ Mary ในจำนวนนั้นมีจดหมายรัก 300 ฉบับที่เขาเขียนถึง Mary รวมอยู่ด้วย
1
เกร็ดน้อย: ครั้งหนึ่งโจ้ วงพอส เคยกล่าวว่า
"ตอนนี้ผมกำลังมีชีวิตที่เป็นอมตะ เพื่อลูกหลานจะได้จดจำและระลึกถึง เมื่อผมจากไป"
- Xyclopz
โฆษณา