' ซื้อนมแต่ได้มากกว่านม '
บันทึกไว้อ่านภายหลัง...เมื่อใดหากรู้สึกท้อใจ จะได้มีกำลังใจสู้ต่อไป
วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พุทธศักราช 2563
เวลา 13.37 น
ช่วงเวลาที่โลกทั้งใบถูกศัตรูที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มันกำลังจ้องทำร้ายคนทั้งโลก
ทุกคนเรียกมันว่า ' โควิด-19 '
ผมออกมาบิ๊กซี -ซุปเปอร์เซ็นเตอร์
เพื่อซื้อนมพาสเจอร์ไรส์และน้ำยาขัดรองเท้า
ตั้งใจว่าจะใช้เวลาที่ต้องกักตัวเองในบ้านไปกับการดูแลรองเท้าให้ใหม่เหมือนเพิ่งถอยจากร้านขายรองเท้า
ส่วนนมซื้อให้กับลูกสาว หลังจากผมได้ของตามที่ต้องการแล้ว ผมก็มุ่งหน้ามาทำธุระที่ห้องน้ำ
ขณะที่กำลังเดินเข้าห้องน้ำอยู่นั้น พนักงานทำความสะอาดเธอยิ้มให้กับผมแล้วเอ่ยขึ้น
"เชิญคร้า นี่เจลล้างมือค่ะ ห้องน้ำผู้ชายด้านนี้ค่ะ" ผมยิ้มให้พี่เค้าและตอบกลับไป
"ขอบคุณมากครับ"
ผมเดินผ่านประตูห้องน้ำเข้าไป หามุมที่วางของที่ซื้อมา ผมพยายามเลือกวางตรงที่แห้งที่สุด
แล้วผมก็วางชิดกำแพงตามในภาพที่ใช้ประกอบโพสต์นี้
ในใจผมรู้สึกว่ามันสะอาดจริงๆ ไล่ตั้งแต่พื้นที่แห้ง กลิ่น และเคาเตอร์ยันกระจกที่ใช้ส่องหน้า
ผมนี่รีบเดินไปหาพนักงานทำความสะอาดซึ่งพี่เค้ายืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำผู้หญิง กำลังชี้ไม้ชี้มือเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ
"โหหห...สะอาดมากๆเลยครับ"
"อ๋อ...เป็นการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ค่ะ"
แล้วพี่เค้าก็รีบให้คำแนะนำกับลูกค้าท่านอื่นต่อไป
"เจลล้างมือที่นี่นะคร้า"
"ขอบคุณค่ะ" ลูกค้าสุภาพสตรีท่านอื่นขานรับพี่เค้า
ผมยิ้มให้กับพนักงานทำความสะอาดแล้วเดินเข้ามาเพื่อทำธุระส่วนตัวต่อ หลังจากฉิ้งฉ่องแล้วก็ล้างมือด้วยสบู่เหลว ความรู้สึกประทับใจกับความสะอาดของห้องน้ำครั้งนี้มันมากกว่าทุกครั้งนะ
พนักงานคนนี้ไม่ใช่แค่ทำงานเพื่อให้เวลามันผ่านไปวันๆ พี่เค้าทำเสมือนหนึ่งว่าเค้าดูแลความสะอาดเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อไวรัสทุกๆสายพันธ์ุ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการ และสกัดกั้นการแพร่เชื้อ เป็นการขานรับนโยบายหยุดเขื้อเพื่อชาติ
อย่าลืมนะครับ ห้องน้ำที่มีอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมที่เหมาะจะเป็นที่พักและแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
ผมมักจะสังเกตุพฤติกรรมของผู้คนรอบข้าง และชอบเก็บสิ่งดีๆมาพัฒนาวิธีคิด ปรับปรุงทัศนคติในการใช้ชีวิตของตนเองอยู่เป็นประจำ
พี่คนนี้ช่วยให้ลูกค้าลดโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ได้ถึง 99.99% ถ้าจะบอกว่า ความรับผิดชอบในหน้าที่ของแต่ละคน ส่งผลต่อส่วนรวมจริงๆ
"ห้องน้ำไม่มีกลิ่นเลย ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆน้าาา"
"ขอบคุณค่ะ"
เป็นการพูดในขณะที่กำลังเดินผ่านพี่เค้าตอนที่จะกลับบ้าน
เหตุการณ์นี้คล้ายคำสอนที่ผมเคยอ่านเจอในพระบรมราโชวาทในหลวงรัชกาลที่ 9
ความว่า....
"...แต่ละคนนั้นเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งๆ ซึ่งจะรวมกันเป็นชาติบ้านเมือง ทุกคนต้องรักษาสุขภาพพลานามัยให้ดี และทำงานให้ดี
ชาติบ้านเมืองจึงจะแข็งแรงและเจริญมั่นคงสมดุลย์ทุกส่วน ถ้าบุคคลทำตัวให้บกพร่องอ่อนแอ บ้านเมืองก็จะมีจุดบกพร่องและอ่อนแอไปด้วย ทุกคนจึงต้องบำรุงรักษาบ้านเมืองให้เหมือนบำรุงรักษาร่างกายและจิตใจตนเอง และผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดอยู่ ก็ต้องปฎิบัติขวนขวายให้สำเร็จลุ่ล่วงไปโดยพลัน ด้วยความรู้และความสามารถ
ด้วยความสะอาดกายสะอาดใจ ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ และด้วยความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน
ผลการปฎิบัติตนปฎิบัติงานของแต่ละคนแต่ละฝ่าย จักได้ประกอบส่งเสริมให้ประเทศชาติ มีความสมบูรณ์มั่นคงขึ้นตามที่มุ่งหมาย..."
พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย
ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2529
วันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2528
ท้ายที่สุดนี้ แค่รับผิดชอบหน้าที่ของแต่ละคนให้ดีที่สุด นั่นหมายถึง การมีส่วนช่วยให้สังคมมีความเข้มแข็ง เมื่อทุกๆหน่วยของสังคมเข้มแข็ง
ประเทศชาติก็มั่นคง น้ำนมช่วยเสริมให้กระดูกของร่างกายแข็งแกร่ง คนที่รับผิดชอบหน้าที่ตนเองได้ดีย่อมช่วยให้ประเทศชาติแข็งแกร่งเช่นกัน
เรื่องเล่าหลังพวงมาลัย
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
