24 มี.ค. 2020 เวลา 13:58
ข้อมูลทั้ง 19 ข้อนี้ เป็นการตอบถึงคำถามยอดฮิตของ #Covid19 ที่ทุกคนควรรู้ก่อนที่เราจะได้รับคลื่นการแพร่ระบาดลูกใหญ่คลื่นต่อไปครับ (น่าจะเร็ว ๆ นี้เพราะตอนนี้เชื้อกำลังฝักตัว)
1. ต่างจากไข้หวัดธรรมดายังไง ?
ในแง่ของอาการพบว่า มีไข้ได้บ่อยกว่าการป่วยธรรมดาทั่วไป (ไข้อาจจะต่ำหรือสูงก็ได้) มีอาการไอได้ แต่ไม่ค่อยมีน้ำมูก มีปวดเมื่อยตามตัวบ้าง แต่พบว่าอาการคลื่นไส้อาเจียนรวมถึงถ่ายเหลวพบไม่บ่อยนัก (ประมาณ 10%)
ผู้ป่วยส่วนมาก (ความรุนแรงขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน)
- อาการจะไม่รุนแรง 80%
- อาการรุนแรง15%
- อาการวิกฤติ 5%
2. ระยะฟักตัวนานเท่าไหร่ ?
ส่วนมากมีอาการไม่เกิน 10 วัน หลังได้รับเชื้อ แต่มีรายงานว่าระยะฟักตัวอาจจะนานเป็นเดือนก็ได้ (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) ซึ่งหลายประเทศก็เลือกกักตัวมากกว่า 15 วันเลยก็มี
3. การติดต่อเกิดขึ้นทางไหนได้บ้าง ?
ช่องทางหลักเลยคือ เยื่อบุต่าง ๆ เช่น จมูก ปาก ตา โดยมี Droplets (ละอองเสมหะน้ำลาย) เป็นตัวการหลัก แต่ก็ยังมี Contact (การสัมผัสแหล่งเชื้อเข้าทางเยื่อบุ) ซึ่งบางที่เรียกว่า Fomite คือเชื้อที่อยู่ตามพื้นผิวต่าง ๆ เมื่อคนไปสัมผัส แล้วนำมาโดนเยื่อบุที่ได้กล่าวไป ก็ทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายของเราได้ (ฉะนั้นหากยังไม่ได้ล้างมือห้ามเอามือมาจับใบหน้าของตัวเองเด็ดขาด)
แต่ก็มีข่าวหลุดออกมาว่า ตอนนี้เชื้อสามารถติดต่อทาง airbourne หรือทางอากาศได้แล้ว (แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากพอมายืนยันนะครับ) แต่ว่าไอ่การติดเชื้อจากการสัมผัสนี่คือของจริงและเปอร์เซ็นต์สูงแน่นอน
4. ถ้าเราไม่มีอาการ เราจะกระจายเชื้อให้คนอื่นได้มั้ย ?
ส่วนมากจะแพร่กระจายตอนมีอาการ แต่ถ้าไม่มีอาการเลยโอกาสแพร่กระจายจะต่ำมาก ลองคิดว่าถ้าไม่มีอาการ ไม่ไอ ไม่จาม ก็จะไม่มีละอองน้ำลายกระเด็นออกมา คนอื่นก็ไม่น่าจะได้รับเชื้อ
พูดง่าย ๆ คือ ถึงแม้ไม่มีอาการก็ยังแพร่กระจายส่งต่อให้คนอื่นได้ครับ ฉะนั้นกักตัวเองคือดีที่สุด
5. เมื่อไหร่ควรต้องไปตรวจ ?
เมื่อเราคิดว่าเรามีความเสี่ยงร่วมกับมีอาการเข้าข่ายข้อควรระวัง และเมื่อไปตรวจแล้วถึงผลจะออกมาว่า "ไม่ติดเชื้อ" แต่ก็ควรกักตัวเองต่อไปจนครบ14 วันอยู่ดี เพราะเชื้ออาจฝักออกมาในวันสุดท้ายก็ได้ใครจะไปรู้
6. น้ำประปาปลอดภัยมั้ย ?
ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่าติดต่อทางน้ำประปาได้ ดังนั้น ยังสามารถใช้ได้ตามปกติครับ
7. ถ้ามีคนใกล้ชิด หรือคนที่เราเพิ่งพบเจอไม่กี่วันก่อน เกิดป่วยด้วยไวรัสชนิดนี้ขึ้นมา เราควรทำอย่างไร ?
ข้อแรก หยิบหน้ากากมาใส่ สำรวจตัวเองว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่
ข้อสอง แยกตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ถ้ามีอาการผิดปกติควรไปพบแพทย์
ในกรณีที่ไปตรวจทั้งที่ยังไม่มีอาการ ปัจจุบันพบว่า โอกาสพบเชื้อต่ำมาก ๆ และทที่สำคัญคือ รพ.จะใช้ทรัพยากรในการตรวจเยอะ เช่น ชุดหน้ากาก n95 Face shield ซึ่งทำให้เป็นการสิ้นเปลือง ในกรณีที่คุณมีโอกาสเป็นไม่มาก ถ้าชุดหมดก่อนเข้าเฟสสาม นี่โหดร้ายมากนะ ดังนั้น ตอนนี้ควรประหยัดทรัพยากรด้วย อย่าทำเพียงเพราะเรากังวล อย่าทำเพียงเพราะถ้าตรวจแล้วไม่ติดจะได้ออกไปเที่ยวเล่นได้
8. หลังกักตัว 14 วัน ออกไปเที่ยวได้เลยมั้ย ?
ถ้ากักตัว 14 วันแล้วไม่มีอาการผิดปกติอะไรเลย แปลว่าโอกาสที่เราจะเป็นโรคถือว่าน้อยมาก ๆ แล้ว แต่แน่นอนว่า ก็ไม่ควรออกไปไหน "ควรอยู่แต่บ้านนะ" (อันนี้จริงจัง) เพราะถ้าออกไปก็อาจได้รับเชื้อจากในครั้งนี้ก็ได้ (ขนาดคนที่เค้าหายแล้วเค้ายังกลับมาป่วยซ้ำอีกรอบได้เลย อยู่บ้าน ช่วยหมอ ช่วยสังคม)
9. เครื่องรางของขลัง หรือแม้กระทั่งแหวนที่เคลมว่าช่วยป้องกันไวรัสช่วยได้จริงมั้ย ?
(ไม่ได้หมิ่นศาสนา) แต่ขอบอกตามตรงว่าไม่ช่วยอะไรเลย และอาจเพิ่มความเสียงมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะวัตถุเหล่านี้อาจจะมีซอกหลืบที่เราทำความสะอาดไม่ถึง และเมื่อเราหยิบจับเพื่อความสบายใจ เชื้อที่หลบอยู่ในวัตถุก็อาจเข้าสู่ร่างกายของเราได้อย่างไม่รู้ตัว
10. ตอนนี้มียารักษาหรือยาฆ่าไวรัสหรือยัง ?
ปัจจุบันมียาที่พบว่าใช้ฆ่าเชื้อไวรัสนี้ได้ คือลดความรุนแรงของโรคได้ และทำให้ผล PCR เป็นลบได้เร็วขึ้น (แต่เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีวัคซีน จึงทำให้การรักษาตามอาการคือวิธีการรักษาที่ดีที่สุด)
11. คนออกกำลังกายตลอด แข็งแรง บึกบึน ทำไมยังติดได้ ?
สำหรับเจ้าเชื้อไวรัสตัวนี้ ไม่ว่าใคร ๆ ก็ติดได้ครับ จะอ่อนแอ หรือ แข็งแรง ก็มีโอกาสติดได้เท่า ๆ กัน แต่ก็มีสิ่งที่แตกต่างกันคือ ความรุนแรงของโรค เพราะภูมิคุ้มกันนั่นเอง ยิ่งผู้ป่วยสูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว ก็ยิ่งมีโอกาสที่โรคจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
12. การกินแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ สามารถฆ่าไว้รัสได้มั้ย ?
ขอบอกเลยว่านี่คือความเชื่อที่ผิดหลักการแบบสุด ๆ อีกทั้งยังทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย (ตอนนี้พบว่าผู้ที่สูบบุหรี่จะทำให้ไวรัสรุนแรงขึ้นมากถึง 14 เท่า) และการดื่มน้ำจากกระป๋องก็ควรใช้หลอดดูด หรือควรใช้แอลกอฮอล์เช็คฆ่าเชื้อก่อนที่จะสัมผัสริมฝีปากนะครับ
13. ถ้าติดโควิดแล้ว ปอดจะพังไปเลยมั้ย ?
พบว่าไวรัสนี้มีการอักเสบที่ปอดได้บ่อย ซึ่งการอักเสบถ้ามีปริมาณไม่มากก็จะหายได้เอง แต่ถ้าอักเสบเยอะก็อาจเป็นผังผืดที่ปอดได้หลังจากที่หาย แต่ก็ไม่ได้แปลว่า ปอดจะพังถาวรจนทำให้หายใจไม่ได้อีก
เพราะปกติทุกวันนี้ เราก็ไม่ได้ใช้ปอดเต็ม 100% อยู่แล้ว ดังนั้นการที่มีพังผืดเกิดขึ้นในปอดบางส่วน ก็อาจจะไม่ได้ส่งผลอะไรกับการใช้ชีวิตปกติก็ได้
** สามารถรักษาและฟื้นฟูให้กลับมาใช้งานเต็มศักยภาพเหมือนเดิมได้ครับ **
14.ถ้ารัฐบาลฯประกาศระดับ 3 แล้วจะเป็นยังไง ?
คือตอนนี้ทางพฤติกรรมของคนในประเทศเราก็เหมือนอยู่ในเฟส 3 แล้วแหละ (เพราะทั้งหยุดงาน ทำงานที่บ้าน ปิดร้านอาหาร ปิดห้าง กักตัวอยู่บ้าน อยู่ห่างจากผู้คน 1 เมตร ล้างมือบ่อยขึ้น และใส่หน้ากากทุกครั้งเมื่อต้องเดินทางไปในพื้นที่แออัด) ฉะนั้นอย่าทำให้การประกาศที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นผลที่ทำให้เราต้องจิตตก หรือแพนิค เนื่องจากเราเตรียมตัวกันค่อนข้างดีแล้ว ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมต่อไปครับ
15. หน้ากากช่วยป้องกันได้จริงหรอ ?
เอาจริงมันก็ไม่ได้ช่วยขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องใส่ตลอดเวลา หรือถ้าไม่มีมันก็จะต้องตาย (มันจะจำเป็นจริง ๆ ก็ต่อเมื่อคุณต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่แออัดจริง ๆ ต้องอยู่ใกล้กับคนในระยะน้อยกว่า 1 เมตร) เพราะอย่าลืมนะครับว่า สิ่งที่จะทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายจนคุณป่วยได้ง่ายที่สุดนั้นคือ มือของคุณนั่นเอง
16. ถ้าเป็นแล้วโอกาสตายเยอะมั้ย ?
ตอนนี้ถ้าคนอายุน้อยกว่า 50 ปี โอกาสเสียชีวิตจะต่ำมาก แต่ถ้าอายุมาก ก้มีโอกาสเสียชีวิตมากขึ้น จะเห็นได้จากตัวเลขตอนนี้ คนติดเชื้อส่วนมากคือคนวัย 35-50 ปี แต่คนที่เสียชีวิตจะอยู่ในวัยมากกว่า 60 ปี (เมื่อป่วยแล้ว ร่างกายจะอ่อนแอลง ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนมากมีสาเหตุมาจากโรคแทรกซ้อน)
17. ตรวจฟรีมั้ย ?
อันนี้ไม่ทราบจริง ๆ แต่เท่าที่ลองเช็คราคามา ถูกสุดคือ 3,500 บาท และล่าสุดได้ยื่นเรื่องขอทำประกันภัยหลายแห่ง พบว่า ตอนนี้บริษัทปิดรับการทำประกันชั่วคราว หลังจากมีข่าวว่าผู้คนแห่เดินทางออกจากกรุงเทพ
18. สั่งอาหารมาส่งที่บ้านปลอดภัยจริงหรือ ?
ขอบอกเลยว่าไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเชื้อสามารถอยู่ในอาหารดิบได้ (แต่ถ้าสุกก็ปลอดภัย) ฉะนั้นสิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดคือ ผู้ส่งอาหาร ซึ่งตรงจุดนี้ผู้ส่งควรรักษาความสะอาดของตัวเองและล้างมืออย่างเครงครัด (ย้ำอีกครั้งว่า การติดเชื้อจาการสัมผัสมีโอกาสป่วยมากที่สุด)
19. เป็นแล้ว เป็นซ้ำได้มั้ย ?
ปกติเชื้อไวรัส พอเป็นตัวหนึ่งแล้ว ร่างกายของเราจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา ทำให้เราไม่เป็นอีก ... นอกจากเชื้อจะเกิดการกลายพันธุ์ ทำให้ร่างกายจำไม่ได้ ก็อาจจะติดใหม่ ซึ่งปัจจุบัน Covid-19 ยังไม่มีหลักฐานว่ามันทำตัวแบบนั้น (ยังไม่กลายพันธุ์) จึงเชื่อกันว่า เราเป็นได้ครั้งเดียวครับ
ขอบคุณอาจารย์ของน้องหมอ Xenon (นักเขียนของเรา) ที่ได้ส่งไฟล์ข้อมูลอันมีค่านี้มาจาก ม.ขอนแก่น ผมและทีมงานแฟลกฟลอกทุกคน ซึ้งใจจริง ๆ ครับ <3
โฆษณา