21 มี.ค. 2020 เวลา 14:52 • ยานยนต์
Carman ยินดีนำเสนอ
EP5 : วิเคราะห์ Toyota Yaris ATIV & Hatchback เเบบสรุปสั้นกระชับเเละเจาะลึกข้อดี-ข้อเสีย ทำไมยอดขายร่วง
เเบบสรุปสั้นกระชับ
ข้อดี
+เครื่องยนต์ใหม่เเรงขึ้นกว่าเดิม
+ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม
+ภายในพื้นที่ค่อนข้างดีในตัว Hatchback
+ช่วงล่างเซ็ตปานกลาง ใช้งานได้หลากหลายย่านความเร็ว
+การดูเเลซ่อมง่าย ระบบไม่ซับซ้อน
+มีถุงลม 7 ใบทุกรุ่น
+ตัว Hatchback มีรุ่น CROSS ให้เลือก
ข้อเสีย
-เครื่องยนต์เเม้จะดีขึ้น เเต่อืดกว่า Almera เเละ City มาก คันเร่งช้า
-พวงมาลัยเนือยไปหน่อย
-ตัว ATIV เบาะหลังสู้ City เเละ Almera ไม่ได้
-ดีไซน์ภายในค่อนข้างไม่ลงตัว
-ขาดออพชั่น Safety เเบบล้ำๆไปทั้งหมด
-รายละเอียดบางจุดลดต้นทุนมากไปนิดนึง
-ราคาไม่ได้ถูกกว่า Almera
เเละนั่นละครับ คือ การวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย Toyota Yaris ATIV&Hatchback เเบบสั้นกระชับรวดเร็ว สำหรับท่านที่ต้องการความรวดเร็ว
คราวนี้สำหรับท่านที่ต้องการดูการวิเคราะห์เเละเจาะลึกข้อดี-ข้อเสียตามเเบบฉบับของ Carman เเล้วละก็ เลื่อนนิ้วลงไปอ่านด้านล่างเลยครับ
ความเดิมตอนที่เเล้ว
หลังจากที่เราได้เจาะลึก Honda City Gen5, Nissan Almera เเละ Mazda2 Sedan&Hatchback ไปเเล้ว ตามลำดับ
ใครยังไม่ได้อ่าน คลิกได้ที่นี่เลยครับ
คราวนี้เรามาดูรถ Eco Car ของเเบรนด์ยักษ์ใหญ่เบอร์ 1 ในตลาดรวมกันบ้างดีกว่า
เดิมทีหลายคนอาจเข้าใจว่า Yaris ATIV&Hatchback ตัวปัจจุบันนั้นเปิดตัวเเบบใหม่หมดจดเมื่อปลายปี 2017 ซึ่งความจริงเเล้วไม่ใช่นะครับ เนื่องจาก Toyota Vios ตัวปัจจุบัน(Gen4)ที่เปิดตัวช่วงปี 2013 มีจุดด้อยหลายอย่างมากเเละไม่ประสบความสำเร็จ เกือบจะโดน City เเซงหลายรอบมาก จวนเจียนจะโดนเเซงเเล้ว
Toyota ก็เลยคิดไอเดียออกได้ว่าไหนๆก็ไหนๆเเล้วทำไมไม่จับ Vios ถอดเครื่อง 1.5 ลิตรเเล้วใส่เครื่อง 1.2 ลิตร มาเป็น Eco Car เสียเลยละ จะได้เพิ่มในเรื่องของยอดขายเเละได้สิทธิด้านภาษี(ใครยังไม่ได้อ่าน คลิกได้ที่นี่เลยครับ https://www.blockdit.com/articles/5e6e20e2cf88e60997d83772)
ไหนๆก็สู้ City ไม่ได้เเล้วหนีมาอยู่ Eco Car ดีกว่าเเต่ครั้นจะเปลี่ยนเเค่เครื่องเเล้วไม่เปลี่ยนอย่างอื่นคงจะโดนประชาชนถล่มกันทั้งประเทศเเน่
งานนี้เขาก็เลยเอา Vios มาทำการเปลี่ยนเปลือกครั้งใหญ่หรือพูดง่ายๆว่า Big Minorchange เเหละครับทั้งภายนอกเเละภายในจนรถสวยขึ้นกว่าเดิมมาก รวมทั้งใส่ออพชั่นที่มากกว่า Vios เเละที่เด็ด คือ ถุงลม 7 ใบทุกรุ่นย่อย สร้างกระเเสตอบรับที่ดีมากในช่วงเเรก
สรุปง่ายๆก็คือเหมือน Toyota โยก Vios มาเป็น Eco Car โดยการเปลี่ยนเครื่องยนต์,ดีไซน์เเละเพิ่มออพชั่นเข้าไปเพื่อที่จะให้ Yaris ATIV ทำหน้าที่เเทน Vios ส่วน Vios ก็ไม่เน้นขายเเค่ผลิตเอาไว้ให้รถสำหรับหน่วยงานใช้เพราะส่วนมากหน่วยต่างๆต้องการเครื่อง 1.5 ลิตรเพื่อที่จะได้มีพละกำลังสำรองเหลือ เเละต้องเป็น Toyota เพราะมันซ่อมง่ายทนทาน ส่วน Yaris Hatchback ก็ปรับหน้าตาตามตัว ATIV นั่นเอง นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดนะครับ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวเลยทีเดียว รวมถึงมีการนำ BNK48 มาเป็น Presenter ด้วย
ปัญหาคือหลังจากช่วงเเรกผ่านไป ธรรมดาครับ ตัวรถเริ่มไม่สดใหม่ ก็ต้องมีการปรับเครื่องยนต์ใหม่ให้เข้า Eco Car Phase2 เเละวางราคารุ่นย่อยใหม่เมื่อปลายปีที่เเล้ว
ซึ่งราคาหลังเปิดตัวมีดังนี้ครับ
Yaris ATIV
รุ่น Entry CVT 529,000
รุ่น Mid CVT 579,000
รุ่น High CVT 649,000
Yaris Hatchback
รุ่น Entry CVT 539,000
รุ่น Mid CVT 589,000
รุ่น High CVT 649,000
รุ่น Cross CVT 684,000
ก็ต้องยอมรับว่าราคาออกมาถือว่ากลางๆเเละไม่ถือว่าได้เปรียบคู่เเข่งเเต่อย่างใด
เเต่จาก 2 เดือนเเรกถือว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง คือ 2 ตัวถังรวมกันยอดขายน้อยกว่า City!!!! ซึ่งในเมืองไทย Honda ไม่เคยชนะ Toyota ขาดลอยขนาดนี้มาก่อนนะครับ มันต้องมีสาเหตุอะไรสักอย่างเเน่ๆ หรือรถมันเเย่มากขนาดนั้นงั้นหรอ ไม่น่าใช่มั้ง เราไปดูข้อดี-ข้อเสียกันเลยดีกว่าครับ
ข้อดี
-มีเครื่องยนต์ที่เเรงขึ้น ในรุ่นเดิมมี 86
เเรงม้า เเรงบิด 108 นิวตันเมตร มาตอนนี้ถูกปรับจูนโปรเเกรมต่างๆใหม่ให้มี 92 เเรงม้า เเรงบิด 109 นิวตันเมตร ช่วยให้มีอัตราเร่งที่ดีขึ้น ซึ่งจากเดิม 0-100 km/h มีราวๆ 15 วิ มาตอนนี้มันเร็วขึ้นเป็น 14 วิ ซึ่งมันดีกว่า Mazda2 1.3 ถือว่าทำได้น่าพอใจมากขึ้น
-เนื่องจากเครื่องยนต์ใหม่ถูกจูนเป็น Eco Car Phase2 เเน่นอนครับ มันทำให้อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีขึ้นกว่าเดิมมาก ลดค่าน้ำมันจากรุ่นเดิมได้เยอะพอสมควร
