23 มี.ค. 2020 เวลา 08:13 • สุขภาพ
วินาทีนี้ คงไม่มีประเด็นอะไร hot ไปกว่า corona virus หรือ #covid19 เจ้าไวรัสตัวร้ายที่ทำให้หลายๆท่านเกิดอาการ นอยด์ ติดตามข่าวสารมันทั้งวัน ใจนึงก็ปกป้องเต็มที่ไม่อยากติดอีกใจก็สงสัย “ #มึงว่ากูติดยังวะ “
เนื่องด้วยสัปดาห์ที่แล้วเทวดาช่างลิขิตให้ไปกินข้าวกันเพื่อนที่น๊านนนนนานนานานาน เจอกันทีนึง เรียกได้ว่าไม่ได้เจอกันเกือบปีแล้ว กินข้าวกันพอดิบพอดีเป็น ศุกร์ที่ 13 มีนาคม ผ่านมาสามวัน เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชีวิตดำเนินไปตามปรกติ
จนกระทั่ง........ อังคารที่ 17 มีนาคม 11:34AM เพื่อนตัวดีโทรมาบอกสั้นๆเพียงไม่กี่ประโยค “เราติดโควิด ขอโทษด้วยนะ” เราได้แต่ตอบกลับไป “สู้ๆนะ” ในขณะที่ใจเราตกไปที่ตาตุ่มเรียบร้อยแล้ว
ไม่เกิน 5 นาทีให้หลัง ตั้งสติได้ เคลียร์งานทุกอย่างให้เสร็จสิ้น รีบออกจากผู้คนเร็วที่สุด บอกที่บ้านว่าจะทำ “ Self Quarantine “ ออกจากออฟฟิศก่อนเที่ยงตรง บึ่งตรงไปที่บ้านรับแฟน ผู้ซึ่งร่วมโต๊ะเดียวกัน ไปทำการตรวจให้หายๆข้องใจไป
ใบคัดกรอง COVID19 ที่ SiPH
ปรากฏว่า
.
.
.
.
.
ท่านไม่เข้าเกณฑ์ได้รับการตรวจ (เกณฑ์ ณ เวลานั้น แม้จะใกล้ชิดผู้ป่วยได้รับการยืนยันว่าติดโควิด แต่เราไม่มีอาการเป็นไข้ หรือมีข้อบ่งชี้ใดใด ว่าจะมีเชื้อจึงไม่เข้าเกณฑ์ได้รับการตรวจ)
แนะนำให้ทำการกักตัวให้ครบ 14 วันเพื่อ รอดูอาการต่อไป
แม้มั่นใจว่าทำอะไรถูกสุขลักษณะ แต่อีกใจก็อยากรู้ว่าติดเชื้อไหมจะได้สบายใจ ทำอะไรต้องมีหลายๆความเห็น จึงโทรหาหมออีกคน ลงความเห็นตรงกันไม่ต้องตรวจ เร็วไป ตรวจไปก็ไปเจอ กักตัวดูอาการซะ!!!!
เอาวะ ไม่ตรวจก็ไม่ตรวจ กลับบ้าน เก็บเสื้อผ้า เข้าสู่ปฎิบัติการกักตัว เริ่ม!!!!!
ระหว่างกักตัวกับแฟน(ภรรยา) ก็สุขสบายมีความสุขดี อยู่ดีกินดี อยากกินอะไรก็กดๆๆเอา งานการก็ถือซะว่าเป็นการ work from home อะไรทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ให้คนเอาเอกสารมาส่ง ก็ว่ากันไป ตกเย็นหน่อยก็เปิดคลิปหา class ออกกำลังกายกัน ความแข็งแรงต้องชนะโควิดได้ เฮ่ๆๆๆๆ!!!!!
กักตัวหลายวันผ่านไป เริ่มว่างมากขึ้น เริ่มอ่านมาขึ้น กอปรกับมีข่าวน้องแพรวา ติดโควิดทั้งๆที่ไข้ก็ไม่ได้สูงอะไรมาก เริ่มนอยด์อีกครั้ง เอาไงดี ถ้าครบ 14 วัน เราไม่มีอาการ แต่เรามีเชื้อแล้วเราออกไปแพร่จะยังไง สังคมจะรังเกียจเราไหม กลับบ้านไป แม่ก็แก่ โรคก็เยอะ ถ้าโดนเชื้่อไปเข้าไปไม่รอดแน่ๆ
อีกใจก็ รพ. ที่น่าวางใจให้ไปตรวจ (แบบไม่ได้เข้าไปรับเชื้อจาก รพ.) และยังรับตรวจอยู่ก็เหลือแค่ รพ. รามคำแหง เป็นการตรวจ แบบ drive thru ไม่ต้องลงจากรถ แต่ค่าตรวจนั้นสนนราคา 6,500 บาทต่อคน!!!!! สองคน หมื่นสาม !!!!! ไม่ผิดครับ หนึ่งหมื่นสามพันบาทถ้วน !!!!!
คิดแล้วคิดอีก เปลี่ยนใจไปมากันหลายรอบมา อาทิตย์ที่ 22 มีนาคม ดี-เดย์ ผ่านมาเกือบ 10 วันแล้ว ถ้ามีเชื้อจริงน่าจะตรวจเจอ เอาวะตรวจก็ตรวจ หมื่นสามก็ยอม เพื่อความสบายใจให้ จบๆไป
ตรวจ COVID แบบ Drive Thru รพ.รามคำแหง
การตรวจนั้นจะต้องละทะเบียนไว้ก่อน ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ จากนั้นรอ SMS แจ้งวันเวลาให้เข้าไปตรวจจึงเข้าไปรับบริการได้ (รพ แจ้งให้เข้าไปตรวจ 20 มีนาคม แต่เราไปจริง 23 มีนาคม เพราะคิดว่ามันเร็วไป อยากให้มีเชื้อมากๆก่อน(ถ้ามี) เลื่อนวันเล็กน้อยไม่มีปัญหาอะไร)
เมื่อขับเข้าโรงพยาบาลจากทางถนนรามคำแหง ให้ขับตรงไปเรื่อยๆไปยังท้ายสุดของโรงพยาบาล (มีป้ายบอกตลอดทาง) พึ่งรู้ว่าโรงพยาบาลนี้ใหญ่มาก ที่ดินเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว ยาวมาก จากรับบัตรจอดรถไปถึงปลายสุด (บริเวณที่ตรวจจุดตรวจ) คิดว่าหลายร้อยเมตรเลยทีเดียว
จุดลงทะเบียนตรวจ
การตรวจก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ไปถึงประมาณ 10:40AM ตอนนั้นเราเป็นคิวที่ 58 ของวันแล้ว เร่ิมต้นด้วยการขอถ่ายบัตรประชาชน เก็บข้อมูล วัดไข้ จากนั้นเขานำ QR Code มาให้เราสแกนเพื่อ เข้าไปกรอกคำถามคัดกรองทั่วไป จบขั้นตอนนี้ ไปก็ขับรถต่อไปอีก ไม่กี่สิบเมตรสู่สถานีต่อไป
สถานีต่อไป เป็นออฟฟิศสนามการตรวจโควิด ทั้งการเงินและพยาบาลที่เก็บตัวอย่างจะอยู่สถานีนี้ เมื่อมาถึงเริ่มด้วยการชำระเงินค่าตรวจ 2 คน 13,000 บาท (อ่านว่า หนึ่ง-หมื่น-สาม-พัน-บาท) ซีดเลยทีเดียว หลังจากชำระเงินเสร็จขับรถมาอีกไม่กี่เมตรก็มีเหล่าพยาบาลในชุดอวกาศเตรียมพร้อมเก็บตัวอย่าง
ออฟฟิศสนาม พร้อมเหล่าพยาบาลในชุดอวกาศ
การเก็บตัวอย่างที่หลายคนขู่ว่าเจ็บมาก จะเก็บ 2 ส่วนคือ จากบริเวณลำคอ (ลึกๆ) และ ในโพรงจมูก (ลึกๆอีกเช่นกัน) เริ่มด้วยการพยาบาลมาแนะนำตามธรรมเนียมทั่วไป จากนั้นก็เป็นการตรวจสอบชื่อนามสกุล ให้ตรงกับตัวเราป้องกันการผิดพลาด จึงเข้าสู่กระบวนการเก็บตัวอย่าง เตรียมตัวเจ็บปวดดดดด
ขั้นแรกคือเก็บสารคัดหลังบริเวณลำคอ อุปกรณ์ง่ายๆมีแค่ไม้กดลิ้นกับ Cotton budเล็กๆด้ามยาวๆๆ ไม้กดลิ้นกดลิ้นเอาไว้ แล้วแยง Cotton Bud ลงไปลึกๆๆๆ ขั้นนี้ผ่านไป รอดเว่ยๆๆๆๆ ไม่เจ็บเท่าไรนิ แค่ไอนิดๆเพราะมีอะไรแยงลงไปในลำคอ ไม่แย่เท่าไร
ถัดมา เก็บสารคัดหลั่งจากโพรงจมูก อุปกรณ์ชิ้นเดียวคือ cotton bud เล็กๆ ด้ามยาวๆ คุณพยาบาลแหย่เข้าไปในรูจมูกลึกๆๆๆๆ เข้าไปหมุนๆปั่นๆไม่กี่วินาทีเป็นอันเสร็จ สำหรับเราไม่ได้เจ็บตัวเท่าไร ไม่สมกับคำขู่ที่ได้รับมา แต่แฟนบอกเจ็บมากกก เจ็บกว่าเจาะเลือดอีก
1
สิ้นสุดขั้นตอนนี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจ กลับบ้านได้ รอฟังผลทางSMS ณ วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม รพ แจ้งว่าใช้เวลาประมาณ 5 วันถึงรู้ผล
ทั้งหมดที่เล่ามานี้ตั้งแต่ขับรถเข้าเขต โรงพยาบาล ถึงขับออกไป ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 20 นาที เป็นการตรวจแบบไม่ต้องลงจากรถ 100% ไม่ต้องเสี่ยงไปอยู่ใกล้กับผู้คนใดใด
กระเป๋า(ตังค์)พร้อม รถพร้อม จองคิว กำเงิน 6,500 บาท ไปตรวจโควิดได้ทันที!!!!
ยาวหน่อย แต่ก็ขอบคุณที่อ่านมาจนจบ ขอแรงนิดนึง ช่วยภาวนาให้เราสองคนรอดจากไอ้ไวรัสไวร้ายตัวนี้ด้วยเถอด เดี๋ยวผลเป็นอย่างไร จะมาอัพเดทให้ฟังอีกทีนะะะะะ
โฆษณา