17 มี.ค. 2020 เวลา 23:19 • ความคิดเห็น
กระจุก..หรือกระจาย
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่คนเราต้องพร้อมใจกันปรับตัวมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราติดตามข่าวจากตัวอย่างในต่างประเทศ จะเห็นได้ว่า
สิ่งที่ค่อนข้างน่ากังวลที่สุดไม่ใช่การรักษาโรคไวรัส แต่กลายเป็นเรื่องของการที่ไม่สามารถหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้
ถือเป็นจุดวิกฤติ..ที่สำคัญยิ่งยวด
แต่จะหยุดยั้งได้นั้น..ไม่มีใครเป็นเทพเทวดามาขจัดปัดเป่าได้ทัน หากคนเรายังเอาแต่ใจ ทำตามอำเภอใจ แบบตัวใครตัวมันเช่นนี้
ยิ่งทำตัวแบบอิสระเสรีไร้ระเบียบ..ก็ยิ่งยากจะสะกัดและจำกัดเพื่อควบคุมให้ได้ผล
ยามนี้คนเราทุกคน คงต้องทนรับกับสภาวะการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามความเป็นจริง กันเป็นขั้นเป็นตอน
เมื่อสร้างเหตุแบบใดผลย่อมตามมาแบบนั้นเสมอ..
สิ่งที่จะช่วยหยุดยั้งให้อยู่ในระดับที่ควบคุมและสามารถบริหารจัดการให้สังคมสามารถกลับคืนมาสู่ภาวะปกติได้เร็ววัน
จึงขึ้นอยู่กับทุกคน..ที่จะเป็นผู้ให้คำตอบต่อโจทย์ปัญหาร่วมกันเท่านั้น
แง่คิดที่เป็นแนวทางพื้นฐาน สำหรับทุกคนควรจะได้คำนึงถึง อย่างน้อย 6ประการ คือคำย่อว่า"S.P.R.E.A.D" ดังนี้
(1)Self awareness..(พึงสร้างความตระหนักในตนเอง)
ถึงเวลาที่คนเราต้องตื่นตัวต่อสถานการณ์ที่อาจจะลุกลามได้เสมอ จึงต้องหมั่นติดตามสอดส่องดูแล
ที่จะรู้ว่า.."ควรทำสิ่งใดไม่ควรทำสิ่งใด" เพื่อช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น
(2)Protect ..(พึงรู้จักป้องกันตัว)
แนวทางปฏิบัติที่ควรดำเนินการป้องกันตนเองและครอบครัว ที่ได้มีการสื่อสารถือเป็นคำแนะนำที่ต้องหมั่นทำให้ติดเป็นนิสัยในช่วงเวลานี้
เมื่อคนเราป้องกันตัวได้ดีก็เท่ากับการปิดโอกาสการได้รับเชื้อโรคได้ยากยิ่งขึ้น
(3)Reduce Risk (พึงลดความเสี่ยงการระบาด)
ความเสี่ยงต่างๆที่จะลดโอกาสได้ บางครั้งมีมาตรการจากเบาไปถึงหนัก และบางเรื่องอาจจะต้องกระทบวิถีความเป็นอยู่ของคนเราบ้าง ก็ต้องยอมรับสภาวะให้ได้
ความสะดวกสบายที่ลดน้อยลง แต่แลกด้วยการปิดความเสี่ยงการแพร่ระบาด ย่อมคุ้มค่ามากเกินกว่าที่จะคาดคิดจริงๆ
(4)Engage ..(พึงร่วมแรงร่วมใจพร้อมสู้)
แม้ว่าจะสามารถจำกัดพื้นที่ และควบคุมการแพร่ได้ แต่ความสำเร็จที่จะได้ผลดีเยี่ยม
ยังต้องอาศัย ทุกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่จะหยุดยั้ง แบบร่วมด้วยช่วยกัน ดั่งเป็นงานจิตอาสา
เพื่อเปลี่ยนจากคนเดียวรอด สู่ครอบครัวรอด ชุมชนรอด และสังคมประเทศชาติรอด
(5)Attitude ..(พึงมีมุมมองที่สร้างสรรค์)
ยามนี้ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น ล้วนมีทางออกที่สร้างสรรค์เสมอ ขอเพียงมีสติ ใช้ความมีเหตุผล ค่อยๆจัดการไปตามความเป็นจริง
ไม่มีสิ่งใดจัดการได้เบ็ดเสร็จร้อยเปอร์เซ็นต์และรวดเร็วดั่งใจ ต้องค่อยๆฟื้นตัว แก้ไปทีละปม ปิดไปทีละเปลาะ ย่อมคลี่คลายลงได้
เหมือนนักคิดค้นวัคซินก็ต้องทดสอบทดลองอย่างสร้างสรรค์..ใช้ระยะเวลาจนมั่นใจย่อมสำเร็จในเร็ววัน
(6)Do it together ..(พึงลงมือทำไปด้วยกัน)
การหยุดการระบาดได้คือการตัดวงจรการแพร่ให้ได้ผล
ซึ่งต้องเริ่มต้นที่ตัดตอนวงจรการสัมผัส ไม่ให้เกิดระบบการรับและส่งเชื้อเกิดขึ้นด้วยตนเองให้ได้ก่อนเสมอ
เมื่อทุกคนสามัคคีพร้อมเพรียงกัน ทำไปพร้อมๆกัน ทั้งคนสงสัยติดเชื้อกับคนไม่มีเชื้อ..ย่อมเอาอยู่ ทั้งไปและกลับ..จึงย่อมลดการระบาดลงได้
เมื่อคนเรามีตวามตระหนักตื่นรู้ มากกว่าความตระหนกตื่นตกใจ..เราย่อมเผชิญหน้าได้อย่างมีสติมากยิ่งขึ้น..
ปัญหาการระบาดจะคงแค่กระจุกตัวเป็นเฉพาะที่...มากกว่าที่จะแพร่กระจายตัวออกไปทั่ว..จนยากควบคุม..
หวังว่าเราจะทำกันได้..นะครับ
"LL&L18/3/63
โฆษณา