Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าคนเข้าป่า
•
ติดตาม
27 มี.ค. 2020 เวลา 01:20 • ปรัชญา
โอบกอดต้นไม้ไว้
เราทุกคนรู้กันดีว่าต้นไม้มีความสำคัญอย่างไร ถ้าไม่มีต้นไม้เราอาจมีชีวิตอยู่ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว คุณพร้อมจะพิทักษ์เพื่อต้นไม้ ได้มากแค่ไหนกัน?
วันนี้มีผมเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 100 กว่าปีที่แล้ว กับเรื่องราวของ
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย ณ เมืองบิสนัวส์เมื่อ พ.ศ. 2274 กษัตริย์แห่ง
แคว้นจอดปุระได้ส่งคนไปตัดต้นไม้เพื่อนำมาสร้างพระราชวังใหม่ของพระองค์ พวกคนตัดไม้จึงได้แบกขวานถืออาวุธเข้าป่า หมายมั่นที่จะตัดไม้ ตามคำบัญชาที่ได้รับมา
เมื่อเดินทางไปป่าที่อยู่ห่างหมู่บ้านบิสนัวส์ไปไม่ไกลนัก ชาวบ้านต่างตกใจกับภาพที่ได้เห็น กลุ่มชายฉกรรถือขวาน เลื่อย ชาวบ้านต่างอกสั่นขวัญแขวน พวกเขาเคยชินแต่การคุ้มครองสัตว์ป่าและต้นไม้ แต่ ณ บัดนี้มันกำลังถูกตัด
จากนั้นมีคุณแม่วัยสาวคนหนึ่งได้วิ่งเข้าไปโอบกอดต้นไม้ไว้ แล้ววิงวอนอ้อนวอนขอให้พวกเขาหยุดตัดต้นไม้ ลูกสาวสามคนของเธอก็ทำตามด้วยเช่นกัน
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
.
.
.
.
ปังงงง!!!!!
สี่แม่ลูกได้เสียชีวิตลง พร้อมกลับต้นไม้ที่ไม่สามารถปกป้องได้ คนตัดไม้ตัดต้นไม้ต่อไปอย่างไม่ใยดี พอตกกลางคืน ชาวบ้านอีก 363 คนก็ต้องจบชีวิตลงเช่นเดียวกับสี่แม่ลูก เพียงเพราะพยายามรักษาผืนป่า ไม่ให้ใครมาพรากไป
ข่าวนี้ได้ล่วงรู้ไปถึงกษัตริย์ พระองค์รู้สึกเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์นี้ยิ่ง
นัก จึงรับสั่งห้ามตัดต้นไม้ใกล้หมู่บ้านชาวบิสนัวส์อีกเป็นอันขาด
Cr. https://www.pinterest.com/pin/457748749599639586/
เมื่อประมาณยี่สิบปีมานี่เอง เหตุการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง บริเวณป่าไม้
บนภูเขาในภาคเหนือของอินเดีย ชาวบ้านเริ่มตระหนักดีแล้วว่าการตัดไม้มากเกินไปเป็นอันตรายแก่หมู่บ้านของตน หากไม่มีต้นไม้แล้ว ฝนจะชะดินพังทลาย เพราะไม่มีรากไม้ค่อยยึดผืนดินให้เป็นปึกแผ่น และแม่น้ำจะไหลล้นเอ่อท่วม แต่ดูเหมือนว่าจะสิ้นหนทางป้องกันป่าเอาไว้เสียแล้ว เพราะบริษัทค้าไม้มีทั้งเงิน แรงงาน และอำนาจ ได้เข้ากว้านซื้อพื้นที่ป่าเอาไว้แล้ว
พวกชาวบ้านทำเช่นเดียวกันกับชาวบิสนัวส์ครั้งเมื่อสมัยก่อนโน้น คือพลีชีพตนเองอุทิศให้ต้นไม้ ทุกครั้งที่คนงานเข้าไปตัดไม้ คนทั้งหมู่บ้านต่างเร่งรีบ
เข้าป่า ไม่ว่าชายหรือหญิงหรือเด็กเล็ก ๆ ต่างโอบกอดต้นไม้เอาไว้
จึงเกิดเป็นขบวนการชิพโก ( Chipko ) ขึ้นมา ซึ่งหมายถึงการโอบกอด
ด้วยวิธีโอบกอดต้นไม้เอาไว้ ชาวบ้านจึงรักษาต้นไม้ให้ปลอดภัยได้
หนึ่งปีผ่านไป ผู้มีความโลภที่ไม่สิ้นสุดไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ในปีพ.ศ. 2517
บริษัทค้าไม้มีเป้าหมายจะโค่นป่าใกล้หมู่บ้านเรนิ โดยใช้เงินล่อเหล่าชายในหมู่บ้าน รวมทั้งผู้นำขบวนการชิพโก ให้ออกไปนอกหมู่บ้านตลอดทั้งวัน
เมื่ออำนาจเงินเข้าครอบงำ คนตัดไม้จึงรุกเข้าไปถึงหมู่บ้านเรนิได้
ขณะนั้นยังเช้าตรู่ เด็กหญิงตัวเล็กกระจิ๋วหลิววิ่งจี๋ออกจากป่ามุ่งมายังหมู่บ้านพร้อมเสียงตะโกน "คนตัดไม้มาแล้ว"
จากนั้นเพียงชั่วครู่เสียงสัญญาณจึงดังเตือนไปทั่วหมู่บ้าน บรรดาผู้หญิงทั้งหลายในหมู่จึงรวมตัวกันเข้าป่า แหวกหญ้าฝ่าดงขวากหญ้าเพื่อเข้าไปเผชิญหน้ากับพวกตัดไม้
"อย่าตัดต้นไม้พวกนี้เลยนะ" ทุกคนช่วยกันวิงวอน พร้อมโอบกอดต้นไม้ไว้
พวกคุณกำลังจะทำลายหมู่บ้านของเรา เราจะไม่มีน้ำใช้ ไม่มีป่าอีก!!
ไม่มีแม้หญ้าเลี้ยงสัตว์ ไม่มีเชื้อเพลิง และไม่มีอาหารจะกิน คุณกำลังจะฆ่าเราทั้งเป็น
แต่คนตัดไม้หาฟังไม่กลับชักปืนออกมา พร้อมกับพูดว่า
"หลีกไปให้พ้น ไม่งั้นตาย "
แต่หญิงสาวทั้งหลายไม่กลัวตาย ยืนโอบกอดต้นไม้ไว้แน่นกว่าเดิม "ยิงสิ!! "
ถ้าตัดต้นไม้ก็ฆ่าพวกเราเสียก่อน
พวกเราจะไม่ยอมให้พวกแกแตะต้องต้นไม้.....แม้เพียงต้นเดียว
พวกคนตัดไม้ขมขู่ ด่าทอ และโต้เถียงบอกให้ถอยไป ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม
กัน และเมื่อเวลาผ่านไปพวกผู้หญิงก็ได้มาสมทบเพิ่มเติม พวกตัดไม้จึงต้อง
ล่าถอยออกจากป่าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นับแต่เหตุการณ์ต่อต้านที่เรนิเป็นต้นมา ขบวนการชิพโกจึงเจริญเติบโตและขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว จากบริเวณเทือกเขาตอนเหนือ แผ่ขยายเข้าไปยังส่วนต่าง ๆ ของอินเดีย ผู้ใดต้องการจะทำลายป่าไม้ ผู้นั้นจะต้องเจอเรา
ปัจจุบันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อำนาจเงินเข้าครอบงำผู้คน ผลประโยชน์แก่ตนเอง ผู้คนเก็บเกี่ยวตักตวงเท่าที่จะมากได้ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ทรัพยากรถูกถลุงไปอย่างมากมาย สิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ไปหลายชนิด และมีอีกหลายชนิดกำลังจะสูญพันธุ์ตามไป หรือเราจะต้องรอเป็นอย่างกษัตริย์ที่ให้มีคนตายก่อน จึงจะ "เห็นค่า" ของสิ่งที่สูญเสียไป
อำนาจที่มากขึ้นความโลภยิ่งมากตาม อย่าเห็นคุณค่าตอนที่เสียไป
เวลาไม่อาจย้อนคืนได้เมื่อเสียไปแล้วเราจะเสียไปตลอดกาล
ข้อคิดจากคนเข้าป่า : หากเรามองต้นไม้เป็นเพื่อน เราจะไม่ทำร้ายต้นไม้
เพราะเพื่อนกัน ไม่ทำร้ายกัน
เรียบเรียงโดย : เรื่องเล่าคนเข้าป่า
ปล. ทุกวันนี้หากเราไปโอบกอดต้นไม้ คงโดนหาว่าบ้า! แต่สำหรับผมทุกครั้งที่ผมเข้าป่า ผมจะหาช่วงเวลา ๆ หนึ่งไปโอบกอดต้นไม้ พร้อมพูดคำว่า
" ขอโทษ และ ขอบคุณ " ว่าง ๆ อยากชวนทุกคนไปกอดต้นไม้และพูดคุยระบายความรู้ที่อัดอั้นในใจ บรรยายความเครียดต่าง ๆ นานา กับต้นไม้
แล้วคุณจะได้ประสบการณ์ที่แปลกออกไปอย่างแน่นอน
2 บันทึก
30
13
6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับต้นไม้
2
30
13
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
โฆษณา
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย