21 มี.ค. 2020 เวลา 07:49 • ไลฟ์สไตล์
จากบ้านเกิด สู่ 3จังหวัดชายแดนใต้
ตอนที่1 จากพลเรือน สู่ พลทหาร
สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ในบทความนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ของตัวผมเองเกี่ยวกับ 3จังหวัดชายแดนใต้ที่ตัวผมได้พบเจอมา
บ้านเกิดของผมนั้นอยู่จังหวัดปราจีนบุรี ผมเกิดและโตที่นั่น เมื่ออายุครบกำหนดเกณฑ์ทหาร ปี2557 ผมได้ไปคัดเลือกทหารตามหน้าที่ชายไทย ผมเลือกที่จะวัดดวงด้วยการจับ ใบดำ-ใบแดง
หลังจากที่ผมล้วงมือเข้าไปในไหที่มีเจ้าหน้าที่ทหารถืออยู่ ผมมั่นใจในใจเลยว่าใบดำแน่นอน แล้วผมก็หยิบไปให้กับนายทหารที่ยืนประกาศ
พอได้ยินเขาประกาศผมก็ชื่นใจ "ทหารบก ผลัด2"
ใช่แล้วครับ!! ผมจับได้ใบแดง ลมแทบจับเลยครับ
ผมนึกไม่ออกเลยเลยว่าตัวเองจะทำยังไง จะฝึกไหวหรือป่าว จะทนได้มั้ย เรียกได้ว่าแทบจะเอาเท้าก่ายหน้าผากเลยครับ แต่ผมถือว่าโชคดีหน่อยที่ได้ประจำการในกรมฯ ในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งสะดวกมากเวลาพ่อแม่จะมาเยี่ยม
หลังจากที่ได้เข้ามาฝึกในระยะแรก ถ้าสำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาเลยนั้นจะค่อนข้างหนักพอสมควรครับ แต่ครูฝึกเขาก็เข้าใจนะครับ การฝึกจะเริ่มจากเบาไปหนักเพื่อให้ร่างการปรับสภาพนั่นเอง ต้องขอบอกตรงนี้ก่อนเลยครับ การเป็นทหารนั้นไม่ได้น่ากลัวกลัวอย่างที่คิดครับ สำหรับผม ผมว่ามันทำให้ชีวิตครบรสชาติเลยล่ะครับ
หลังจากฝึกจบ10สัปดาห์ ก็แยกขึ้นกองร้อย คราวนี้แหละครับจะได้รู้ถึงหน้าที่พลทหารไทยที่แท้ทรูด้วยการ "รบกับหญ้า ฆ่ากับมด" นี่คือคำยอดฮิตที่มักจะพูดกันในเพื่อนๆทหาร ที่มักบ่นๆกันเมื่อถึงเวลาจับเครื่องตัดหญ้า5555
หลังจากเป็นพลทหารได้6เดือน ผมเริ่มคิดแล้วครับว่าหลังจากนี้ผมจะทำอย่างไรกับชีวิตดี คือ ผมเป็นพลทหาร2ปีนะครับ ผมเริ่มรู้สึกว่าถ้าผมรอปลดประจำการ กว่าจะไปสมัครงาน กว่าจะได้งาน ผมคงต้องรบกวนเงินทางบ้านอีก ประจวบเหมาะช่วงนั้น โรงเรียนนายสิบทหารบก เปิดรับสมัครนักเรียนพอดี ผมเลยตัดสินใจไปลองสอบดู
ผลปรากฏว่าผมดันสอบติดครับ โดยนักเรียนนายสิบจะใช้เวลาเรียน1ปี ถ้าผมเรียนไม่จบก็ต้องกลับมาเป็นพลทหารจนกว่าจะครบกำหนด แต่ถ้าเรียนจบผมก็จะรับราชการไปเลยโดยเป็นพลทหารแค่6เดือน
เอาไว้ตอนหน้าผมจะมาเล่าถึงชีวิตตอนเป็นนักเรียนนายสิบให้ทุกท่านได้อ่านได้ชมกันนะครับ
รับรองว่าสนุกแน่นอนครับ ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามและรับชมครับ
โฆษณา