21 มี.ค. 2020 เวลา 07:52 • ความคิดเห็น
สถานการณ์และวิกฤติ covid-19 เช่นนี้เราได้เรียนรู้อะไรกันบ้าง
วันนี้ก็อยากจะมาเล่าในส่วนของเรื่อง covid-19 ที่เข้ามามีผลกระทบกับชีวิตพวกเราทุก ๆ คนผมว่าไม่มากก็น้อย ไม่โดยตรงก็โดยอ้อมครับ แต่ในวิกฤติเช่นนี้ ในมุมมองของผมเอง ผมว่าเราทุก ๆ คนจะได้เรียนรู้อะไรกับมันน่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเลย โดยส่วนตัวผมว่ามันมีโอกาสอะไรเล็ก ๆ อยู่เหมือนกันที่จะให้เราเรียนรู้เพื่อที่ทำให้เราดำเนินชีวิตต่อไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่นครับ
1. รูปแบบการทำงานแบบ Work from Home ถือว่าเป็น Big Change เลย เพราะเป็นการบังคับให้หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มมาใช้ระบบ Work from Home เรียกได้ว่าใครที่กำลังเล็ง ๆ กำลังจะทดสอบก็ได้ลงมือทำกันเลยแบบจริง ๆ จัง ๆ ครับ จริง ๆ ที่ผมทำงานอยู่ก็มีระบบที่รองรับอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ทำในรูปแบบจริง ๆ จัง ๆ ในสมัยก่อนหน้านี้ แต่ใช้เรียกการทำงานแบบนี้ว่า Remote Access เวลาที่ต้องไปต่างจังหวัดครับ ย้อนกลับมาการทำงานแบบ Work from Home ผมก็ว่าดีนะ มันดู Focus ในงานดี Distraction ก็น้อยกว่าในออฟฟิศ ไม่ต้องตื่นเช้ามากเพื่อไปเจอการจราจร มีเวลาดูแลตัวเองอย่างออกกำลังกาย และแถมยังสามารถดูแลคนในครอบครัวได้ด้วยครับ แต่ยังไงก็ตามควรจะอาบน้ำแต่งตัวดี ๆ ให้เหมาะสมเผื่อมีประชุมผ่าน Conference ด้วยนะครับ ฮ่าๆๆๆ
2. การพัฒนาตัวเอง ตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการหาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อมาพัฒนาตัวเอง รวมถึงเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ตัวเองอยากทำได้เลยเหมือนกันครับ เช่น บางคนอาจจะลงเรียนคอร์สออนไลน์เพิ่ม บางคนอยากทำ Podcast หรือแม้กระทั่ง YouTuber ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจในการศึกษาและเริ่มทำเช่นเดียวกันครับ ไม่แน่ว่าพอผ่านวิกฤตินี้ไปแล้วเราอาจจะมีรายได้เพิ่มจากส่วนนี้ก็เป็นได้นะครับ
3. การวางแผนการเงิน รอบนี้ประเทศไทยเรามีบทเรียนจากวิกฤติต้มยำกุ้งจากปี 40 มาแล้ว ทำให้เรามีภาคธนาคารที่แข็งแรงมาก หนี้รัฐไม่เยอะ หนี้เอกชนก็น้อย แต่มีปัญาที่หนี้ครัวเรือนที่เยอะแทน ซึ่งถ้าเราผ่านวิกฤตินี้ได้ ประชาชนจะมีภูมิคุ้มกันและการวางแผนการเงินที่ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่เหมาะแก่การเดินเข้าไปคุยกับธนาคารเพื่อเจรจาในส่วนของเงินกู้ต่าง ๆ ได้เลย เพราะธนาคารเองก็ไม่อยากมีหนี้เสียจากการที่ผู้กู้โดนผลกระทบและไม่มีเงินจ่าย เพราะถ้าผู้กู้ไม่มีเงินจ่ายธนาคารหลาย ๆ ราย ธนาคารก็อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกันครับ
4. การรับมือกับข้อมูลและข่าวสาร ซึ่งจากที่เห็นในบรรดา Social Media เองจะเห็น Fake News เยอะมาก เยอะจนไม่รู้ว่าอันไหนข่าวจริงข่าวปลอม ซึ่งส่วนนี้การคิด วิเคราะห์ และแยกแยะเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ๆ เพราะการได้รับข่าวสารปลอมหรือจริงมากเกินไป ก็ส่งผลกับสุขภาพจิตเราได้เหมือนกัน
5. การดูแลสุขภาพ แน่นอนวิกฤติ covid-19 นี้เป็นโรคระบาดที่อุบัติใหม่ ที่ยังไม่มีวัคซีนใด ๆ เพื่อป้องกัน แต่คนเราทุกคนมีภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติส่วนนึง ซึ่งตัวเราเองต้องหมั่นดูแลและรักษามันไว้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การกิน และการพักผ่อน ถึงแม้ว่าภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติอาจจะไม่ได้ช่วยเราทุกโรค แต่อย่างน้อยที่สุดการดูแลสุขภาพเราให้ดีก็เพื่อให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงสำหรับการทำงาน รวมถึงเพื่อรับมือกับการระบาดของโรคที่อุบัติใหม่ในอนาคต
6. สภาพจิตใจ หากเราอยู่ภาวะที่เครียดไม่ว่าจะจากการรับข่าวสารมากเกินไป หรือจากงานที่ทำหรือจากธุรกิจ ลองสำรวจสภาพจิตใจตัวเอง ลองนั่งสมาธิ สวดมนต์ หรือไปออกกำลังกาย ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย และค่อย ๆ หาทางออกของปัญหาครับ ถ้าปัญหาใหญ่ก็ให้ซอยมันออกมาย่อย ๆ ให้เล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ คิดหาวิธีการแก้ไขปัญหาครับ
สำหรับวิกฤตินี้เราเองยังไม่รู้ว่ามันจะกินเวลาไปอีกนานแค่ไหน และหลังจากจบวิกฤติแล้วจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่กว่าจะฟื้นมันกลับมาได้ เราต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมทั้งในช่วงที่ยังมีการระบาด และมองไปให้ถึงหลังจากจบการระบาดนี้เพื่อดำเนินชีวิตเรากันต่อไปครับ
Happy Saturday
ใช้ชีวิตให้สนุกครับ
โฆษณา