เฟดพิมพ์เงินจนครบจำนวนแล้ว : สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น
การ์ดเฟดจอมพิมพ์เงิน
จากข่าวล่าสุดเมื่อวาน 21 มีนาคม 2563 รัฐบาลและเฟดยินดีจ่ายเงินให้ประชาชนเพิ่มอีก 1ล้านล้านเหรียญ กลายเป็นทั้งหมด 2 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในยามที่เกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดครั้งนี้
และผู้เขียนได้ไปดูคลิป YouTube ของผู้ที่ติดตามตลาด repo คือตลาดตราสารหนี้และพันธบัตร ซึ่งข้อมูลอยู่ในเว็บของเฟดเอง
ปรากฏว่าในช่วงเดือนมีนาคมนี้ เฟสได้พิมพ์เงินใส่ตลาดนี้ ไปร่วมๆ 14 ล้านล้านเหรียญ
คลิปของคุณ George gammon
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า วิกฤต corona ไวรัส ทำให้สภาพคล่องเหลือน้อยมาก ทุกคนจึงแห่ขายพันธบัตรเพื่อนำเงินมาเสริมสภาพคล่อง
พันธบัตรและตราสารหนี้ถูกขายมากที่สุดเนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ที่สุดมีเงินหมุนเวียนเยอะมาก รองลงมาก็คือตลาดหุ้น และอันสุดท้ายก็คือทองคำ
เป็นเหตุให้ราคาทองคำช่วงนี้ลดลงมา อย่างน่าตกใจ แต่ถ้าเทียบกับตลาดหุ้นแล้วก็ยังน้อยกว่าเยอะ
การคำนวณผลของการพิมพ์เงิน
จากภาพจะอธิบายได้ว่าก่อนเกิดวิกฤติ GDP จะอยู่ที่ประมาณ 20 T จากปริมาณเงิน 4 T คูณกลับสภาพคล่องระดับ 5 ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ 30,000 จุด
พอเกิดวิกฤตโรคระบาดไวรัสcovid 19 ขึ้น ทุกคนต้องอยู่บ้านและเกิดการ shutdown ประเทศขึ้น สภาพคล่องเลยเหลือเพียงแค่ 1
ดังนั้นหากเราคำนวณ GDP จากสูตรเดิม จะเหลือจีดีพีที่ 4T ซึ่งถ้าคิดเป็นดัชนีหุ้นดาวโจนส์ก็อยู่ที่ประมาณ 6,000 จุด
เป็นเหตุให้ทุกคนแย่งกันขายหุ้น และเกิดเซอร์กิตเบรกเกอร์หลายครั้งจนดัชนีลงไปต่ำกว่า 20,000 จุด
และในครั้งนี้เฟดก็ได้เข้ามาแทรกแซงในตลาดอีกครั้งหนึ่ง โดยได้ใส่สภาพคล่องเข้ามาอีกประมาณ 16 T รวมกับ เงินในระบบที่มีอยู่แล้ว 4T กลายเป็น 20T ภายใน 1 เดือน
ดังนั้น GDP จึงกลับมาอยู่ที่ 20T ตามเดิม
ซึ่งถ้าหากข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แสดงว่าในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ที่กำลังเกิดวิกฤตโรคระบาดโควิดอย่างหนัก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ก็จะกลับไปยืนอยู่ที่ 30,000 จุดตามเดิม อย่างน่าอัศจรรย์
บางคนจะคิดว่าพิมพ์เงินมาเท่าไหร่ก็ไม่มีผล แต่ว่าผู้เขียนมีประสบการณ์จากปี 2008 แฮมเบอร์เกอร์ไครซิส พอเฟดพิมพ์เงินออกมามากๆ ตอนนั้นประมาณ 4T หุ้นก็เปลี่ยนเป็นขาขึ้น จากที่นึกว่าจะล่มสลาย
ก็เหมือนหุ้นไทยอาจจะกลับไปยืนแถว 1,600 1,700 จุดได้เหมือนกัน อย่างไม่น่าเชื่อ
และหลังจากที่วิกฤตคลี่คลาย ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติได้ สภาพคล่องกลับมาเท่าเดิมก่อนเกิดวิกฤติ
ดาวโจนส์ก็สามารถพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 100,000+ จุดได้อย่างง่ายดายในช่วง 3-5 ปีข้างหน้านี้
นั่นก็ส่งผลให้พื้นฐานของทองคำเปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะมีการพิมพ์เงินเข้ามาในระบบจำนวนมากมายมหาศาล
ทองคำคือ safe haven
ส่งผลให้ราคาเป้าหมายของทองคำเปลี่ยนไป อยู่ที่ 50,000 ถึง 100,000 บาท ต่อทองคํา 1 บาท
เพราะผู้เขียนสังเกตว่า ราคาทองคำทิพย์มีหน่วยเป็นบาท จะใกล้เคียงกับราคาดัชนีของดาวโจนส์
จะ 50,000 บาท ถ้าเฟดพิมพ์เงินแค่ที่รู้ข่าวก็คือประมาณ 6T
แต่ถ้าข้อมูลล่าสุดเป็นเรื่องจริง เฟสได้พิมพ์เงินไปถึง 16T แล้วราคาทองก็ควรจะประมาณ 1 แสนบาท
ดูจากปริมาณเงินที่เฟดพิมพ์มาในช่วงวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ ผู้เขียนรู้สึกว่าทองคำก็น่าจะเป็นขาขึ้นต่อไปอีกยาวนาน
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมกดไลค์กดแชร์กดติดตามเพื่อจะไม่ได้พลาดบทความดีๆต่อไป
- 19
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