-รุ่น Hatchback นั้นมีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางมาก ดีเป็นอันดับ 2 ในกลุ่ม Hatchback เป็นรองเเค่ Nissan Note(ซึ้งเราจะนำมาเจาะลึกในอนาคต โปรดติดตามตอนต่อไป)รวมทั้งตัวเบาะนั่งที่ออกเเบบมาดี คือ เบาะคู่หน้ามันมีเบาะรองนั่งที่ยาวกำลังพอดี มีพนีกพิงหลังช่วงไหล่ที่ยื่นออกมามาก ทำให้การรองรับช่วงไหล่ทำได้ดีกว่า City ในขณะที่เบาะหลังนั้นนอกจากจะมี legroom(ที่วางขา) ยาวพอประมาณเเล้วยังมี headroom(ที่เหนือศีรษะ)ค่อนข้างเยอะกว่ารถ sedan รวมทั้งตัวเบาะรองนั่งเเละพนักพิงหลังค่อนข้างซัพพอร์ตได้กำลังดี ทำให้เบาะหลังที่นั่งได้ค่อนข้างสบายดี
ทีเดียว พ่อตาเเม่ยายถูกใจสิ่งนี้
-มีพื้นที่เก็บของท้ายรถที่ใหญ่ใช้ได้ทั้งในรุ่น ATIV เเละ Hatchback ถือว่าให้ความอเนกประสงค์ในการขนสัมภาระได้โอเค
-ช่วงล่างถูกเซ็ตมาในสไตล์ Toyota ยุคก่อน กล่าวคือ กลางๆ มันมีความนุ่มนวลพอประมาณ เเละมันสามารถยึดเกาะถนนได้ในระดับนึงในความเร็วสูง มันเลยทำให้รถคันนี้เหมาะกับลูกค้าหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่ต้องการความสบายในเมืองเเละการขับทางไกลที่ไม่หวาดเสียว เพียงเเต่ถ้าใครอยากซิ่งอาจจะต้องไปทำช่วงล่างเพิ่มนะจ๊ะ เเต่ในการใช้งานทั่วไปถือว่าครอบคลุมหลายรูปเเบบ
-เนื่องจากเครื่องยนต์ตัวนี้เป็นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร+เกียร์ CVT ที่ลากใช้มาตั้งเเต่ปี 2013 เเล้วเเค่มีการปรับจูนบ้างเล็กน้อย เป็นเครื่องเเละเกียร์ที่มีระบบกลไหเรียบง่ายไม่ซับซ้อนทำให้ในเเง่ของความทนทานเเละการซ่อมบำรุงรักษาค่อนข้างง่ายกว่าเครื่องของคู่เเข่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องของความจุกจิก
-มีถุงลม 7 ใบทุกรุ่นย่อย ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่มีค่ายไหนให้ถุงลมมาจำนวนมากหรือกระจายทุกรุ่นย่อยขนาดนี้ ส่วนมากจะเป็นลักษณะที่รุ่นรอง 2 ใบเเละรุ่นท็อป 6 ใบอย่าง Almera เเละ Suzuki Swift รุ่นที่ใกล้เคียงสุดคือ City ที่มีถุงลม 4 ใบในรุ่นรองเเละ 6 ใบในรุ่นท็อป
ถือว่าดีครับ เป็นการเเข่งขันในเรื่องความปลอดภัยมาตรฐานใหม่ในรถราคาไม่เกิน 7 เเสนเมืองไทย เเละมีกล้องบันทึกภาพหน้า-หลังรถมาด้วยในรุ่น High เพื่อเป็นหลักฐานเวลามีอุบัติเหตุบนท้องถนนเเล้วเราไปฝ่ายที่ถูก จุดนี้ดีมากครับ
-ตัว Hatchback มีรุ่น CROSS ให้เลือก ซึ่งรุ่นนี้นอกจากจะมีชุดเเต่งรอบคันเเล้ว ยังยกสูงขึ้นอีก 30 มม. ทำให้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการนำรถไปลุยน้ำท่วมที่ไม่ได้หนักมากหรือเพิ่มความสมบุกสมบันให้กับรถ เป็นทางเลือกที่ดีที่มีเเค่คันเดียวในกลุ่มนี้ที่มีให้เลือก
ทีนี้เรามาดูข้อเสียกันบ้างดีกว่า
-เครื่องยนต์เเม้จะเเรงขึ้น เเต่ต้องยอมรับว่าคู่เเข่งค่ายที่ใช้เทคโนโลยีเทอร์โบนั้นไปค่อนข้างไกลเเล้วในขณะที่ Yaris เป็นเครื่องเดิมไม่มีเทอร์โบ ถ้าเทียบกันเเล้ว Yaris อืดกว่า Almera เเละ City เเบบคนละโลกครับ ใครก็ตามที่ชอบในเรื่องของอัตราเร่ง ขับต่างจังหวัดบ่อย หรือต้องการพละกำลังสำรองในการขับขี่เยอะๆ Yaris ไม่ใช่คำตอบครับ รวมถึงคันเร่งที่บางครั้งกดไปเท่าไหร่ ความจริงอาจทำงานน้อยกว่านั้น กล่าวคือ ตอบสนองได้ไม่ดีนัก ฉะนั้น กดเต็มไปเลยครับคันเร่ง
-เเม้พวงมาลัยจะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่า Vios 2013 เเล้ว อย่างไรก็ตาม การตอบสนองยังไม่ไวพอนัก ยังออกอาการเนือยๆอยู่บ้าง เเละตอนความเร็วสูงต้องใช้การคัดซ้าย-คัดขวาช่วยทำให้ไม่มั่นใจในการขับขี่เร็วๆมากนักซึ่งจุดนี้ถือว่ายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
-ตัว ATIV นั้นมีพื้นที่เท่ากับ Vios ครับ คือ สู้ Almera กับ City ไม่ได้ โดยเฉพาะเบาะหลังซึ่งเบาะรองนั่งค่อนข้างสั้นกว่า City มี legroom น้อยกว่าทั้ง City เเละ Almera ในขณะที่ headroom นั้น(นั่งเเบบก้นชิดเบาะ)ใน City ผมสามารถนั่งเเล้วพอขยับหัวได้ คือ เหลือพื้นที่ประมาณ 1-2 นิ้วมือในเเนวนอน ใน Almera นั้นหัวผมติดเพดานพอดี ส่วนใน ATIV เเย่กว่าหัวติดครับ คือ โดยหลังคากดเลย เเปลว่า headroom เเละ legroom เล็กกว่าทั้ง 2 คันก่อนหน้า ทำให้เบาะหลังสบายสู้รุ่น Hatchback ไม่ได้
พ่อตาเเม่ยายดิสไลค์สิ่งนี้
-ดีไซน์ภายใน โดยเฉพาะเเผงคอลโซลด้านหน้านั้นเน้นโทนสีดำเข็มมากไปนิดนึง ทำให้เวลามองมาปุ๊ป เเผงคอลโซลดูไม่สวย เเละดูดับไปเลย ขณะที่คู่เเข่งเเผงคอลโซลเขาจะมีการตัดกันของสี อย่าง Almera ตัว V เเละ VL ก็จะมีคอลโซลหน้าสีเบจทั้งเเผงตัดกับพื้นหลังดำ ใน City ตัว SV ก็จะใช้คอลโซลส่วนบนสีดำ ส่วนขอบล่างสีเบจ ในตัว RS เเม้จะเน้นดำเหมือนกัน เเต่ City นั้นดูดำน้อยกว่า คือ ออกลักษณะสีเทามากกว่า ส่วน Mazda2 ไม่ต้องพูดถึงครับ รายนั้นใช้หนังกลับยกคัน คอลโซลหน้าหุ้มหนังสีฟ้าสวยงาม ทำให้ในภาพรวมเเผงคอลโซลหน้าของ Yaris ค่อนข้างดูไม่มีความลงตัวเอาเสียเลย รวมถึงด้วยความที่ช่องเเอร์หรืออะไรต่างๆพยายามดัดเเปลงจาก Vios ให้ดีขึ้น เเต่เเน่นอนอะครับ ด้วยความที่มันเป็นโครงสร้างเดิม มันเลยบิดไปมากกว่านี้ไม่ได้ เมื่อมองรวมๆมันจึงดูไม่ค่อยลงตัว
-เเม้จะมีถุงลม 7 ใบทุกรุ่นย่อยซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ทว่าระบบความปลอดภัยเเบบป้องกันที่ล้ำสมัยกลับไม่มีมาให้เเม้เเต่อย่างเดียว ทั้งระบบเตือนการชนด้านหน้า,ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ,กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา,ระบบตรวจจับวัตถุรอบคัน,ระบบเตือนจุดบอดสายตาเเละระบบเตือนเมื่อรถถอยผ่าน ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ Yaris ไม่มีสักอย่าง ขณะที่ Almera มีทุกอย่าง ทำให้เสียเปรียบเป็นอย่างมากในหัวข้อนี้
-คราวก่อนที่เราได้ตำหนิไปว่าทำไม Almera กับ City ถึงไม่มีเข็มขัดนิรภัยคู่-หน้าปรับสูงต่ำได้ ทั้งที่มันต้องมีเป็นอุปกรณ์เบสิคขั้นพื้นฐานเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่มีท่าขับที่ถนัดที่สุด ปลอดภัยที่สุดตามท่านั่งที่ถูกต้อง (ซึ่งเพิ่มเติมจาก EP4 ว่า Mazda2 เข็มขัดปรับสูง-ต่ำได้นะครับ)เเต่ Yaris มีเข็มขัดปรับสูง-ต่ำได้ซึ่งโอเคครับเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เเต่กลายเป็นว่าพวงมาลัยปรับได้เเค่ขึ้น-ลง ปรับเข้า-ออกไม่ได้!!! คือเเบบ โอ้วว้าวเลยครับ 2 คันนู้นเข็มขัดปรับไม่ได้ พอมาคันนี้เข็มขัดปรับได้ เเต่พวงมาลัยดึงเข้า-ออกไม่ได้ เเละในรุ่น Entry เบาะคนขับไม่สามารถปรับสูง-ต่ำได้เเย่กว่าเดิมอีก อันนี้เป็นการบ้านที่ไม่ใช่เเค่ Toyota นะครับ ทุกค่ายที่ขาดส่วนไหนไปในเรื่องนี้ต้องนำไปปรับปรุงให้มันเป็นในสิ่งที่ควรจะเป็น ค่ายไหนมีครบอยู่เเล้วชื่นชมครับ เเต่ค่ายไหนที่ไม่มี กรุณาใส่เพิ่มมาด้วยนะครับ ให้ครบตามนี้ทุกรุ่นย่อยนะครับ🙏🙏
1.เบาะคนขับปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
2.เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าปรับสูง-ต่ำได้
3.พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
-เเผงคอลโซลหน้าไม่มีวัสดุบุนิ่มเลย ซึ่งมันไม่ได้เเย่หรอกครับ เพียงเเต่คู่เเข่งหลายค่ายรุ่นท็อปนั้นล้วนมีวัสดุบุนิ่มเสริมภาพลักษณ์ความพรีเมี่ยมกันหมดเเล้ว ดังนั้นในรุ่น High ก็ควรจะใส่มาซะนิดนึงครับ เรียกว่าตามกระเเส เเละจุดที่เหมือน Almera เเละยังไม่ได้เเก้ไขจาก Vios คือ ยังคงใช้ Future Board ในการปิดกั้นระหว่างเบาะหลังกับห้องสัมภาระท้ายครับ มันดูลดต้นทุนมากไปนิดนึง ความจริงควรจะเป็นวัสดุซับเสียง
เเบบที่ City ทำ เพื่อให้ดูมีความใส่ใจมากขึ้น
-ราคาไม่ได้ถูกกว่าคู่เเข่ง เช่น รุ่น High ราคา 649,000 บาท เเม้จะเเพงกว่า Almera ตัว VL เเค่ 10,000 บาทก็จริงเเต่สิ่งที่กว่ามีเเค่เบาะหนัง,กล้องบันทึกภาพกะเรื่องความทนทานการซ่อมบำรุงของตัวรถ นอกนั้นเเพ้เขาหมดครับ ทั้งเครื่องยนต์ที่อืดกว่าคนละโลก ออพชั่น Safety หายเกลี้ยง ช่วงล่างไม่เฟริ์มเท่า เเละเบาะหลังไม่ดีเท่าครับ หรืออีกทางเลือกนึง ก็จะมี City รุ่น SV(ตัวรองท็อป)ราคา 665,000 บาท ซึ่งเเม้จะเป็นเเค่รองท็อปเเต่เอาเข้าจริงออพชั่นก็ใกล้เคียงกับ Yaris รุ่น High ที่เป็นรุ่นท็อปเลยครับ เเถมได้ห้องโดยสารกว้างกว่ามากโดยเฉพาะเบาะหลังนั่งฟินได้ตลอดทาง ภายในวัสดุดีกว่า เครื่องยนต์เเรงที่สุดในกลุ่ม พวงมาลัยดีกว่า อาจเป็นรองเเค่ช่วงล่างในความเร็วสูงเเละไม่มีกล้องบันทึกภาพ เเละเเนวโน้มความทนทานของตัวรถ ซึ่งราคาเเพงกว่า Yaris High เเค่ 16,000 บาทครับ เเถมทั้ง Almera เเละ City ตัวถังสดใหม่กว่า Yaris มากเพราะเพิ่งออกมาไม่นาน
สรุป-ทางสายกลางตามหลักมัชฌิมาปฏิปทา
ดูเหมือนว่า Yaris นั้นจะออกไปในลักษณะที่ถ้าเปรียบเหมือนคน คือ คนที่เข้ากับทุกคนง่าย ไม่เลือกพรรคเลือกพวก เป็นกลางซะทุกอย่าง ไม่มีสีดำหรือสีขาว มีเเต่สีเทา
หรือนึกภาพง่ายกว่านั้น คือ "ข้าวไข่เจียว" ครับ เป็นอาหารที่เเม้จะไม่ได้มีราคาเเพง ดูหรูหราไฮโซ เเต่เป็นอาหารที่ใครๆก็รู้จัก กินง่าย อร่อย มีคุณค่าทางสารอาหารระดับนึง
Yaris นั้นเหมาะกับกลุ่มคนที่ไม่ได้เน้นพละกำลังของรถมากนัก ขับไป-กลับที่ทำงานเป็นหลัก อาจขับไปต่างจังหวัดบ้าง ช่วงล่างก็พอใช้งานทั่วไป ออพชั่นติดรถมีมาให้พอประมาณ ไม่อยากจ่ายราคาเท่า City เเละที่สำคัญ คือ ไม่ชอบอะไรที่มีความเสี่ยง ชอบการที่สามารถขับได้สบายใจ ซ่อมง่าย ทนทาน รถไม่งอเเง หรือมีพ่อตาเเม่ยายที่ชื่นชอบ Toyota โดยที่รุ่น Hatchback นั้นเบาะหลังนั่งสบายกว่ามาก Yaris คือ คำตอบครับ
สิ่งที่ Yaris ทำได้ คือ เพิ่มออพชั่นเเละเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นเเบบเทอร์โบนั่นละครับน่าจะทำให้ Yaris ขายได้ดีขึ้น
ในช่วงหลายปีหลังต้องยอมรับว่าเป็นช่วงขาลงของ Toyota ไม่เพียงเเต่กลุ่มรถเก๋งเท่านั้น กลุ่มรถกระบะก็เช่นกัน จะเห็นได้ว่าทั้ง Honda เเละสามีของของ Honda อย่าง Izuzu นั้นเข้ามาเบียดยอดขายหายใจรดต้นคอมากๆ หลายครั้งในบางเดือนก็เเซง Toyota ยิ่งถ้าเป็นกลุ่มรถเก๋งเเทบจะพูดได้เเล้วว่า Honda ชนะ Toyota เป็นที่เรียบร้อยเเล้วเมื่อพูดถึงยอดขายภาพรวม
อาจด้วยความที่ยุคนี้มีอินเตอร์เน็ตเข้ามาเเล้วผู้คนส่วนมากเริ่มศึกษาหาข้อมูลมากขึ้น รวมถึงเเบรนด์รองจาก Toyota ทำรถออกมาดีขึ้น เลยทำให้คนหันไปซื้อยี่ห้ออื่นมากขึ้น เเละซื้อรถด้วยอารมณ์มากขึ้น ไม่ใช่ว่ารถ Toyota ไม่ดีนะครับ Toyota ก็ถือว่าพัฒนามากกว่าสมัยก่อนที่ให้ออพชั่นมาเเห้งสนิท ทำให้รถขับขี่ดีขึ้น สวยขึ้น เเต่ทว่าโดยบุคลิกกลางๆของ Toyota นี่เองอาจทำให้มันไม่มีจุดเด่นที่ชัดเจน กลุ่มลูกค้าอาจไม่ชัดเจน ไม่เหมือนกับค่ายอื่นๆที่บางค่ายเน้นนั่งสบาย เน้นออพชั่น เน้นขับสนุก เเล้วเเต่เเต่ละยี่ห้อไป ซึ่ง Toyota ก็ต้องอย่าละทิ้งเรื่องความทนทานเเละศูนย์บริการหลังการขายละครับ ให้คงรักษาความดีเอาไว้เช่นนี้เเบบเดิมครับ
ทีนี้ก็เลือกเส้นทางครับว่าจะทำรถออกมาในเเนวไหน ชัดเจนไปเลย อย่าเอาเเบบครึ่งๆกลางๆ คนซื้อรถปัจจุบันซื้อเพราะอารมณ์ก่อนครับว่ารถคันนั้นใช่สำหรับเขาไหม คุณมีหลายเส้นทางให้เลือกเดินไป หาทางพิชิตใจลูกค้าให้ได้ตามทางที่ตัวเองคิดว่าถนัดครับเเล้วลูกค้าจะมาหาคุณเอง
เหมือนเรื่องการมีความรัก ให้คุณมีความชัดเจน ชอบบอกชอบ ใช้เส้นทางที่คุณคิดว่า"ใช่"เพราะถ้าคุณทำตามหัวใจตัวเอง สักวันนึงคนที่ใช่ก็จะมาหาคุณเองครับ❤❤❤ มันอาจไม่ต้องมีเหตุผล....
เเละทั้งหมดนั่นละครับ คือ การเจาะลึกข้อดี-ข้อเสีย Toyota Yaris ATIV & Hatchback อย่าลืมนะครับ ถ้าชอบบทความเเบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดเเชร์ กดฟอลโลว์กันนะครับ
เเละอีกช่องทางการติดตามนึงสำหรับผู้อ่านย้อนหลัง คือทาง FB: Carman สามารถติดตามย้อนหลังจากเผยเเพร่ทาง Blockdit 2 วัน ไปกดไลค์กดติดตามกันได้นะครับ
ใครมีความรู้สึกยังไง, มีข้อเสนอเเนะสามารถคอมเม้นลงมาที่ด้านล่างนี้เลยนะครับ ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ
วันนี้ลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา