Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บันทึกภาพความทรงจำผ่านมุมกล้อง
•
ติดตาม
18 มี.ค. 2020 เวลา 10:27 • ประวัติศาสตร์
พระสังกัจจายณ์ พระอ้วนไทยที่ถูกสร้างด้วยมโนคติ
.....รูปเคารพเกิดจากความคิด ความเชื่อและสิ่งที่ต้องการสื่อของผู้สร้าง เป็นนัยยะแฝงที่เกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ต่อมาเมื่อมนุษย์จัดระเบียบทางความคิดมากขึ้น ก่อให้เกิดรูปแบบของศาสนาหรือลัทธิ ทำให้รูปเคารพถูกทำขึ้นและแพร่หลายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรูปเคารพที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
.....รูปเคารพที่เกี่ยวข้องทางศาสนานั้นเกิดจากการสร้างเพื่อเป็นตัวเเทนของเทพ หรือศาสดาอันมีคุณต่อโลก ที่เห็นได้ชัด เช่น ศาสนาพราหมณ์ฮินดู ศาสนาพุทธ เหล่านี้เป็นต้น โดยศาสนาพราหมณ์ฮินดูนั้น มีประติมากรรมรูปเคารพที่หลากหลาย และการสื่อความหมายทางประติมานวิทยาหรือการสื่อ ความคิด คติ ความเชื่อ ที่แสดงออกมาเป็นวัตถุมี มีหลายชั้นในเทวรูปรูปเดียว ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความละเอียดทางความคิดของคนในยุคสมัยอดีต ในส่วนรูปเคารพทางพระพุทธศาสนาจะเน้นในด้านการสื่อถึงคำสอน และความเป็นพุทธลักษณะโดยเฉพาะพระพุทธรูป อันเป็นตัวเเทนของพระพุทธองค์ ตลอดจนการสื่อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามพุทธะประว้ติ
.....การสร้างรูปเคารพในทางพระพุทธศาสนาถ้าเป็นการสร้างพระพุทธรูป จะเน้นที่ปางต่าง ๆ เช่น ปางมารวิชัย ปางสมาธิ ปางห้ามญาติ ปางเทศนา ปางปฐมเทศนา ฯลฯ ในทุก ๆ ปางของพระพุทธรูปล้วนแล้วแต่แสดงถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วสมัยที่พระพุทธองค์ยังมีพระชนชีพอยู่ นอกจากนั้นยังต้องแสดงออกถึงความเป็นพุทธลักษณะ 32 ประการที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกอีกด้วย
....ในทัศนคติเดียวกันนี้การสร้างรูปเคารพของพระสาวกหรือพระอรหันต์ ก็จะสร้างในลักษณะเดียวกันคือสร้างให้มีความสมส่วนดูงดงามมีความเป็นสง่า ดูแล้วน่าเคารพกราบไหว้ถึงแม้จะเป็นรูปเคารพ แต่ก็มีประติมากรรมรูปเคารพของพระสาวกบางรูปที่ถูกสร้างให้มีความแปลกออกไปจากคุณลักษณะที่จะต้องจัดให้มีความสมส่วนดูสวยงามอย่างเช่น พระสังกัจจายน์
.....สาเหตุที่พระสังกัจจายน์ถูกสร้างให้อ้วนนั้น สิ่งหนึ่งเป็นการเชื่อมต่อทัศนะคติของครูบาอาจารย์ หรือผู้ทรงภูมิความรู้ในท้องถิ่นโดยเฉพาะในเขตประเทศไทย เป็นการต่อยอดหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา แต่ในขณะเดียวกันเรื่องของความอ้วนก็ยังไม่พ้นคติความเชื่อโดยทั่วๆ ไป คือความอุดมสมบูรณ์
.....ประวัติของพระสังกัจจายน์นั้นแต่เดิมท่านชื่อ กัจจายนะหรือกัญจานะ มีความหมายว่าทอง เพราะผิวพรรณของท่านตั้งแต่แรกเกิดมีความงดงามคล้ายทองคำ ท่านเกิดในตระกูลพราหมณ์ปุโรหิตในราชสำนักของกรุงอุชเชนี เมื่อเจริญวัยขึ้นท่านได้รับการศึกษาตามแบบแผนของวรรณะพราหมณ์ ศึกษาไตรเพทจนแตกฉาน เมื่อบิดาของท่านได้สิ้นลงท่านได้สืบทอดตำแหน่งปุโรหิตต่อจากบิดา ครั้งหนึ่งพระเจ้าจันทปัชโชต กษัตริย์กรุงอุเชนีทราบว่าพระพุทธเจ้าได้เกิดอุบัตขึ้น จึงมีรับสั่งให้กัจจายนะปุโรหิต พร้อมทั้งผู้ติดตามอีก 7 คน ไปเชิญพระพุทธองค์เสด็จมายังกรุงอุชเชนี เมื่อกัจจายนะปุโรหิตพร้อมผู้ติดตามได้เดินทางได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์และได้สดับรับฟังพระธรรมจากพระพุทธองค์แล้ว กัจจายนะปุโรหิตพร้อมผู้ติดตามอีก 7 คนก็บรรลุเป็นพระอรหันต์บวชอยู่ในสำนักของพระศาสดา และได้กราบทูลเชิญเสด็จพระพุทธเจ้าไปยังกรุงอุชเชนีตามพระประสงค์ของพระเจ้าจันทปัชโชต แต่พระพุทธองค์กลับให้พระกัจจายนะไปแทนและเมื่อพระกัจจายนะได้ไปถึงกรุงอุชเชนีแล้วทั้งกษัตริย์และประชาชนต่างก็เลื่อมใส
.....ครั้งหนึ่งที่เมืองโสไรยะ พระมหากัจจายนะต้องการจะไปบิณฑบาตรในตัวเมืองโสไรยะ จึงได้ห่มผ้าสังฆาติ อุ้มบาตร เดินทางเข้าเมือง ในระหว่างทางนั้น บุตรของโสไรยะเศรษฐีนั่งอยู่บนยานกับสหายเพื่อจะไปอาบน้ำ ผ่านมาเห็นพระมหากัจจายนะด้วยท่านเป็นพระที่มีสรีระงดงามผิวพรรณสีดั่งทองคำ ต้องใจบุตรของโสไรยะเศรษฐีคิดไปว่า พระเถระรูปนี้ควรจะเป็นภริยาเรา หรือสรีระผิวพรรณของภริยาเราพึงเป็นแบบพระเถระนี้ ด้วยความคิดนี้ทำให้ร่างกายของบุตรชายโสไรยะเศรษฐีจากเดิมที่เป็นชายก็กลายเป็นหญิง ด้วยความอับอายจึงหนีออกจายานแล้วออกเดินทางไปถึงเมืองตักกศิลา และได้แต่งงานกับลูกชายของเศรษฐีมีลูกด้วยกัน 2 คน ครั้งหนึ่งสหายของบุตรโสไรยะเศรษฐีได้เดินทางไปค้าขายที่เมืองตักกศิลาได้พบกับสหายเก่าบุตรโสไรยะเศรษฐี จึงได้รู้ความทั้งหมด เพื่อนผู้เป็นสหายจึงได้พาบุตรของโสไรยะเศรษฐีกลับ และได้กราบขอขมาโทษต่อพระมหากัจจายนะ เมื่อพระมหากัจจายนะได้อดโทษให้แล้ว ร่างที่เป็นหญิงของบุตรโสไรยะเศรษฐีก็กลับกลายเป็นชาย ละได้ออกบวชบรรลุเป็นพระอรหันต์
.....จากประวัติที่กล่าวมานี้ยังไม่เห็นว่าตอนใดวรรคใดที่พระสังกัจจายน์ หรือพระมหากัจจายนะมีสรีระอ้วนเลยแม้แต่คำเดียว นั้นเป็นไปได้ว่าการที่พระสังกจัจจายน์ หรือพระมหากัจจายนะ ถูกสร้างให้มีสรีระอ้วนนั้นเกิดจากการสร้างกุศโลบายของครูบาอาจารย์ในยุคหลัง และเป็นแนวคิดแถบภาคกลางของประเทศไทย โดยมีแนวคิดไม่ให้หลงใหลยึดติดในสรีระอันงดงาม เพราะความงดงามนั้นไม่ยั่งยืนและต้องถึงความเสื่อมในที่สุด ซึ่งเป็นต้นเหตุของความหลงในรูปเป็นกิเลสที่ควรขจัดออกจากจิตใจ ด้วยเหตุนี้จึงได้ต่อเติมเรื่องราวต่อจากพระไตรปิฏกต่ออีกว่า "พระมหากัจจายนะเมื่อได้รับรู้ความเป็นไปของบุตรโสไรยะเศษฐีแล้วนั้น ก็ได้แปลงสรีระของท่านให้มีความอ้วนดูไม่งาม เพราะด้วยความเมตตาต่อมนุษย์เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวแบบนี้อีก เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดจิตที่เป็นอกุศลของมนุษย์ได้กำเริบอันเป็นบ่อเกิดผลกรรมอันชั่วร้าย
ในการต่อมาเมื่อพระสังกัจจายน์ถูกตั้งให้เป็นตัวเเทนของความอุดมสมบูรณ์ เพราะถูกสร้างให้มีความอ้วนด้วยตามประวัติของท่านที่กล่าวไว้ว่าท่านมีผิวพรรณสีดั่งทองคำ ซึ่งทองคำนั้นเป็นของมีค่าแสดงถึงความมั่งมี ความร่ำรวย สมบูรณ์ในทรัพย์ ตลอดจนความอุดมสมบูรณ์ในด้านการเพาะปลูกการเกษตร ซึ่งจะสังเกตุได้ว่า ในเขตภาคกลางของประเทศไทยจะปรากฏรูปพระสาวกพระสังกัจจายน์ กระจายอยู่ตามพื้นที่เป็นจำนวนมากเพราะภาคกลางเป็นที่ลุ่มสามารถทำการเกษตรได้เป็นอย่างดี
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย