22 มี.ค. 2020 เวลา 07:46 • บันเทิง
MovieTalk มูฟวี่ชวนคุย:
ไอเดียสร้างโลกใน “บางบอกดิก”
หลายคนเริ่มติดนิยายบู๊ภูธรย้อนยุค “บางบอกดิก” ที่นำเอาเสน่ห์แบบหนังไทยยุค 40 ปีก่อนมาไว้ในนิยาย หลายคนสงสัยว่าคนเขียนอายุเท่าไร บอกเลยโพสต์นี้ไม่ได้มาบอกเรื่องอายุ (จะขยี้กันทำไม?)
แต่จะมาตอบคำถามที่ว่า ทำไมนำเอาบรรยากาศเก่า ๆ มาไว้ในนิยายเรื่องนี้ได้
โพสต์จะมาเปิดเผยที่มาของไอเดียบางบอกดิก และวิธีสร้างโลกในนิยายให้เป็นยุคสมัยนั้น
ผมเป็นคนชอบสะสมหนังทุกชาติ ที่บ้านมีแผ่นหนังทั้ง BD, DVD, VCD, VIDEO รวมกันแล้วมากกว่า 3,000 แผ่น (ไม่เคยนับ แต่บางทีอาจมากกว่านั้น)
หนึ่งในหนังที่ผมชอบไปคุ้ยกระบะลดราคาคือ “หนังไทย” ยุคพ่อแม่ผมดู หรือยุคผมยังเด็ก ๆ
เล่าย้อนนิดนึง สมัยเด็ก ๆ เวลาปิดเทอม แม่พาผมไปที่ทำงาน แต่แม่กลัวว่าผมจะวุ่นวายในที่ทำงาน บางวันที่แม่ไม่มีเวลามาดูแลก็จะเอาผมไปฝากไปกับลุงที่เป็นพนักงานโรงหนังศาลาเฉลิมกรุง ผมเลยมีโอกาสได้ดูหนังเป็นประจำ โดยเฉพาะหนังไทยที่มันดูง่าย
พอโตมาเลยตั้งใจจะเรียนด้านผลิตภาพยนตร์ ก็เรียนวิธีสร้างตั้งแต่ต้นเลย เขียนบท, ถ่ายทำ, ตัดต่อ, วิจารณ์ แต่ไม่ได้ไปทำงานในสายงานที่เรียน เพราะชีวิตพลิกผันต้องทำงานไปเรียนไปเลี้ยงดูแม่กับน้าแทนพ่อที่เป็นหัวหน้าครอบครัวและจากไปอย่างกระทันหัน
ทุกวันนี้ทำงานด้านการเงิน การลงทุน ไม่เกี่ยวกับงานบันเทิงเลยแม้แต่น้อย
แต่ตลอดเวลา “ดูหนัง” ยังเป็นความชอบส่วนตัวของผมเสมอ หนึ่งในหนังที่ผมชอบสะสมก็ต้องเป็นหนังไทยที่ผมเคยดูเมื่อตอนเด็ก และที่มาจากการศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ผมจึงพยายามตามหาตามเก็บมาโดยตลอด จริง ๆ ก็อยากเก็บให้ครบ แต่ทุนทรัพย์มันจำกัด ก็หาได้เฉพาะตอนลดราคาเท่านั้น บางทีมันก็ไม่ได้เรื่องที่อยากได้นะ
นอกจากหนัง ก็คือหนังสือที่ผมชอบสะสม ผมก็เลยมีหนังสือ “พิพิธภัณฑ์หนังไทย” เก็บไว้เล่มหนึ่ง ภายในเป็นเรื่องราวตำนานหนังไทย ชุดที่มีคือหนังบู๊ไทย เราก็เลยซึมซับทั้ง ‘ขนบ’ ที่ต้องมีในหนังไทยยุคนั้น ‘ดารา’ ในยุคนนั้น จนทำให้เห็นรูปแบบความเป็นหนังไทยยุค 40 ปีก่อน
หนังบู๊ไทยยุคก่อน
ถ้าเป็นหนังบู๊ ก็ต้องบู๊ภูธร ระเบิดเขาเผากระท่อม
ถ้าหนังชีวิต ก็ต้องรันทดแบบไร้เหตุผล
ถ้าหนังผี ก็ต้องมีฮาปน
ถ้ารักตลก ก็ต้องมีนักแสดงตลกขนมาประชันกัน (ทุกวันนี้ก็ไม่ต่างกัน)
ทั้งหมดคือต้นทางของชุดความคิดที่หล่อหลอมจนทำให้ผมเข้าใจรูปแบบหนังไทยสมัยนั้นและซึมซับเอาบรรยกาศแบบหนังไทยเป็นอย่างดี
และก็มีความคิดเสมอ อยากนำเอาบรรยากาศแบบหนังไทยนั้นกลับมา จะทำอย่างไร?
วันดีคืนดีก็เลยลองเขียนเล่น ๆ เป็นนิยายสั้นลงใน Blockdit โดยหยิบเอานักเขียนในบีดีมาเป็นตัวละคร แต่จะอิงบรรยากาศเมื่อ 40 ปีก่อน และใช้ภาพตัวละครเป็นนักแสดงยุคนั้น นั่นคือที่มาของนิยาย “บางบอกดิก”
ทอง ของ อาฉลอง ภักดีวิจิตร
แต่ใครมันจะไปคิดว่า นิยายดันติดลมบน กลายเป็นความสนุกสนานจนคนอ่านเจ้าประจำกดดันให้เขียนต่อ ก็เลยกลายเป็นโปรเจ็กส์ใหญ่ของเพจ MovieTalk ที่ทำให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความเห็นในรูปแบบต่าง ๆ นานา รวมไปถึงการคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานในคอมเม้นท์ลูกโซ่
ทีนี้พอผมต้องสร้างโลกของบางบอกดิกต่อไปเรื่อย ๆ จนขยายกว้าง ผมก็ยังต้องอิงพื้นฐานความเป็นจริง ตรรกะที่มันควรมี ตลอดจนการสร้างปูมหลังให้ตัวละครให้เกิดความลึก ซึ่งในหนังไทยยุคนั้นไม่มี เพราะหนึ่งในกลวิธีการเขียนบทหนังคือ การสร้างแคแรกเตอร์ตัวละครที่แข็งแรง จึงเป็นที่มาของการที่ผมหยิบเอารายละเอียดส่วนบุคคลของบรรดานักเขียนในบีดีมาใช้สร้างตัวละครแต่ละตัว จนทำให้คนอ่านรู้สึกอินไปกับมัน (รึเปล่า?)
ดังนั้นแม้จะเป็นนิยายเขียนเอามัน เอาสนุก แต่ผมก็ยังใส่เรียลลิตี้เข้าไปด้วย เพราะฉะนั้นตัวละครผมทุกตัวะจะไม่ตลก ลอยไปลอยมา แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันจะโยงไปสู่เหตุการณ์ต่อไป ตัวละครต่อไป ดังนั้นใครยังไม่ออกฉากต้องใจเย็น เพราะผมเล่าเรื่องละเอียด
Avengers: Infinity War & Endgames
วิธีการเขียนบท และเกลี่ยบทให้ตัวละครทุกตัวมีช่วงเวลาสำคัญเป็นเรื่องยาก ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าที่เขียนมามันดีไหม แต่ผมก็มี Avengers: Infinity War และ Endgames เป็นแบบจำลองในการเขียน พี่น้องรุสโซ่ สามารถเกลี่ยบทและให้เวลากับทุกตัวละครมีช่วงเวลสำคัญ ซึ่งมันส่งผลให้บางตอน ตัวละครบางตัวจะหายไปเลยไม่ถูกพูดถึง จนกว่าจะมีบางเหตุการณ์ที่ปรากฏตัวเพื่อนำไปสู่อีกเรื่องหนึ่ง
อีกวิธีที่ผมกำลังทดลองคือ การสร้างซับพล็อตที่จะนำไปสู่อีกเส้นเรื่องหนึ่ง พร้อม ๆ กับทำให้ผมมีโอกาสนำเอานักเขียนบีดีบางคนไปอยู่ในอีกช่วงเวลาหนึ่งได้ และทำให้คนที่เหมือนจะเป็นตัวประกอบกลายเป็นตัวเด่นไปได้ด้วยเช่นกัน โดยผมพยายามทิ้ง Easter Egg ไว้แล้วในนิยาย จะเห็นกันไหมไม่รู้ แต่ถ้าเป็นหนัง Marvel ทำเป็นประจำ ผมก็เอาวิธีนี้ล่ะมาปรับใช้ในนิยาย
หนังตลกไทยยุคก่อน
ต้องออกตัวก่อน ผมไม่เคยเรียนด้านการแต่งบทประพันธ์นวนิยายมาก่อน แต่ผมเรียนการเขียนบทภาพยนตร์มาบ้าง ดังนั้นรูปแบบการเขียนของผมคือ ผมจะคิดเป็นภาพในหัว เหมือนกับสร้างมุมกล้องในการถ่ายหนัง แล้วผมสร้างภาพตัวละครของผมเขาคิดอะไรอยู่ ทำอะไร สภาพรอบข้างเป็นอย่างไร ใครที่ต้องเกี่ยวข้อง ฯลฯ แล้วผมก็เขียนสิ่งที่ผมคิดออกมา
ส่วนที่จะต้องทำต่อไปเร็ว ๆ นี้คือ ผังความสัมพันธ์ของบรรดาตัวละครทั้งหมดในนิยาย “บางบอกดิก” เพราะหลายคนเริ่มมึนแล้ว แม้กระทั่งทีมงานนักแสดง
หนังผีไทยยุคก่อน
อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกคือ ถ้าแอดมิน นักอ่านท่านใดอยากร่วมสนุก เวทีแห่งนี้เปิดกว้างนะครับ หลายคนอาจจะเกรงใจไม่เคยติดตามเพจของผม เลยไม่กล้าเม้นท์ จะบอกว่าเม้นท์มาเถอะถ้าอยากสนุกด้วย เพราะผมดึงคนที่ติดตามผม และเม้นท์เป็นประจำ หรือผมไปเม้นท์เพจเขาจนสนิท คือถ้าไม่บอกผมก็จะไม่รู้ ถ้าอยากร่วมสนุกด้วยกันก็ขอให้บอก เช่น พี่สามล้อก็มาขอบทเป็นคนขับสามล้อผ่านสักสองฉาก ผมจะให้เป็นสามล้อประจำตัวพระเอกสักคน อะไรทำนองนี้ ดังนั้นเขียนกันเข้ามาได้ผ่านทางคอมเมนท์ครับ ทีมงานเราทุกคนยินดีต้อนรับ ณ ที่แห่งนี้มีมิตรภาพให้กับทุกท่านเสมอ เพียงแต่ท่านเปิดใจ และสนุกกับพวกเรา
และทั้งหมดนี้คือ ไอเดียที่มาของนิยายบู๊ภูธร “บางบอกดิก”
ขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตามครับ
มูฟวี่
โฆษณา