9 เม.ย. 2020 เวลา 18:01 • ธุรกิจ
6 วิธีทำเงิน จากการเล่น Instagram เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ ท่านนะคะ
6 วิธีทำเงิน จากการเล่น Instagram
เงินอยู่รอบตัวจริง ๆ นะคะ ซึ่งอยู่ที่ใครจะสามารถเอามันออกมาได้เท่านั้นเอง แน่นอนว่า อยูุ่ที่ความถนัด ความสามารถ และโอกาสของแต่ละคนด้วย ซึ่งก็ย่อมต่างกันอยู่แล้ว
การหาเงินออนไลน์ สำหรับหลายท่านอาจจะยังแปลกอยู่ ความน่าเชื่อถือน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ยากมากกว่าจะได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะจากคนใกล้ตัว แน่นอนว่าได ฯ เคยเจอมากับตัวเองทั้งนั้น
ด้วยเพราะเป็นคนที่ไม่เคยชอบงานประจำเลย ทำตามคำสั่งใครไม่ได้และรอรับเงินเฉพาะช่วงปลายเดือนอย่างเดียวไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นคือ "ไม่ชอบตื่นเช้า" แฮ่
ตั้งแต่จบมหาลัย ก็เลย เป็นฟรีแลนซ์ ตลอดมา
เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ
บทความนี้จะพูดถึงการหาเงินจากการใช้ Instagram หรือเรียกสั้น ๆ ว่า IG หลายคนคงจะรู้จักกันดี หากท่านใดยังไม่รู้ว่าคืออะไรลองดาวโหลดมาเล่นกันดูนะคะ
Instagram เป็นโซเชียลตัวหนึ่งแน่นอนว่า Facebook เป็นเจ้าของไปเรียบร้อยแล้ว มีหลายคนใช้ IG เป็นประโยชน์มากในการสร้างรายได้ และมีคนรวยจากการใช้เพียง IG แล้วด้วย เพื่อไม่ให้เห็นว่าเพียงแค่โม้ ลองอ่านบทความตามลิ้งก์ด้านล่างนี้ดูนะคะ
ก็มีอีกมากมายที่ทำรายได้จากการใช้ IG เอาล่ะ สำหรับคนที่อยากจะเริ่มหารายได้จาก IG บ้างลองอ่านแล้วนำไปปรับใช้กันได้เลย ซึ่งไดก็ลอง ๆ นั่งคิดดูว่ามันมีอะไรบ้าง ซึ่งก็มี 6 ข้อดังนี้นะคะ
1.ขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์
แน่นอนว่าปัจจุบันแทบทุกคนคงจะรู้จักการขายของออนไลน์กันบ้างแล้ว ก็คือการจำหน่ายสินค้าและบริการอยู่ในแพรตฟอร์มออนไลน์นั่นเอง
บน IG ปัจจุบันสามารถเพิ่มสินค้าลงไปในร้านค้าได้แล้วด้วย ซึ่งใครที่ขายอยู่บนช่องทางอื่นอยู่แล้ว ลองมาขายบน IG ด้วยก็จะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มอีก
4
กลุ่มคนที่เล่น IG นั้นจะแตกต่างกับโซเชียลตัวอื่น ๆ นะคะ ส่วนใหญ่ดารา เซเลบ คนดัง วัยรุ่น นิยมเล่นกัน
2
ปัจจุบัน IG มีการให้เพิ่มสินค้าลงในร้านได้ให้ลูกค้ากดสั่งซื้อโดยตรงผ่านหน้า IG เลย โดยไม่ต้องทักแชทเพิ่มเติมก็ยังได้แล้ว สะดวกมาก ๆ แต่ว่าจะต้องเป็นบัญชีธุรกิจเท่านั้นถึงจะเพิ่มสินค้าได้นะคะ และจะต้องมีเพจของ Facebook ที่เชื่อมกันอยู่จะทำให้ลงสินค้าเชื่อมกันได้เลย (งงมั้ย ?)
สลับบัญชี IG
ขั้นตอนการสลับบัญชี จาก ส่วนตัว เป็นแบบธุรกิจหรือครีเอเตอร์
1.เข้าระบบ Instagram
2.กดที่ขีด 3 ขีดด้านบนมุมขวา
3.กดที่เมนู "ตั้งค่า" ล่างขวาสุด
4.เลือกเมนู "บัญชี"
5.จากนั้นก็กดเปิดบัญชีครีเอเตอร์หรือบัญชีธุรกิจได้เลย ซึ่งก็จะมีให้เลือกว่าจะเป็นอะไร เช่น บล็อกเกอร์ เกมเมอร์ นักเขียน ฯลฯ เป็นต้น
6.พอเสร็จแล้วก็อย่าลืมไปเปิด Page Facebook เพื่อทำการเชื่อมเข้าด้วยกันด้วยนะคะ ลองดูวิธีการเชื่อมในเว็บนี้นะคะ เขียนไว้ค่อนข้างละเอียดทีเดียว >> https://www.primal.co.th/th/social/instagram-shopping/
5
หาก IG ไหนที่เชื่อมกับ Page Facebook เรียบร้อยแล้ว และลงสินค้าเรียบร้อยก็จะเป็นดังภาพตัวอย่างด้านล่างนี้ค่ะ ลูกค้าจะเข้าเลือกซื้อสินค้าได้เองเลย ภาพนี้เป็นตัวอย่าง เป็นร้าน byhellomissmay ค่ะ
3
ตัวอย่างร้านค้าบน IG
สำหรับคนที่ใช้ในการขายสินค้า ขายของออนไลน์นั้น ก็จะขาด IG ไม่ได้เลย เอาไว้โชว์สินค้าได้ ลงรีวิวได้ ไลฟ์สดขายยังได้เลย
ส่วนจะขายได้ไหมนั้น ก็ขึ้นอยู่กับทักษะและวิธีการทำตลาดของแต่ละคนนะคะ ใครทำการตลาดเก่งกว่า ขายเก่งกว่าก็จะขายดีกว่าเป็นเรื่องปกติ บทความนี้ก็ขอข้ามกลยุทธ์ในการขายไปก่อนนะคะ เพียงแต่มาแนะนำว่า ใช้ IG ขายของได้นะ
ตัวอย่างร้านค้าต่าง ๆ บน IG นะคะ อาจจะยกตัวอย่างมาไม่หมดเพราะมีหลายร้านมาก ๆ นับไม่ถ้วน
ร้าน babybrightclub
ร้าน babybrightclub
ร้าน ikeathailand
ร้าน ikeathailand
ร้าน ceramiconnoisseus
ร้าน ceramiconnoisseus
สังเกตว่าแต่ละร้านที่ยกตัวอย่างมาก็มีทั้งภาพสินค้าให้ดี และมีการลงสินค้าในร้านค้า IG สำหรับให้กดสั่งซื้อได้ทันทีเลยค่ะ
แต่ ถ้าถามว่าหากไม่อยากจะเชื่อมกับ Page Facebook ให้มันยุ่งยากแล้วโพสต์ขายสินค้าเลยได้ไหม คำตอบคือ ได้นะคะ
เพราะก่อนหน้าที่จะมีการอัพเดตให้ลงสินค้าได้พ่อค้าแม่ค้าก็โพสต์ขายกันปกติ แล้วให้ลูกค้าทักไปสั่งซื้อทางไลน์ (Line) หรือไลน์แอด (Line@) หรือทัก DM ของอินสตาแกรมเลยก็ได้ค่ะ
1
2. การขายบริการ / ความสามารถ
การขายบริการ / ความสามารถ
นอกจากสินค้าที่จับต้องได้แล้ว ก็ยังสามารถขายบริการได้ด้วย ส่วนจะบริการอะไรก็ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะ ก็ให้มองจากสิ่งที่เราถนัดก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น
1
1.รับบริการถ่ายภาพ ถ่ายอะไรได้บ้างก็ลงรายละเอียดไปเลย
2. รับวาดภาพเหมือน
3. รับทำของขวัญ
4.บริการส่งของขวัญเซอร์ไพรส์
5.รับออกแบบบ้าน
6.รับเขียนบทความ
7.รับออกแบบเว็บไซต์
8.รับหิ้วสินค้า
9.รับหาสินค้า เช่น หาต้นไม้ หาหนังสือ หาเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ
10.รับทำกรอบรูป
11.รับทำโฟโตบุ๊ค
12.รับฝากขาย
13.รับแปลภาษา
14.รับถอดเทป
ฯลฯ
8
จะบริการอะไรก็ตามสะดวก ตามถนัดของแต่ละคนเลย ใครมีความสามารถอะไรงัดออกมาใช้ให้หมด กรณีที่ไม่มีสินค้าจะขายก็ลองเปลี่ยนมาเป็นขายบริการต่าง ๆ ดูก็ได้นะคะ
3. รับรีวิว
รับรีวิว
สำหรับคนที่เป็น Influencer นั้นงานรีวิวจะขาดไม่ได้เลย ส่วนใครจะเป็นการรีวิวอะไรได้บ้างก็แล้วแต่ภาพลักษณ์ของเราด้วยนะ
1
เช่น หากใน IG ของคุณจะโพสต์ภาพสไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว คุณก็อาจจะได้รับ Sponsor จากเหล่า โรงแรม รีสอร์ท ห้องพัก ร้านอาหาร ต่าง ๆ หรือถ้าหากคุณเป็นสายคาเฟ่ ชอบดื่มกาแฟ เช็คอินร้านเก๋ ๆ ก็จะได้สปอร์นเซอร์จากเหล่าคาเฟ่ต่าง ๆ เหล่านั้น
2
สำหรับใครที่ชอบเรื่องความสวยงาม แต่งหน้าเก่ง แต่งตัวมีสไตล์ ก็จะมีงานรีวิวเครื่องสำอางค์ สกินแคร์ เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา ต่าง ๆ เข้ามาได้
2
ส่วนเรทราคาการรับรีวิวนั้น ก็แล้วแต่คนติดตามนะคะ ยิ่งคนติดตามเยอะยิ่งได้ราคาสูง และยิ่งคุณเป็นคนดัง เป็นเน็ตไอดอลในระดับหนึ่งเลย ค่ารีวิวสินค้าหรือสถานที่แต่ละครั้งไม่น้อยเลยค่ะ
ซึ่งแน่นอนว่ามีตั้งแต่หลัก 100 - 1,000,000 บาทเลยทีเดียว แล้วแต่ความสามารถและการตกลงกันระหว่างผู้จ้างกับเราด้วย
หากเป็นดารา เซเลป คนดังต่าง ๆ การโพสต์ IG เพียง 1 โพสต์นั้นอาจจะได้เงินมาหลายล้านเลยนะคะ แต่ว่าคนธรรมดาแบบเรา ๆ เป็น Influencer ตัวน้อย ๆ ก็ค่อย ๆ ทำไปค่ะ พยายามทำ IG ให้มีสไตล์ มีความน่าสนใจค่ะ แล้ววันหนึ่งลูกค้าจะมาจ้างคุณให้รีวิวสินค้าของเขาแน่นอน พยายามเข้านะคะ
4. ขายแบบดรอปชิป / รับหิ้ว
ขายแบบดรอปชิป
สำหรับการขายแบบดรอปชิปนั้นจะแตกต่างกับการรับหิ้วนะคะ แต่ขอรวบมาอยู่ในข้อเดียวกันเลย เพราะเป็นการทำงานที่คล้าย ๆ กัน
การขายแบบดรอปชิป คือ การที่เราเพียงโพสต์สินค้าหรือบริการของคนอื่น แล้วพอมีลูกค้ามาสั่ง เราก็ส่งออเดอร์ให้เจ้าของร้านตัวจริง ส่วนเราก็กินส่วนต่างหรือได้เปอร์เซ็นตามตกลง
1
ข้อดีของการทำดรอปชิปคือ เราไม่ต้องลงทุนอะไรเลยสักบาทก็ทำได้ แถมไม่ต้องลงแรกเยอะอีกด้วย เช่น ต้องการขายแก้วกับความเย็น ก็ไปคุยกับร้านที่เขามีสินค้าอยู่แล้ว จะออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตามสะดวกเลย แล้วถามเขาว่ารับดรอปชิปไหม ? หากเขารับก็ถามไปเลยว่าจะแบ่งเปอร์เซ็นให้เรา หรือให้เราขายโดยการบวกราคาเพิ่มเอง
1
หากเขาแบ่งเปอร์เซ็นให้ เช่น อาจจะได้สัก 5% ของราคาสินค้า หรือตามตกลง หากเขาให้ตั้งราคาเพิ่มเอง เช่น ของขายในร้านเขาราคา 9 บาท เราก็อาจจะเอามาขายที่ 12 บาท ค่าส่งคิดต่างหาก เราก็จะได้กำไรเข้ากระเป๋าเลย 3 บาท เวลามีลูกค้าสั่งสินค้าจากเรา เราก็รับเงินจากลูกค้ามา 12 + ค่าส่ง จากนั้นเราก็โอน 9 + ค่าส่ง ให้กับร้านค้า พร้อมแจ้งที่อยู่ของลูกค้าให้ร้านค้าแพ็คของส่งแทนเราเลย บางร้านส่งในนามร้านของเราก็ยังได้ค่ะ
ประเด็นคือ ต้องไปคุยกับร้านที่เราต้องการจะดรอปชิปสินค้าจากร้านเขานะคะ
ลองฟังคลิปสอนทำดรอปชิปคร่าว ๆ ดูในคลิปนี้นะคะ >> https://www.youtube.com/watch?v=DvGlEb6vMeo หรือคลิปนี้ >> https://www.youtube.com/watch?v=5MHo0mrk8iQ นะคะ
ดรอปชิป
ต่อไปการรับหิ้วสินค้านะคะ
เป็นการรับหิ้ว คือ เราจะต้องไปซื้อสินค้าแทนลูกค้านั่นเองแล้วหิ้วมาส่งให้กับเขา ซึ่งต่างจากดรอปชิปคือ เราอาจจะต้องลงทั้งเงิน ลงทั้งแรง และลงทั้งเวลาเลยค่ะ
1
การรับหิ้วสินค้า เราอาจจะคิดราคาต่อชิ้นที่เราหิ้วก็ได้ เช่น ถ้าลูกค้าสั่งหิ้วสินค้า 10 ชิ้น เราคิดราคาค่าหิ้วชิ้นละ 20 บาท เราก็ได้มาแล้ว 200 บาท นั่นเอง ซึ่งจะถูกหรือแพงกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการหาสินค้านั้น ๆ รวมถึงขนาดของสินค้าด้วยค่ะ โดยสั่งไปหิ้วเฟอร์นิเจอร์มาค่าหิ้ว 20 มันคงไม่ใช่เนาะ
ถ้าอยากรู้ว่าคนเขารับหิ้วอะไรกันบ้างตอนนี้ใน IG ก็ลองไปหาข้อมูลดูนะคะ โดยค้นหาคำว่า "รับหิ้ว" หรือ #รับหิ้ว รับรองว่าเจอเพียบเลย คุณจะเลือกหิ้วเหมือนเขาหรือรับหิ้วอะไรอย่างอื่นก็ตามสะดวกเลยค่ะ
รับหิ้ว
คุณจะรับหิ้วอะไรก็ได้นะคะ ที่คิดว่าหิ้วแล้วส่งไปถึงลูกค้าได้แน่นอน อาจจะยังไม่ต้องทั่วประเทศก็ได้ อาจจะส่งในเขตอำเภอ ในเขตจังหวัดของคุณก่อนก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น รับหิ้วขนมไทย รับหิ้วอาหารอร่อยร้านดัง บริการส่งถึงบ้านในเขต จังหวัด . . . ก็ว่ากันไป
ค่าหิ้วต่อครั้งเท่าไหร่ก็แจ้งลูกค้าให้ชัดเจน รวมถึงค่าส่งสินค้าด้วย
หรืออยากจะหิ้วให้คนทั้งประเทศเลยก็ได้ เช่น หากคุณไปเดินห้างบ่อย ๆ เข้า Shop แบรนด์เนมต่าง ๆ ก็รับหิ้วสินค้าในแต่ละ Shop มาได้ โดยวิธีที่เขานิยมทำกันก็ ถ่ายรูปสินค้าจากช็อปต่าง ๆ มาพร้อมราคาสินค้าหน้าช็อปเลย จากนั้นก็ลงรายละเอียดค่าส่ง ค่าหิ้วให้เรียบร้อย หากมีคนสั่งมาให้หิ้วเราก็รับเงินจากลูกค้ามาแล้วกลับไปซื้อที่ห้างใกล้บ้าน แล้วส่งพัสดุไปให้ลูกค้า เท่านั้นเองค่ะ
1
ปัจจุบันมีคนทำอาชีพรับหิ้วจนรวยไปแล้วหลายคนมากนะคะ แต่อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่ถ้าสู้ไม่ถอย รับรองว่าคุณเองก็ทำได้เหมือนกัน
1
5. ใช้เป็นโปรไฟล์
ใช้เป็นโปรไฟล์
สำหรับข้อนี้อาจจะไม่ได้ใช้ IG ในการทำเงินหลักเท่าไหร่ แต่จะใช้เป็นตัวเสริมมากกว่าค่ะ ใช้เป็นโปรไฟล์เก็บผลงานของเราเอาไว้ให้ลูกค้าเข้ามาดูได้
1
เช่น เป็นช่างภาพ แต่ต้องการหาลูกค้า อยากทำให้คนรู้จักว่าเราถ่ายภาพแนวไหนบ้าง ก็ใช้ IG ลงภาพที่เราถ่าย พร้อมกันนั้นก็ใช้โพสต์รับบริการถ่ายภาพด้วย หากภาพที่ถ่ายนั้นสวยราคาไปกันได้ก็จะมีคนจ้าง เป็นต้น
2
รวมถึงเอาไว้เป็นโปรไฟล์ของเราด้วย เช่น หากเป็น Blogger แล้วคนอยากจะเห็นไลฟ์สไลต์เราก่อนจะตัดสินใจจ้างเราเขียนบล็อกให้ เราก็อาจจะต้องเอาหน้าโปรไฟล์ IG ให้เขาดูด้วย รวมถึงเป็นช่องทางในการติดต่องานอีกช่องทางได้เลย
1
6. สื่อในการโปรโมทสินค้าและบริการ
สื่อในการโปรโมทสินค้าและบริการ
ก็จะคล้าย ๆ กับข้อ 5 แต่ก็มีแตกต่างเล็กน้อย
เช่น หากคุณทำบริษัทรับออกแบบป้ายไวนิล รับออกแบบหน้าเว็บ รับวาดรูป รับบริการอะไรต่าง ๆ ขายสินค้าต่าง ๆ ในช่องทางอื่นเป็นหลัก ก็ใช้ IG ลงภาพสินค้าและบริการเหล่านั้นของคุณได้
สังเกตว่าหลาย ๆ บริษัทใหญ่ ๆ ต่างใช้ทุกแพลตฟอร์มเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากที่สุด หลากหลายที่สุด ยิ่งคนรู้จักเยอะก็จะยิ่งทำให้คนเกิดความคุ้นเคยกับแบรนด์ ทำให้มีโอกาสในการขายมากขึ้น เมื่อเทียบกับร้านโนเนม แบรนด์โนเนมที่ถามใคร ใครก็ไม่รู้จัก ก็คงไม่มีใครกล้าซื้อสักเท่าไหร่
ยกตัวอย่าง Dell ก็ยังมี Dell แต่ละประเทศบน IG เลยค่ะ ของไทยก็ยังมี Dellthailand แถมยังมีทั้ง Shop online บน IG เรียบร้อยเลยด้วย พร้อมทั้งมีการโพสต์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเป็นการโปรโมทสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตัวเองเสมอ
Dellthailand
ทุกแพลต์ฟอร์มมันมีความน่าสนใจในตัวมันเสมอ และทุกที่มันมีคน ตรงไหนมีคนแสดงว่าตรงนั้นจะต้องมีเงิน พอมีเงินก็แสดงว่าเขาสามารถซื้อขายสินค้าได้ IG ก็เช่นกัน ฐานลูกค้าของ IG อาจจะต่างจาก Facebook TikTok Twitter ทุกอย่างมันมีความน่าสนใจของมันหากเราเลือกใช้ให้เป็น ปรับใช้ให้ได้ มันก็ทำกำไร สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้เราได้เสมอ
2
ประเด็นสำคัญคือ ลงมือทำแล้วหรือยัง ?
ยังมีอีกหลายอย่างที่ IG สามารถช่วยได้ ทำเงินได้ แต่ว่า ไดอารี่ความฝัน คิดออกเท่านี้นะคะ แฮร่ ก็อาจจะไม่แน่นเท่าไหร่สำหรับการลงรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกเพราะมันคงจะยาวไป หากได ฯ ขยันก็อาจจะมาเขียนแบบแตกประเด็นย่อย ๆ ในแต่ละอย่างให้ละเอียดมากขึ้นนะคะ
ก็หวังว่าจะได้ไอเดียอะไรบ้างนะคะ
และรบกวนกดติดตาม กดไลก์ กดหัวใจ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ได ฯ ด้วยนะค้าา ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านจ้าาาาา
#ไดอารี่ความฝัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา