Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Around เรื่องรอบตัว
•
ติดตาม
19 มี.ค. 2020 เวลา 05:43 • ประวัติศาสตร์
ชายผู้ยิ่งใหญที่ต่อสู้กับพลังมืดเเละอำนาจของคน กลุ่มใหญ"่ Oskar Schindler"
th.wikipedia.org
อ็อสคาร์ ชินด์เลอร์ - วิกิพีเดีย
ชินด์เลอร์เป็นเศรษฐีสมัยสงครามโลกครั้งที่2. เขามีโรงงานผลิตกระสุนเเละเครื่องเคลือบขนาดใหญ่อยู่ที่ประเทศโปรเเลนด์.
ซินด์เลอร์เติบโตในเมืองซวิตเทา โมราเวีย และเคยทำงานอยู่ในบริษัทค้าขายหลายแห่ง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2479 ได้เข้าร่วมกับหน่วยสืบราชการลับของนาซีเยอรมนีหรือแอปเวร์ (Abwehr) และเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคนาซีในปี พ.ศ. 2482 ซึ่งก่อนหน้านี้ ในช่วงที่เยอรมนียังไม่ได้บุกยึดครองเช็กโกสโลวาเกียในปี พ.ศ. 2481 ซินด์เลอร์ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการรถไฟและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพให้แก่รัฐบาลเยอรมัน จนถูกจับกุมในข้อหาจารกรรมโดยรัฐบาลเช็ก แต่ก็ถูกปล่อยตัวในปีเดียวกันจากเงื่อนไขในความตกลงมิวนิก
ในปี พ.ศ. 2482 ซินด์เลอร์ได้รับมอบให้เป็นเจ้าของโรงงานภาชนะเครื่องเคลือบในกรากุฟ โปแลนด์ ซึ่งมีจำนวนคนงาน (ณ ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดของโรงงานในปี พ.ศ. 2487) อยู่ประมาณ 1,750 คน ในจำนวนนั้นเป็นชาวยิวราวหนึ่งพันคน ซินด์เลอร์สามารถปกป้องลูกจ้างชาวยิวของเขาจากการถูกส่งตัวไปยังค่ายกักกันนาซีด้วยเส้นสายในหน่วยสืบราชการลับ แม้ว่าในช่วงแรกเขาจะมุ่งความสนใจไปที่การทำกำไรจากธุรกิจก็ตาม แต่ในภายหลังเขาหันกลับมาให้ความสำคัญในการปกป้องลูกจ้างชาวยิวของตน โดยไม่สนว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ซินด์เลอร์ต้องติดสินบนเจ้าหน้าที่จากพรรคนาซีด้วยส่วยก้อนโตและสินทรัพย์หรูหรามากมายที่หาซื้อได้จากตลาดมืดเท่านั้น แลกกับอิสรภาพของลูกจ้างชาวยิวของเขา อีกทั้งยังซื้ออาหารเเละเครื่องประทังชีวิตให้ชาวยิวเหล่านั้นด้วย
ต่อมาในปี พ.ศ. 2487 เมื่อเยอรมนีมีทีท่าว่าจะพ่ายแพ้ในสงคราม หน่วยชุทซ์ชทัฟเฟิล (หน่วยเอสเอส) ของนาซีจึงเริ่มปิดค่ายกักกันในภาคตะวันออกและอพยพนักโทษที่ยังคงหลงเหลืออยู่มายังฝั่งตะวันตก ส่งผลให้นาซีจำต้องสังหารนักโทษในค่ายกักกันเอาชวิทซ์และค่ายกักกันกรอสส์-โรเซินไปเป็นจำนวนมาก ซินด์เลอร์จึงได้ทำการโน้มน้าว เฮาป์ชเติมฟือเรอร์ (Hauptsturmführer) ของหน่วยชุทซ์ชทัฟเฟิล อาม็อน เกิท ผู้บัญชาการค่ายกักกันกรากุฟ-ปวาซอฟ (Kraków-Płaszów) ในละแวกใกล้เคียง ขอย้ายโรงงานของตนไปยังบรึนน์ลิตซ์ในซูเดเทินลันด์ เขาจึงสามารถปกป้องลูกจ้างของตนให้รอดพ้นจากการถูกจับเข้าห้องรมแก๊สไปได้ เลขานุการของเกิท มีเทค เปมเปอร์ จึงรวบรวมและพิมพ์รายชื่อชาวยิวจำนวน 1,200 คน ซึ่งได้มาจากตำรวจแห่งกองตำรวจชาวยิว มาร์เซิล กอลด์แบร์ก ส่งให้เดินทางไปยังบรึนน์ลิตซ์ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2487 ทั้งนี้ซินด์เลอร์ยังคงติดสินบนเจ้าหน้าที่เอสเอสต่อไปจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองภาคพื้นยุโรปสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2488 เพื่อหลีกเลี่ยงการจับลูกจ้างของเขาไปลงโทษและประหารชีวิต ทำให้เขาต้องแลกเอาทรัพย์สินและความมั่งคั่งที่มีอยู่ทั้งหมดไปกับการติดสินบนและซื้อสินค้าหายากจากตลาดมืดมาเพื่อการนี้
หลังจากสงครามสิ้นสุดลง ปรากฎว่าชินเลอร์ได้ใช้เงินเเละทรัพย์สินส่วนตัวจนหมดเกลี้ยง หมดตัว เเต่ผลที่ตามมา
เขาได้รับการละเว้นจากโทษ จากการเป็น "อาชญากรสงคราม"เเละได้รับความช่วยเหลือจากคนยิวจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
จากความเเตกต่างของเขาที่มีต่อ กลุ่มๆใหญ่อย่างนาซีที่ทุกคนต้องมีความคิด ความเชื่อเหมือนผู้นำ(นาซี) เเละเหมือนคนส่วนใหญ่อาจจะเป็นเพราะความกลัวเเละกลัวที่จะถูกไม่ยอมรับรวมไปถึงถูกมองว่าไม่เข้าพวก
ทำให้ทุกคนเลือกที่จะตาม
เเต่อย่างไรก็ตาม
ชินเลอร์ก็เลือกที่จะยืนในความถูกต้องต่อสู้กับความกลัว พร้อมทั้งยังเผชิญกับความเสี่ยงเเละยังต้องสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัว จนเเทบหมดตัว เเต่สิ่งที่ยังเหลืออยู่นั้นคือคุณค่าที่เห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก เเละนั่นคือสิ่งที่ทำจากหัวใจที่บริสุทธิ์เเละอาจหาญเพื่อต่อสู้ กับพลังมืดของคนกลุ่มใหญ่
"ออสการ์ ชินด์เลอร์"
9 บันทึก
21
4
3
9
21
4
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย