26 มี.ค. 2020 เวลา 05:40 • ประวัติศาสตร์
“ดับบาวาลา” (Dabbawala)
ผู้ให้บริการส่งอาหารที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
4
ชื่อของ “ดับบาวาลา (Dabbawala)” หมายถึง ผู้ที่ทำหน้าที่ขนส่งปิ่นโตอาหารกลางวันในนครมุมไบ ซึ่งมาจากคำว่า “Dabba” ที่แปลว่า ปิ่นโต และ “Wala” ที่แปลว่า ผู้ส่งของ
เชื่อว่าในหลายวันที่ผ่านมานี้ ผู้คนส่วนใหญ่คงเก็บตัวอยู่ในที่พักของตนเอง ตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของรัฐบาล ซึ่งหลายคนคงมีกิจกรรมให้ทำแก้เบื่ออยู่บ้าง นอกจากการนอนอยู่กับบ้านเฉยๆ ไม่ว่าจะเป็น นั่งดู Netflix เล่นเกม หรือ อ่านหนังสือ ร่วมถึงทำงานอดิเรกที่ตนเองชื่นชอบอื่นๆ
8
แต่กิจกรรมที่สำคัญ ซึ่งขาดไม่ได้เลย ก็คือเรื่องของอาหารการกิน ที่หากไม่ซื้อเก็บเป็นเสบียงไว้ในตู้เย็น หรือเป็นของแห้งต่างๆ ก็ต้องพึ่งพาบริการส่งอาหาร ซึ่งเดียวนี้มีผู้ให้บริการหลายเจ้า เช่น Grab Food , Line man , Foodpanda ,Get หรือ Skootar ฯลฯ
ปัจจุบันธุรกิจบริการส่งอาหารในประเทศไทย มีแนวโน้มการเติบโตและการแข่งขันสูงมากขึ้น
โดยบริการส่งอาหารที่กล่าวมานี้ ช่วยทำให้การใช้ชีวิตในช่วงการเก็บตัวสะดวกมากขึ้นที่เดียว เพราะทำให้ไม่ต้องออกจากที่พักโดยไม่จำเป็น และยังได้เมนูอาหารและร้านที่ตัวเองชื่นชอบ ไม่ว่าอยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ตาม ทำให้อาชีพบริการส่งอาหารจึงยังมีความสำคัญและอยู่ได้ในภาวะวิกฤติเช่นนี้
เมื่อกล่าวถึงธุรกิจบริการส่งอาหารที่จัดว่ามีความเก่าแก่ที่สุดของโลกนั้น น่าจะหนีไม่พัน “ดับบาวาลา” (Dabbawala) หรือ คนส่งปิ่นโต ซึ่งเป็นผู้ให้บริหารส่งอาหารในนครมุมไบ เมืองหลวงของประเทศอินเดียนั้นเอง
“ดับบาวาลา” (Dabbawala) เริ่มต้นขึ้นใน ค.ศ.1890 โดย ชายเชื้อสายปาร์ซี ชื่อ Mahadeo Havaji Bachche ที่เริ่มงานเป็นพนักงานธนาคารที่นครมุมไบ และได้พบว่าคนที่ทำงานในเมืองนี้ ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องการรับประทานอาหารกลางวัน เนื่องจากร้านอาหารใกล้ที่ทำงานมีน้อยและราคาแพง
Mahadeo Havaji Bachche ผู้ริเริ่มธุรกิจส่งอาหารของ Dabbawala ในนครมุมไบ
ขณะเดียวกันวัฒนธรรมของชาวอินเดียเองมักจะคุ้นเคยกับการกินอาหารกลางวันจากปิ่นโตที่ปรุงจากบ้านมาตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้เขาได้แนวคิดในการเริ่มต้นธุรกิจบริการส่งอาหารด้วย “ดั๊บบา” (Dabba) หรือปิ่นโตโฮมเมดที่ทำเองจากที่บ้านส่งตรงถึงคนทำงานในมื้อกลางวันนับแต่นั้น
รูปร่างของ “Dabba” หรือเถาปิ่นโตอาหารกลางวัน เป็นกระป๋องโลหะทรงกลมใช้บรรจุอาหาร มีตั้งแต่ 2-4 ชั้นด้วยกัน
ในระยะแรกผู้ทำอาหารปิ่นโต มาจากกลุ่มแม่บ้านที่ต้องการส่งอาหารกลางวันให้สามีที่ออกไปทำงานนอกบ้านตั้งแต่เช้าตรู โดยนิยมทำเป็นแผ่นแป้ง แกงและของหวาน ซึ่งใช้เวลาเตรียมเสร็จในช่วงสายๆ ก่อนจะส่งให้ทันถึงมือสามีในช่วงพักเที่ยง ทำให้ต้องอาศัยการข่นส่งที่ตรงเวลาที่สุด นั้นก็คือรถไฟ
ด้วยเหตุนี้เองการทำงานของ “ดับบาวาลา” (Dabbawala) หรือ ผู้ให้บริการส่งอาหารกลางวัน (Lunch box delivery man) ในนครมุมไบ จึงมีตารางเวลาที่ค่อนข้างชัดเจนแน่นอน
โดยเริ่มต้นในช่วงเช้า ก่อน 10.00 น. Dabbawala จะออกไปรวบรวมเถาปิ่นโตจากบ้านหรือร้านของลูกค้าที่รับทำอาหาร โดยนิยมใช้จักรยานที่ดัดแปลงให้รับน้ำหนักได้มากขึ้นในการข่นส่งปิ่นโต ให้ได้ครั้งล่ะจำนวนหลายๆใบ
Dabbawala มารับปิ่นโตจากแม่บ้านที่บ้านเพื่อนำไปรวบรวมส่งยังที่หมายที่สถานีรถไฟ
การข่น “ดั๊บบา” (Dabba) หรือ ปิ่นโตอาหารกลางวัน โดยจักรยานของ Dabbawala
จากนั้นเมื่อได้ปิ่นโตอาหารกลางวันแล้ว Dabbawala จะเดินทางไปยังจุดรวมพล ก่อนเวลา 10.30 น. เพื่อคัดแยกปิ่นโตตามรหัสตัวอักษรที่อยู่บนฝา ซึ่งประกอบด้วย 4 รหัส ที่แตกต่างกันด้วยสีและตัวเลข โดยแบ่งเป็น
1. ต้นทางที่รับปิ่นโตอาหาร
2. สถานีรถไฟต้นทาง
3. สถานีรถไฟปลายทาง
4. อาคาร หรือสถานที่ปลายที่ต้องจัดส่งปิ่นโต
Dabbawala กำลังจัดรวบรวมปิ่นโต ตามรหัสที่อยู่บนฝาเพื่อง่ายต่อการจัดส่ง
ฝาของ “ดั๊บบา” (Dabba) ที่จะมีรหัส 4 จุดที่ใช้ในการจัดส่งปิ่นโตระหว่างผู้ส่งและผู้รับ
จากนั้นเมื่อรถไฟเที่ยวที่ 10.45 น. เข้าเทียบชานชาลา Dabbawala จะนำปิ่นโตที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบแล้วส่งขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปยังสถานีปลายทางที่เป็นย่านธุรกิจและแหล่งสำนักงานต่อไป
การข่นปิ่นโตที่จัดระเบียบแล้วขึ้นบนรถไฟ
เวลาประมาณ 11.30 -12.00 น.หลังจากที่รถไฟถึงสถานีปลายทาง จะมี Dabbawala อีกชุดหนึ่งมารับช่วงต่อเพื่อนำปิ่นโตไปกระจายยังสำนักงานของผู้รับ ตามรหัสที่อยู่ข้างบนฝาปิ่นโต ให้ทันช่วงพักเที่ยง ในช่วง ก่อน 13.00 น.
Dabbawala กำลังน้ำปิ่นโตที่ลงจากสถานีรถไฟ กระจายไปส่งตามสำนักงานต่างๆในเวลาพักเที่ยง
หลังจากที่ผู้รับรับประทานอาหารกลางวันจากปิ่นโตที่ส่งมาเรียบร้อยแล้ว Dabbawala ก็จะมาเก็บปิ่นโตกลับในช่วง 13.30 น. แล้วจัดส่งปิ่นโตย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิม โดยส่งทางรถไฟ และ ให้ Dabbawala ที่ต้นทางมารับไปคืนผู้ทำอาหาร เพือจะได้เตรียมจัดส่งอาหารในวันรุ่งขึ้นต่อไป
ผังแสดงตารางเวลาและขั้นตอนการทำงานของ Dabbawala ที่สถานี kurla ในแต่ละวัน
เครือข่ายการเดินทางโดยรถไฟของนครมุมไบ เส้นทางหลักในการขนส่งปิ่นโตอาหารกลางวัน
จะเห็นได้ว่าระบบการส่งปิ่นโตอาหารกลางวันนี้ ถือว่าเป็นระบบข่นส่งด้านอาหารที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งคาดว่าจำนวนปิ่นโตอาหารกลางวันที่จัดส่งในนครมุมไบ ในแต่ล่ะวัน โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 200,000 เถา และ มีผู้ทำงานเป็น Dabbawala เพื่อจัดส่งอาหารถึง 5,000 คน
ซึ่งถ้าเฉลี่ยแล้ว Dabbawala หนึ่งคนจะส่ง ปิ่นโต คนล่ะ 40 เถา ต่อวัน โดยจะทำรายได้ เฉลี่ยอยู่ที่ 10,000-12,000 รูปีต่อเดือน ( 1 บาท เท่ากับ 2.32 รูปี)
ถือได้ว่า Dabbawala เป็นอาชีพหนึ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในย่านเมืองใหญ่อย่างนครมุมไบ ที่มีผู้คนหน่าแนนให้ได้รับความสะดวกในการรับประทานอาหารกลางวันที่สะอาดและประหยัด หากเทียบกับการต้องไปรับประทานข้างทางในเวลาที่จำกัด
อนุสาวรีย์ ของ “ดับบาวาลา” (Dabbawala) ที่แสดงถึงความสำคัญของอาชีพนี้ในนครมุมไบ
แม้ในปัจจุบันจะเริ่มมีผธุรกิจส่งอาหารรูปแบบใหม่มาแข่งขันมากขึ้น แต่ Dabbawala ก็ยังรักษาจุดแข็งของตนเอง ที่ผ่านประสบการณ์ จัดการด้วยมือคนล้วนๆ ตลอด 130 ปี ทำความผิดพลาดที่เกิดจากการส่งอาหารเกิดขึ้นน้อยมาก เรียกได้ว่าอาจเป็นเพียง 1 ครั้งต่อการส่ง 16 ล้านครั้ง ก็ว่าได้
ปัจจุบันเมื่อความทันสมัยกำลังก้าวเข้ามา คู่แข่งในธุรกิจอาหารที่สำคัญของ Dabbawala ก็มีมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม Dabbawala ก็มีการปรับตัวตามสมัยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์บรรจุอาหาร ไปจนถึง การสร้างเพจ และการจัดกิจกรรมกับนักท่องเที่ยว มาช่วยดึงลูกค้าเพิ่มขึ้น
เพจของกลุ่ม Dabbawala ที่นำเสนอกิจกรรมต่างๆ
การจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
แอพพลิเคชันการสั่งอาหารที่ถูกปรับใช้ในการจัดส่งอาหารมากขึ้น
ยังไม่ร่วมไปถึงการขยายตัวของธุรกิจบริการทำอาหารที่ขยายตัวมากขึ้น จากที่เดิมเป็นกลุ่มแม่บ้าน ก็กลายเป็นร้านมืออาหารแบบมืออาชีพ ที่ใช้แอพพลิเคชัน และระบบออนไลน์เข้ามาช่วย ซึ่งคาดว่าธุรกิจส่งปิ่นโตนี้จะยังคงเติบโตขึ้นอีกในอนาคต
โฆษณาการสั่งอาหารปิ่นโตแบบออนไลน์
ภาพโฆษณาการจัดเมนูอาหารปิ่นโตของร้านอาหารในอินเตอร์เน็ตที่มีจำนวนมากขึ้น
สำหรับ คนที่ชอบดูหนังหากจนใจเรื่อง Dabbawala ขอแนะนำให้ดูหนังอินเดียเรื่อง The Lunch Box “เมนูต้องมนต์รัก” ที่สร้างในปี ค.ศ.2013 มาดูกันได้ นะครับ
โปสเตอร์ของภาพยนตร์ เรื่อง The Lunch Box
ในหนังเป็นเรื่องของภรรยาคนหนึ่งที่ทำอาหารส่งปิ่นโตให้สามี แต่ดันไปสลับส่งไปให้ผู้ชายอีกคน จนนำไปสู่การพูดคุยโต้ตอบกันผ่านจดหมายในปิ่นโตและเรื่องราวที่นำไปสู่การหาความหมายของชีวิตของตัวละครทั้ง 2 ในที่สุด
ฉากในเรื่อง The Lunchbox ซึ่ง Fernandes ตัวเอกของเรื่องกำลังอ่านจดหมายในปิ่นโตระหว่างพักกลางวัน
สำหรับผมดูหนังเรื่องนี้จบ นอกจากจะเห็นขั้นตอนการส่งปิ่นโตของ Dabbawala และสภาพการดำเนินชีวิตของผู้คนที่ต้องดิ้นรนต่อสู้นั่งรถไฟวันล่ะหลายชั่วโมงมาทำงานในนครมุมไบ ก็คงไม่ต่างกับชีวิตในเมืองใหญ่ของไทย ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการเดินทาง ทำให้เวลาเป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับทุกคน
ดังนั้นธุรกิจการส่งอาหาร จึงมาตอบโจทย์ความต้องการในข้อนี้ได้อย่างดี เพราะช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางลงได้มาก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่โรคไวรัส COVID-19 กำลังระบาด เช่นนี้ การใช้บริการสั่งอาหารจึงเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้เราผ่านพ้นช่วงเวลาเก็บตัวไปได้เช่นกัน
ในสถานการณ์ระบาดของโรค ไวรัส COVID-19 บรรดา Dabbawala ก็ต้องป้องกันตัวเองขณะทำงานเช่นกัน
อ้างอิง
โฆษณา