Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
NBA Lifestyle
•
ติดตาม
3 เม.ย. 2020 เวลา 07:00 • กีฬา
NBA 102 - ทำความรู้จักกับระบบสถิติของ NBA (ตอนที่ 9) - NBA Standings (2)
ตอนนี้จะเป็นบทความต่อจาก NBA 102 ตอนที่ 8 นะครับ
มาถึงตอนนี้ คุณผู้อ่านบางท่านอาจเกิดความสงสัยว่า ถ้าฤดูกาลปกติจบแล้ว มีทีมจำนวนสองทีม (หรือมากกว่า) มีสถิติในตารางคะแนนเท่ากันล่ะ ทางลีกจะมีเกณฑ์อะไรบ้างที่จะนำมาใช้ในการจัดอันดับต่อไป
ในตอนนี้จะเป็นการนำเอาเกณฑ์ดังกล่าวมาอธิบายขยายความให้มากขึ้นครับ และเกณฑ์ที่ใช้สำหรับทีมที่มีสถิติเท่ากันจำนวนสองทีม และมากกว่าสองทีม จะไม่เหมือนกันซะทีเดียวเสียด้วย
NBA Standings ตอนที่ 2
โดยจะขอเริ่มจากเกณฑ์ที่จะนำมาใช้เมื่อมีทีมจำนวนสองทีมมีสถิติเท่ากันก่อนนะครับ
เกณฑ์ที่ทางลีกกำหนดไว้หากมีทีมจำนวนสองทีมมีสถิติเท่ากัน
เกณฑ์ที่ใช้นั้นจะเริ่มไล่เรียงตั้งแต่ข้อ 1 ถึงข้อ 7 หากข้อไหนทำให้เกิดความแตกต่างขึ้น ก็ถือว่าสิ้นสุดในการใช้เกณฑ์ พร้อมกับจัดอันดับได้ทันที ไม่จำเป็นต้องคำนวณให้ครบทุกข้อแต่อย่างใด
แต่ละเกณฑ์นั้นจะมีดังนี้
1. สถิติ Head-to-Head หรือการเจอกันเองของทั้งสองทีม ถ้าทีมไหนมีสถิติเหนือกว่า ทีมนั้นจะได้อันดับที่เหนือกว่าอีกทีมโดยปริยาย
-ถ้าสองทีมดังกล่าวได้เจอกันแค่ 3 นัดในฤดูกาลนั้นๆ ส่วนมากเกณฑ์ที่ใช้จะจบในข้อนี้ทันที เพราะมีจำนวนการแข่งเป็นเลขคี่ แต่ถ้าสองทีมนั้นมีการเจอกัน 2 หรือ 4 นัด ก็อาจจะมีการเสมอกันเกิดขึ้นได้ ทำให้ต้องใช้เกณฑ์ถัดไปในการตัดสิน
2. ทีมที่เข้าเกณฑ์นั้นเป็น Division Leader หรือแชมป์ประจำ Division ของตนเองหรือไม่
-ในกรณีที่ข้อ 1. มีสถิติเท่ากัน แล้วเกิดมีทีมใดทีมหนึ่งเป็นแชมป์ Division ของตนเองขึ้นมา ทีมนั้นจะได้อันดับเหนือกว่าทันที โดยจะวัดแค่ว่าเป็นแชมป์หรือไม่เท่านั้น ไม่เอาอันดับอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง
3. สถิติในการแข่งขันกับทีมที่อยู่ใน Division ของทีมนั้นๆ (เกณฑ์ข้อนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อทั้งสองทีมอยู่ใน Division เดียวกันเท่านั้น)
-สามารถอ้างอิงจากค่าสถิติ DIV ในตารางคะแนนได้ทันที หากมีทีมที่ดีกว่า ทีมนั้นก็จะได้อันดับดีกว่าโดยปริยาย
4. สถิติในการแข่งขันกับทีมที่อยู่ในฝั่งทวีปเดียวกัน
-สามารถอ้างอิงจากค่า CONF ในตารางคะแนนได้ทันที ทีมไหนเหนือกว่าก็ได้อันดับที่ดีกว่าไปครอง
ส่วนมากการจัดอันดับมักจะจบตั้งแต่เกณฑ์ข้อ 1-3 แล้ว ข้อที่ 4 ส่วนมากเราแทบจะไม่เห็นการตัดสินที่ต้องใช้ถึงเกณฑ์ข้อนี้เลย
แต่ถ้าบังเอิญยังเท่ากันอีก ทางลีกได้คิดมาตรการเผื่อเอาไว้แล้ว ดังนี้
5. สถิติในการแข่งขันกับทีมที่ได้เข้ารอบ Playoffs ทีมอื่นๆ ในฝั่งทวีปเดียวกัน (รวมไปถึงทีมที่ทำสถิติได้เท่ากัน ถึงแม้จะไม่ได้เข้ารอบ Playoffs ก็ตาม)
-เกณฑ์นี้จะแบ่งมาจาก CONF อีกที โดยจะวัดเฉพาะทีมที่ได้เข้ารอบ Playoffs (หรือสถิติเทียบเท่า) เพียงเท่านั้น
6. สถิติในการแข่งขันกับทีมที่ได้เข้ารอบ Playoffs ทีมอื่นๆ ในฝั่งทวีปที่ไม่ใช่ฝั่งของตนเอง (รวมไปถึงทีมที่ทำสถิติเทียบเท่า ถึงแม้จะไม่ได้เข้ารอบ)
-คล้ายกับข้อ 5. เพียงแค่สลับไปฝั่งตรงข้าม เช่น ถ้าเป็นทีมจากฝั่งตะวันตก ก็ไปวัดสถิติเมื่อเจอกับทีมฝั่งตะวันออกแทน
7. วัดความแตกต่างของจำนวนแต้มโดยรวมตลอดฤดูกาล (Point Differential)
-เป็นการวัดความแตกต่างของจำนวนแต้ม (คล้ายๆ กับลูกได้เสียในกีฬาฟุตบอล) โดยจะเอาสถิติในแต่ละเกมทั้งฤดูกาลมาคำนวณรวมกัน ใครมีผลบวกมากกว่าก็ได้อันดับที่ดีกว่าไปครอง
ต่อไปจะเป็นเกณฑ์ในกรณีที่มีทีมมากกว่าสองทีมขึ้นไปมีสถิติเท่ากัน
เกณฑ์ที่ทางลีกกำหนดไว้หากมีทีมจำนวนมากกว่าสองทีมมีสถิติเท่ากัน
โดยรวมจะเห็นว่าไม่แตกต่างจากกรณีสองทีมมากนัก จะมีการตัดแค่สถิติ Head-to-Head ออกไป (เพราะมีมากกว่าสองทีม) แต่เกณฑ์อื่นๆ ใช้เหมือนกันทุกประการ
แถมทางลีกยังมีทิ้งท้ายด้วยอีกว่า ถ้าใช้เกณฑ์ทั้ง 6-7 ข้อนี้แล้ว ยังไม่สามารถทำการจัดอันดับให้กับทีมที่เกี่ยวข้องได้จนครบแล้วล่ะก็...
สุดท้ายก็ต้องวัดด้วยวิธีสากล นั่นก็คือ....
การจับฉลากวัดดวงนั่นเอง
จบลงไปแล้วนะครับสำหรับค่าสถิติในหมวดของตารางคะแนนหรือ Standings ทั้งในส่วนของการอธิบายค่าสถิติที่ใช้ และเกณฑ์ที่นำมาใช้เมื่อเกิดมีทีมที่มีสถิติเท่ากันขึ้นมาตอนจบฤดูกาล
สำหรับฤดูกาล 2019/20 นี้ เราก็คงต้องมาลุ้นกันต่อไปว่าการดำเนินกิจกรรมของลีกนั้นจะออกมาในรูปแบบไหน หลังจากที่ประกาศระงับฤดูกาลมาได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าสถานการณ์โดยรวมจะดีขึ้นสักเท่าไหร่
เพราะถ้ามีการดำเนินการที่เปลี่ยนแปลงมากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงฤดูกาล 2020/21 ได้นั่นเอง
อย่าลืมว่าถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ พอเข้าปลายเดือนมิถุนายน ก็จะเริ่มเข้าสู่การ Draft ของฤดูกาล 2020 แล้ว และพอต้นกรกฎาคมก็จะเข้าสู่ช่วง Free Agency และการเปิดตลาดให้แลกเปลี่ยนผู้เล่นต่อไป
แต่ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ ก็มีโอกาสสูงมากที่กิจกรรมต่างๆ จะต้องเลื่อนออกไป และไม่แน่ว่าอาจเป็นอีกฤดูกาลที่แข่งไม่ครบทั้ง 82 นัด แต่อย่างใดครับ
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ กติกาที่ใช้ และการจัดโปรแกรมการแข่งขัน ก็จะต้องมีการเปลี่ยนมาตรฐานไปอย่างแน่นอน และพอถึงเวลานั้น ทาง Page จะทำการแจ้งให้ทราบในภายหลังครับ
ถ้าชอบก็ฝาก Share และกดติดตามด้วยนะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
BombWalkerz
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
-
https://www.nba.com/standings
บันทึก
1
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
NBA 102 - ทำความรู้จักกับระบบสถิติของ NBA
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย